ทุกเช้าคนนับล้านตื่นเช้ามาจิบกาแฟ ฟังเพลงโปรดอย่างสบายใจ และเป็นไปได้อย่างยิ่งว่าเพลงที่ฟังอยู่นั้นจะมาจากบริการสตรีมมิ่งที่กำลังเฟื่องฟูได้เปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคเพลงของผู้คนอย่างมีนัยสำคัญ จากงานวิจัยของดีลอยต์เรื่องชีวิตดิจิทัลซึ่งกำลังเติบโตในเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ระบุว่า การฟังเพลงผ่านสตรีมมิ่งคือหนึ่งในสามความบันเทิงทางดิจิทัลอันดับต้นๆ ที่นิยมในหมู่คนหนุ่มสาว เนื่องจากจำนวนผู้ที่หันมาใช้ไลฟ์สไตล์ดิจิทัลมากขึ้นโดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว มีการประมาณการว่าตลาดสตรีมมิ่งดนตรีในภูมิภาคนี้จะเติบโตกว่า 13 ล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปี 2570
การฟังเพลงผ่านแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งมีอัตราการขยายตัวอย่างแข็งแกร่งและต่อเนื่องนี้ ได้สร้างโอกาสให้อุตสาหกรรมดนตรีทำรายได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยในระยะยาว อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ตามมากับความเติบโตดังกล่าวนี้ด้วยคือ กลุ่มมิจฉาชีพได้พุ่งเป้าและต้องการจะขโมยรายได้อันชอบธรรมจากเหล่าศิลปินและนักดนตรี ทำให้อุตสาหกรรมสตรีมมิ่งดนตรีเองก็ระแวดระวังและลงมือลงแรงต่อสู้เพื่อจะเอาชนะกลุ่มมิจฉาชีพ ที่ขณะนี้ได้นิยมใช้รูปแบบการฉ้อโกงด้วยบอทผ่านการสตรีมโหลและหลอกการฟังลวงมาเป็นเครื่องมือหลักในการขโมยรายได้
เหตุที่เศรษฐกิจสตรีมมิ่งโต สู่การโกง
ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจวิธีการและรูปแบบของเศรษฐกิจสตรีมมิ่ง รายได้หลักมาจากผู้ใช้บริการที่จ่ายค่าสมาชิกรายเดือน โดยจำนวนเงินสะสมจะไปรวมอยู่ที่กองกลาง แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งจะรับส่วนแบ่งจากกองกลาง เป็นสัดส่วนเปอร์เซ็นต์ตามที่ตกลง แต่ตัวเลขรายได้ส่วนใหญ่มักจะตกอยู่กับค่ายเพลง ตัวแทนจำหน่าย ผู้ผลิต และสมาคมผู้สะสมเพลง พวกสุดท้ายในรายการนี้คือนักดนตรี จะได้รับรายได้ตามที่ระบุไว้ในสัญญาว่าจ้าง
จากเส้นทางการเงินดังกล่าวนี้เอง ทำให้พวกฉ้อโกงมองหาช่องโหว่ดูดรายได้จากผู้ประกอบการเพลงด้วยกันสองส่วนหลัก หนึ่งในนั้นคือ การสร้างบอทมาลวงให้มีการเปลี่ยนถ่ายรายได้จากครีเอทีฟโฆษณามาเข้ากระเป๋าพวกเขาเอง โดยมิจฉาชีพจะเปลี่ยนการเล่นเพลงหรือแทร็ก "ปลอม" วนในลูปของเจ้าของเพลงที่ไม่ใช่ศิลปินที่อยู่ในแพลตฟอร์ม ทำให้ศิลปินรายนั้น "มีจำนวนผู้ฟัง" เพิ่มขึ้นและดูเหมือนจะได้รับความนิยมถูกจัดอันดับและมีเรตติ้งสูงขึ้นบนแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง ซึ่งบอทสามารถช่วยให้ผู้ที่ไม่ใช่ศิลปินบนแพลตฟอร์มขโมยรายได้เป็นล้านๆ เหรียญสหรัฐไปจากศิลปินที่มีความชอบธรรมตามกฎหมายได้ด้วยการสร้างบัญชีปลอมหลายพันบัญชีและสามารถเล่นเพลงซึ่งพวกมิจฉาชีพมาขึ้นทะเบียนไว้
ในบริการสตรีมมิ่งหลายราย ได้กำหนดระยะเวลาเล่นเพลงนั้นต้องยาวกว่า 30 วินาทีจึงจะสามารถสร้างรายได้ได้ ด้วยเวลา 86,400 วินาที พวกบอทจึงสามารถเล่นเพลงได้ถึง 2,880 เพลงต่อวันต่ออุปกรณ์หนึ่งเครื่อง บอท 1,000 ตัวก็เล่นได้ 2.9 ล้านแทร็ก ประมาณว่าในหนึ่งเดือน มีการเล่นเพลงไม่ถูกกฎหมาย 86.4 ล้านครั้ง หากเทียบเป็นเงินแล้วเกือบหนึ่งในสี่ล้านดอลลาร์คือรายได้ที่หายไป
สร้างเครื่องมือลวงผู้ฟัง
