สภาดิจิทัลฯ จับมือสตาร์ทอัปเปิดตัวแพลตฟอร์มจองแพกเกจโรงแรมสถานกักกันโรคแห่งรัฐทางเลือก (ASQ/ALQ) ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนในการอำนวยความสะดวกจองที่พักแก่ชาวไทยที่ต้องการเดินทางกลับเข้าประเทศ และชาวต่างชาติที่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาในประเทศไทย
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่า ที่ผ่านมารัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับทุกฟันเฟืองของเศรษฐกิจดิจิทัล อย่างกลุ่มสตาร์ทอัป ของคนรุ่นใหม่ ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้คือพลังในการขับเคลื่อนประเทศในสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งการเปิดตัวแพลตฟอร์มจองแพกเกจโรงแรมสถานกักกันโรคแห่งรัฐทางเลือก (ASQ/ALQ) เป็นความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน ในการอำนวยความสะดวกจองที่พักแก่ชาวไทยที่ต้องการเดินทางกลับเข้าประเทศ และชาวต่างชาติที่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาในประเทศไทยในครั้งนี้ ถือเป็นมิติใหม่ในการยกระดับศักยภาพของสตาร์ทอัปไทย ในการพัฒนาแพลตฟอร์มทางเลือกใหม่ในการจองที่พัก ASQ/ALQ โดยฝีมือคนไทย ซึ่งในอนาคตจะมีการผลักดันให้เกิดแพลตฟอร์มของคนไทยมากขึ้น เพราะไม่อย่างนั้นแล้วประเทศไทยจะเสียรายได้จากการที่คนไทยใช้แพลตฟอร์มจากคนต่างชาติ
ด้านนายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยได้มีการอนุญาตให้ชาวต่างชาติประเภทพิเศษ Special Tourist Visa เข้ามาในประเทศ โดยผู้ที่เดินทางเข้ามาจำเป็นต้องกักตัว 14 วัน ในสถานที่กักตัวแห่งรัฐ (Alternative State Quarantine : ASQ / Alternative Local State Quarantine : ALQ) และปฏิบัติตามมาตรการอื่นตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด แต่ในขณะเดียวกันข้อมูลด้านสถานที่กักตัวทางเลือกสำหรับคนไทยและคนต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศส่วนใหญ่ยังเป็นการดำเนินงานโดยผู้ประกอบการโรงแรมแต่ละแห่งเป็นหลัก ซึ่งปัจจุบันเรายังไม่มีแพลตฟอร์มส่วนกลางที่เป็นแบบ Online Travel Agency (OTA) หรือ แพลตฟอร์มท่องเที่ยวและระบบจองที่พักครบวงจรในช่องทางออนไลน์ที่ดำเนินการโดยคนไทยในการอำนวยความสะดวกค้นหา หรือจองที่พักที่เป็น ASQ/ALQ ซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวกรวดเร็วในการค้นหาโรงแรมที่ได้รับการรับรองโดยกระทรวงสาธารณสุข
ม.ร.ว.นงคราญ ชมพูนุท รองประธานและประธานพันธกิจด้านพัฒนาสังคมดิจิทัล สภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สภาดิจิทัลฯ เป็นองค์กรสำคัญที่ทำงานร่วมกับภาคเอกชน รัฐบาล และภาคประชาชน ที่มุ่งเน้นในการช่วยผลักดันและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัล เพื่อให้เกิดการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล และเกิดการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน จึงพร้อมที่จะสนับสนุนและช่วยเหลือในโครงการนี้ให้ตรงกับนโยบายพันธกิจของสภาดิจิทัลฯ ในเรื่องการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลที่สภาได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่นายเกริกพงศ์ งาทวีสุข ผู้จัดการทั่วไป บริษัท แอสเซนด์ แทรเวิล จำกัด กล่าวว่า Ascend Travel เป็นแพลตฟอร์มสัญชาติไทย 100% ที่เข้าใจถึงปัญหา และสนับสนุนผู้ประกอบการไทยเพื่อนักเดินทาง โดยปัจจุบันทางบริษัทฯ ได้พัฒนาแพลตฟอร์มเดิมที่ใช้งานอยู่แล้วให้มีฟังก์ชันเพิ่มขึ้นด้วยการมีแพลตฟอร์มออนไลน์ในการจองแพกเกจโรงแรมสถานกักกันโรคแห่งรัฐทางเลือก (ASQ/ALQ) ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับโรงแรมที่พัก ASQ/ALQ โดยผู้ที่เดินทางจากต่างประเทศเข้ามายังประเทศไทยสามารถค้นหาโรงแรมที่ผ่านมาตรฐานโรงแรม ASQ/ALQ ผ่าน https://asq.ascendtravel.com ซึ่งแพลตฟอร์มนี้จะครอบคลุมโรงแรม ASQ/ALQ ทั้งหมดในประเทศไทยกว่า 100 แห่ง ตั้งแต่ 3-5 ดาว เพื่อให้ผู้เดินทางหรือนักท่องเที่ยวสามารถเลือกจองที่พักได้ตามความต้องการ
“ความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกของประเทศไทยในการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาพัฒนาแพลตฟอร์มออนไลน์ที่เป็นทางเลือกในการจองโรงแรมที่พัก ASQ/ALQ ที่นอกจากจะครอบคลุมบริการสำรองที่พักครอบคลุมห้องพักทุกระดับแล้ว เรายังสามารถออกใบกำกับภาษีที่สามารถเรียกเบิกคืนได้เทียบเท่าใบกำกับภาษีของโรงแรม รวมถึงช่วยผู้ประกอบการด้านบริหารจัดการจองและรับเงินค่าห้องพักได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยเสริมมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศในสถานการณ์โควิด-19”
ด้าน นายธนวิชญ์ ต้นกันยา ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮอร์แกไนซ์ จำกัด กล่าวว่า บริษัท ฮอร์แกไนซ์ ซึ่งเป็น สตาร์ทอัปสัญชาติไทย แพลตฟอร์มระบบบริหารหอพักอพาร์ตเมนต์ที่ครอบคลุมการบริหารห้องเช่ามากกว่า 7,000 โครงการ และมีห้องพักมากกว่า 300,000 ห้องพักทั่วประเทศ ได้นำระบบมาพัฒนาต่อยอดให้ตอบโจทย์โรงแรมสถานกักกันโรคแห่งรัฐทางเลือก (ASQ/ALQ) เพื่อให้สามารถดูแลผู้ที่ต้องกักตัว 14 วัน ให้มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ลดความเสี่ยงในการติดต่อสื่อสารระหว่างพนักงาน ASQ/ALQ กับผู้กักตัว มากกว่านั้นยังนำเทคโนโลยี OCR (Optical Character Recognition) ของบริษัท แอ็คโคเมท (ZTRUS) จำกัด ซึ่งเป็นพาร์ตเนอร์มาร่วมพัฒนาระบบเพื่อช่วยลดระยะเวลาในการตรวจสอบเอกสารผู้ที่เดินทางเข้ามาต้องกักตัว 14 วัน เพื่อให้การบริหารจัดการห้องพักมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น