ไปรษณีย์ไทย เดินหน้ายกระดับมาตรฐานการให้บริการแบบมืออาชีพให้แก่บุคลากรใน 5 ด้านสำคัญ ได้แก่ ความพร้อมในการช่วยเหลือ ความทันสมัย ความรวดเร็ว การมีส่วนร่วมในการพัฒนาองค์กร ความโปร่งใส และความน่าเชื่อถือ แก่บุคลากรกว่า 40,000 รายที่พร้อมอำนวยความสะดวกให้คนไทยในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ
นายกาหลง ทรัพย์สอาด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานปฏิบัติการ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด และรักษาการในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวว่า ในช่วงปีที่ผ่านมา หลากหลายการเปลี่ยนแปลงและวิกฤตต่างๆ ส่งผลให้หลายธุรกิจรวมทั้งไปรษณีย์ไทยต้องมีการปรับตัวหลากหลายด้าน โดยเฉพาะในด้านทรัพยากรมนุษย์ซึ่งถือเป็นตัวแปรสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กร และเป็นปัจจัยในการช่วยตอบสนองกับความต้องการของภาคเศรษฐกิจและสังคม
ในปี 2564 นี้ ด้วยบทบาทการเป็นโครงสร้างพื้นฐานและหน่วยงานบริการสาธารณะ (Public Service) ด้านการสื่อสาร ขนส่ง ไปรษณีย์ไทยจึงได้วางแนวทางการพัฒนาบุคลากรให้มีความเป็นมืออาชีพ พร้อมสร้างภาพจำจากประสบการณ์ที่ดีที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ให้แก่ผู้ใช้บริการทั่วประเทศ ผ่านการยกระดับ 5 ด้านได้แก่
- ความพร้อมในการช่วยเหลือ โดยเฉพาะในด้านงานบริการ ตั้งแต่การรับฝาก การส่งต่อ และการนำจ่าย เพื่อให้สิ่งของที่ฝากส่งผ่านระบบไปรษณีย์ทุกชิ้นไปถึงมือผู้รับปลายทางอย่างถูกต้องและรวดเร็ว รวมถึงความพร้อมที่จะช่วยเหลือสังคมในช่วงเวลาวิกฤต เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในด้านเศรษฐกิจและสังคม ทั้งในกลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน หน่วยงานเพื่อบริการสาธารณะในด้านอื่นๆ เป็นต้น
- ความทันสมัยและก้าวทันเทคโนโลยี ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญของทุกองค์กร โดยจะมุ่งให้คนไปรษณีย์มีความเชี่ยวชาญ มีการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการปฏิบัติงาน รู้จักพึ่งพาการใช้ประโยชน์จากข้อมูลเพื่อพัฒนางานด้านการสื่อสารและการขนส่งให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
- ความเท่าเทียมและความน่าเชื่อถือ โดยเฉพาะการให้บริการกับภาคประชาชนที่ต้องเป็นไปอย่างเท่าเทียม การสร้างความตระหนักให้บุคลากรเห็นความสำคัญของวัฒนธรรมองค์กรที่ปลอดคอร์รัปชัน รวมถึงการส่งเสริมให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานด้านต่างๆ มีความรับผิดชอบต่อการดำเนินงาน
- การมีส่วนร่วมพัฒนาองค์กร นอกจากไปรษณีย์ไทยจะสำรวจความคิดเห็นของคนไทยเพื่อนำมาปรับปรุงการทำงานบริการให้ดีในทุกๆ ปีแล้วนั้น ยังเปิดโอกาสให้คนไปรษณีย์แสดงความคิดเห็นเพื่อนำมาต่อยอดงานบริการและพัฒนาให้ดีขึ้นจากเดิม ลดช่องว่างในระดับชั้นการทำงานให้มีความใกล้ชิดกันมากขึ้น และเป็นองค์กรที่มีความเป็นหนึ่งเดียวในการดำเนินงาน
- ความรวดเร็ว ถือเป็นทักษะสำคัญของผู้ปฏิบัติงาน และเป็นความต้องการลำดับต้นๆ ของผู้ใช้บริการในทุกพื้นที่ โดยในปีนี้นอกจากจะรักษาประสิทธิภาพในเรื่องความรวดเร็วในการรับฝาก นำจ่ายแล้ว บุคลากรทุกคนของไปรษณีย์ไทยยังจะมีความว่องไวต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงเพื่อนำมาปรับปรุงคุณภาพในการให้บริการ รวดเร็วในการทำความเข้าใจ และแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นกะทันหัน พร้อมทั้งเรียนรู้ วิถีชีวิตของคนในสังคมรูปแบบใหม่ๆ เพื่อให้การทำงานมีความยืดหยุ่นตลอดเวลา
“ไปรษณีย์ไทยมีจุดแข็งในด้านบุคลากรกว่า 40,000 คน รวมทั้งเครือข่ายและสายการขนส่งที่สามารถเข้าถึงผู้ใช้บริการได้อย่างครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วไทย ซึ่งการพัฒนาศักยภาพ ต่อยอดทักษะของบุคลากรให้มีความสามารถหลากหลาย มีคุณภาพเป็นมาตรฐานเดียวกัน รองรับการให้บริการในยุคดิจิทัลสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของคนไทยรุ่นใหม่”
โดยในปีนี้ยังคงตั้งเป้าที่จะยกระดับการให้บริการตอบสนองความต้องการของลูกค้า ช่วยเหลือภาคสังคมเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ รวมถึงการสร้างภาพลักษณ์ของบุคลากรไปรษณีย์ไทยในรูปแบบใหม่ที่มีความเป็นมืออาชีพมากยิ่งขึ้น เพื่อพัฒนาให้เป็นรัฐวิสาหกิจที่ก้าวทันโลกยิ่งขึ้น และพร้อมเป็นเพื่อนแท้ร่วมทางให้แก่คนไทยในทุกช่วงเวลา