ตามที่ผู้จัดการออนไลน์ได้รายงานสกู๊ปข่าวเชิงวิเคราะห์เรื่อง 'เปิดรายชื่อต้องห้ามกรรมการสรรหา กสทช.' โดยระบุถึงไทม์ไลน์พระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2564 หรือกฎหมาย กสทช. ที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 2 มี.ค.2564 ว่ากฎหมาย กสทช.ฉบับใหม่นี้มีกระบวนการที่รวดเร็วเพียงใด ทำให้ว่าที่ กสทช.ทั้ง 14 คนที่ผ่านกระบวนการสรรหาจาก 7 กรรมการสรรหาสิ้นสภาพไป
รวมทั้งยังระบุถึงรายชื่อของกรรมการสรรหาทั้งสิ้น 7 คนว่าอย่างน้อยมี 2 คนที่เป็นกรรมการสรรหามาแล้ว 2 ครั้ง มีที่มาจากหน่วยงานไหน พร้อมวิเคราะห์ถึงจุดอ่อนของการสรรหาครั้งนี้ว่ามีประเด็นสำคัญที่พลาดไป 3-4 ประเด็น
คล้อยหลังไม่นานนักหลังเผยแพร่สกู๊ปข่าวชิ้นนี้ มีการตอบโต้กลับจากเฟซบุ๊ก 'Vishnu Varunyou' ระบุว่า 'ถ้าอยากกันท่ากรูไม่ให้ไปเป็นกรรมการสรรหา กสทช ก็สอบเข้ามาเป็นตุลาการศาลปกครองสูงสุดสิ 5555 อสกข (ถ้าอยากรู้ว่าย่อมาจากอะไร เสิร์ชหาในยูทูป หรือพันทิป ) กลัวกรูมากจนต้องไปเขียนตอแหล ดำเป็นขาวขาวเป็นดำ 55555 แสดงว่ามาถูกทางแระ 5555 โอ้โฮ เพิ่งผ่านวันนักข่าวมาได้ไม่กี่วันเท่านั้น มันเฉลิมฉลองความเป็นนักข่าวได้เลวทรามดีแท้ 5555
ถัดมาอีกโพสต์ระบุว่า 'เขาว่ากันว่าสื่อ ไม่ตอม (ตรวจสอบ) สื่อด้วยกันเอง ขอท้าทายหน่อยเหอะว่าจริงไหม กับการเสนอข้อมูลตอแหลบัดซบแบบนี้ อสกข'
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดดูเหมือนเพจนี้จะปลิวหายไปแล้ว แต่ก็มีคนเก็บไว้ทันเพื่อเป็นหลักฐานให้คณะกรรมการตุลาการศาลปกครอง (ก.ศป.) ได้รับทราบว่าบุคลากรในองค์กรศาลปกครองมีวุฒิภาวะเช่นนี้ มีจริยธรรมในวิชาชีพเช่นนี้
'ก.ศป.จะว่ายังไง'