จากรายงานผลสำรวจตลาดของ Counterpoint เผยว่า รายได้และสมาชิกที่จ่ายเงินให้แก่ Spotify เติบโตขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี 2563 ส่วนหนึ่งมาจากความนิยมใช้งานอย่างมากในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ประกอบกับแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งอย่าง Spotify, Amazon และ Apple Music ได้เปิดให้บริการในภูมิภาคนี้ ผู้ใช้ที่สนใจจะลองฟังเพลงผ่านสตรีมมิ่งมีจำนวนมากขึ้น จากทั้งข้อเสนอพิเศษช่วงโปรโมชัน การให้ทดลองใช้ฟรี อีกทั้งเพลย์ลิสต์ที่สามารถปรับแต่งได้ตามใจชอบและเบราเซอร์เข้าถึงได้ง่าย ล้วนดึงดูดกลุ่มผู้ใช้หน้าใหม่ๆ หันมาใช้เแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งเหล่านี้
ด้วยพฤติกรรมของผู้ใช้บริการที่มีเวลาน้อยส่วนใหญ่มักจะนิยมการติดตามลิสต์เพลงฮิต หรือฟังดนตรีที่กำลังกำลังอยู่ในกระแส แทนที่จะสร้างเพลย์ลิสต์ของตัวเอง และนี่คือหนึ่งช่องโหว่ที่สอง ที่มิจฉาชีพไร้ยางอายใช้ลูกเล่นต่างๆ ของบอทพลิกแพลงขั้นตอนตามปกติของการทำงานในแพลตฟอร์ม โดยใช้ผ่านสตรีมมิ่งครั้งละปริมาณมาก หรือ bulk streaming ส่วนวิธีการหารายได้นั้นก็ไม่ได้ซับซ้อน พวกฉ้อโกงจะสร้างอุปกรณ์ฟาร์มบอทขนาดใหญ่ไว้ฟังแทร็กเป็นพันเป็นหมื่นครั้ง ซึ่งมีทำให้เพลงนั้นขยับขึ้นตำแหน่งที่สูงขึ้นในการค้นหา เป็นไปได้ว่าอาจได้รับการบรรจุไว้ในเพลย์ลิสต์ยอดนิยม และที่สำคัญที่สุดคือ ดึงดูดความสนใจของคนฟัง ด้วยกระบวนการดังกล่าว ผู้ให้บริการบอทจึงเล่นกับระบบ โดยใช้ลูกเล่นซึ่งเป็นไม้ตายของการโปรโมตดนตรี นั่นคือสร้างจุดน่าสนใจเพื่อดึงดูดความสนใจ แม้สิ่งนี้จะไม่ส่งผลกระทบด้านรายได้ต่อศิลปินโดยตรง แต่มันก็ย้ายเป้าหมายอย่างหน้าตาเฉย คนที่มีทุนทรัพย์สามารถว่าจ้างผู้ให้บริการบอทเพื่อทำให้คนหันมาสนใจ แต่ไม่ได้สนใจศิลปินซึ่งควรเป็นเป้าหมายที่แท้จริง
วิธีเอาชนะบอทและสร้างความปลอดภัย
สำหรับค่ายเพลงและผู้ให้บริการสตรีมมิ่งมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องตรวจสอบความถูกต้องของสตรีมมิ่งเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้แน่ใจว่าการแบ่งปันผลประโยชน์กันอย่างเที่ยงธรรมในหมู่ศิลปินและเจ้าของลิขสิทธิ์ อย่างไรก็ตาม ภัยจากการฉ้อโกงด้วยบอทยังคงคุกคามวงการนี้อย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับวงการเกมมิ่งและอีคอมเมิร์ซ และยังไม่มีวี่แววว่าจะหายไป
กุญแจสำคัญในการก้าวไปข้างหน้าในเกมนี้คือการเตรียมพร้อมในระดับองค์กร ธุรกิจควรมีทีมเฉพาะกิจไว้คอยอัปเดตนวัตกรรมล่าสุดของบอทในการลวงสตรีมมิ่ง รวมทั้งมาตรการต่างๆ ของการป้องกันการฉ้อโกงด้วย ถ้าทำได้ แอปพลิเคชันของเราก็จะทันเกม ด้วยการอัปเดตเกี่ยวกับซอฟต์แวร์ที่สามารถป้องกันแอปได้แต่เนิ่นๆ การฉ้อโกงส่งผลขนาดบ่อนทำลายความไว้วางใจของผู้ใช้ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งยวดต่อธุรกิจของตน ให้แน่ใจว่าเราลงมือทำงานเพื่อรักษาความไว้วางใจนี้ และแจ้งให้ผู้ใช้ทราบถึงการดำเนินการเพื่อจัดการกับการฉ้อโกงของบอท
อย่างไรก็ตาม แม้เราจะระแวดระวังอย่างดีแล้ว แต่บอทเองก็ยังสามารถเจาะเข้าแอปได้โดยไม่ถูกตรวจจับได้และยังสร้างความเสียหายแก่แอปได้มากมาย การตรวจจับบอทนั้นเป็นงานที่ต้องลงทุนลงแรง นอกจากนั้นการเฝ้าระวังทำให้ทีมไอทีต้องเสียเวลามาก ด้วยเหตุนี้ ธุรกิจจึงต้องแน่ใจว่าทีมไอทีของตนมีเครื่องไม้เครื่องมือพร้อมจะรับมือ โดยจะต้องมีเครื่องมือระดับแนวหน้าที่ใช้ในการตรวจหาและกำจัดบอทด้วยปัญญาประดิษฐ์ machine learning และใช้ประโยชน์จากความซับซ้อนของข้อมูลเซ็นเซอร์ไม่ระบุตัวตน จากปฏิสัมพันธ์ของมนุษย์กับอุปกรณ์ โซลูชันที่ใช้ตรวจหาบอทสามารถแยกแยะรูปแบบของพฤติกรรมต่างๆ และแยกความแตกต่างระหว่างมนุษย์กับบอทได้ จากจุดนั้นก็เป็นเรื่องง่ายที่จะกรองเอาบอททิ้งจากระบบของคุณ และกลับมากุมบังเหียนในธุรกิจสตรีมมิ่งได้ต่อไป