ยูนิเวอร์ซัล โรบอท ประกาศบรรลุเป้าหมายขายหุ่นยนต์โคบอทแล้ว 50,000 ตัว ย้ำเอเชีย แปซิฟิกจะกลายเป็นตลาดโคบอทที่ใหญ่ที่สุดในปี 2564 ถึง 2569 โดยหุ่นยนต์ร่วมปฏิบัติงาน หรือโคบอทจะเติบโตเร็วที่สุดของระบบอัตโนมัติในอุตสาหกรรม
นายเจอร์เก้น ฟอน โฮลเลน ประธานของยูนิเวอร์แซล โรบอท คาดว่า หุ่นยนต์ร่วมปฏิบัติงาน หรือโคบอทจะมีอัตราเติบโตเฉลี่ย 45 เปอร์เซ็นต์ต่อปีในเอเชีย แปซิฟิก ระหว่างปี 2564-2569 โดยยูนิเวอร์ซัล โรบอท หรือยูอาร์ ผู้บุกเบิกตลาดโคบอทสามารถขายโคบอทตัวที่ 50,000 ให้แก่ผู้ผลิตในเยอรมนีที่ซื้อไปเพื่อเพิ่มผลผลิตและความปลอดภัยของพนักงานให้ดีขึ้นแล้ว ซึ่งโคบอทตัวที่ 50,000 ได้นำส่งอย่างพิเศษให้แก่ VEMA technische Kunststoffteile GmbH และ VEMA Werkzeug-und Formenbau GmbH ที่ตั้งอยู่ใน Krauchenwies-Göggingen ของประเทศเยอรมนี
“เราทำงานอย่างหนักในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา เพื่อพัฒนากลุ่มตลาดใหม่ทั้งหมดโดยมีพันธกิจในการช่วยให้ บริษัทขนาดเล็กและขนาดกลางโดยเฉพาะ สามารถทำงานอัตโนมัติที่พวกเขาคิดว่ามีค่าใช้จ่ายสูงหรือซับซ้อนเกินไป” นายฟอน โฮลเลน กล่าวโดยเน้นถึงวิธีที่ยูอาร์สร้างเครือข่ายการจัดจำหน่ายใหม่ทั่วโลกเป็นระบบนิเวศใหม่ของนักพัฒนาและรูปแบบธุรกิจใหม่ทั้งหมด “ในฐานะผู้บุกเบิกตลาดนี้เราได้ทุ่มเทอย่างมากในการสร้างการรับรู้ต่อมาตรฐานและการรับรู้ที่เปลี่ยนไปของลูกค้า ซึ่งได้รับอิทธิพลจากประสบการณ์ของหุ่นยนต์แบบดั้งเดิม”
นายฟอน โฮลเลน ตั้งข้อสังเกตว่า VEMA GmbH เป็นตัวอย่างที่ดีในการตอกย้ำภารกิจของยูอาร์ เนื่องจาก VEMA กำลังมองหาโซลูชันระบบอัตโนมัติที่ประหยัด ยืดหยุ่นและใช้งานง่ายซึ่งสามารถนำไปใช้ตั้งโปรแกรมและจัดการได้ด้วยตนเอง ทำให้พบสิ่งเหล่านี้ในยูอาร์ของโคบอท สำหรับโคบอทนั้นช่วยเพิ่มทั้งผลผลิตและคุณภาพ และหุ่นยนต์ร่วมปฏิบัติงานใหม่ของ VEMA จะเข้าร่วมกับโคบอทของยูอาร์อีก 3 ตัวที่ติดตั้งไว้แล้วในการเก็บและวางงานในแอปพลิเคชันของบริษัท
นายคริสเตียน เวอเซอร์ กรรมการผู้จัดการของบริษัท VEMA GmbH รู้สึกตื่นเต้นที่ได้เป็นผู้รับโคบอทและอธิบายถึงโคบอทช่วยให้ บริษัทสามารถเพิ่มกะทำงานที่ 3 ได้อย่างไร ซึ่งตอนนี้ได้ดำเนินงานอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา
“เราเพิ่มผลผลิตได้อย่างน่าทึ่งและมีคุณภาพที่ดีขึ้นด้วย พนักงานของเราได้รับอิสระจากการทำงานที่รัดกุมตามหลักสรีรศาสตร์เพื่อมุ่งเน้นไปที่การทดสอบคุณภาพ ในความท้าทายของโควิด-19 ยังมีข้อดีอย่างมากที่โคบอทไม่จำเป็นต้องรักษาระยะปลอดภัยหรือถูกกักกัน พวกเขาสามารถทำงานได้ตลอดเวลา”
นายเวอเซอร์ เสริมว่า บริษัทของเขาชื่นชมโคบอทมากจนตั้งชื่อให้ โดยโคบอท 3 ตัวแรกมีชื่อว่า Elfriede, Günther และ Bruno มีการตั้งชื่อโคบอทเจอร์เก้นคนใหม่เพื่อเป็นเกียรติว่าประธานของยูอาร์มาที่นี่ด้วยตนเองเพื่อส่งมอบ
นายเจมส์ แมคคิว ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก บริษัท ยูนิเวอร์ซัล โรบอท กล่าวว่าเมื่อ 15 ปีที่แล้ว ยูนิเวอร์ซัล โรบอท เริ่มต้นด้วยวิสัยทัศน์ในการสร้างหุ่นยนต์ที่ปลอดภัยในการทำงานร่วมกับมนุษย์ และช่วยให้ผู้คนหลีกหนีจากการทำงานที่สกปรก และเป็นอันตราย
“ปัจจุบันด้วยการระบาดของโควิด-19 หุ่นยนต์ร่วมปฏิบัติงานหรือโคบอทได้รับการยอมรับอย่างรวดเร็วจากทั้งองค์กรขนาดเล็กและขนาดกลางและองค์กรขนาดใหญ่ทั่วโลกในช่วงเวลาที่ต้องการความยืดหยุ่นและความสามารถในการปรับตัวในระดับสูง โคบอทได้กลายเป็นโซลูชันที่เหมาะสมในการดูแลโรงงานและส่งเสริมการสร้างมูลค่าให้แก่องค์กร เช่น VEMA"
สำหรับประเทศไทย ความต้องการหุ่นยนต์โคบอทคาดว่าจะเติบโตขึ้น เนื่องจากประเทศไทยยังคงใช้การผสมผสานระหว่างคนกับเครื่องจักรในหลากหลายอุตสาหกรรม ดังนั้น ผู้ผลิตที่ค้นหาโซลูชันระบบอัตโนมัติมากขึ้นจะปรับตัวและใช้ประโยชน์จากความสามารถเฉพาะของโคบอทเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพในการผลิตมากขึ้น ในฐานะผู้นำในภูมิภาคอาเซียน ยูนิเวอร์ซัล โรบอทจะยังคงขับเคลื่อนการพัฒนาและการนำโคบอทมาใช้เพื่อช่วยให้ธุรกิจต่างๆ ในประเทศไทยสามารถใช้ระบบอัตโนมัติโดยได้รับประโยชน์จากการทำงานร่วมกันและประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้น ยูอาร์ได้เล็งเห็นว่าโคบอทจะเติบโตอย่างทวีคูณในอนาคตอันใกล้