xs
xsm
sm
md
lg

ทวิตเตอร์ชวนทุกคนออกความเห็น ก่อนปรับใหญ่มาตรฐานระบบยืนยันตัวตน

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ทวิตเตอร์ชวนผู้ใช้ทุกคนร่วมแสดงความเห็นเพื่อปรับปรุงมาตรฐานระบบยืนยันตัวตน ย้ำ 1 ใน 6 บัญชีผู้ใช้งานที่ทวิตเตอร์จะเริ่มต้นระบุการยืนยันตัวตนคือหน่วยงานรัฐบาล รวมถึงนักกิจกรรม ผู้จัดงาน และบุคคลอื่นที่เป็นอินฟลูเอ็นเซอร์ ยืนยันพร้อมลบเครื่องหมายยืนยันจากบัญชีนั้นๆ ได้โดยอัตโนมัติหากบัญชีนั้นไม่ได้มีการใช้งาน หรือข้อมูลของโปรไฟล์ไม่สมบูรณ์

ทวิตเตอร์ระบุบนบล็อกโพสต์ว่า หลังจากได้มีการระงับระบบการยืนยันตัวตนการเป็นบุคคลสาธารณะไว้เมื่อ 3 ปีก่อน เนื่องจากได้รับฟีดแบ็กว่า เครื่องหมายถูกต้องสีฟ้าสามารถขอได้โดยไม่มีกฎเกณฑ์และสร้างความสับสนให้แก่ผู้คน หลังจากนั้น ทวิตเตอร์ได้ลดระดับความสำคัญของระบบนี้ เพื่อไปมุ่งมั่นตั้งใจกับการปกป้องความเป็นเอกภาพของบทสนทนาสาธารณะบนทวิตเตอร์ซึ่งอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญของการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา 2020 นับตั้งแต่นั้น ยังไม่มีความชัดเจนว่าใครสามารถได้รับการยืนยันตัวตนได้บ้าง หรือเมื่อไหร่และทำไมผู้ใช้บัญชีนั้นถึงไม่ได้รับการยืนยันตัวตน หรือทำอย่างไรจึงจะได้รับการยืนยันตัวตน

ทวิตเตอร์ย้ำว่า ทราบดีเรื่องการสามารถแสดงออกถึงตัวตนและรู้ว่าผู้ใช้กำลังสนทนาอยู่กับใครบนทวิตเตอร์นั้นสำคัญเพียงใด ดังนั้น ในวันนี้ทวิตเตอร์จึงอยากบอกเล่าถึงจุดเริ่มต้นในการปรับปรุงแผนงาน ว่า ทุกคนสามารถระบุตัวตนบนทวิตเตอร์ได้อย่างไร โดยเริ่มจากการยืนยืนตัวตนและขอให้สาธารณชนส่งความคิดเห็นเกี่ยวกับร่างนโยบายใหม่ในการยืนยันตัวตนกลับมาให้ทวิตเตอร์ เนื่องจากการเป็นแพลตฟอร์มที่ให้บริการบทสนทนาสาธารณะ การร้องขอความคิดเห็นและฟีดแบ็กจากสาธารณชนจึงกลายเป็นส่วนสำคัญของกระบวนการพัฒนานโยบายของบริษัท เพราะบริษัทต้องการให้กฎต่างๆ นั้นมาจากเสียงสะท้อนของผู้ใช้งานทวิตเตอร์จริงๆ


ในภาพรวม ทวิตเตอร์กำลังวางแผนที่จะกลับมาเปิดตัวการยืนยันตัวตน รวมทั้งขั้นตอนการสมัครการยืนยันตัวตนสาธารณะแบบใหม่ในช่วงต้นปี 2564 ทั้งนี้ บริษัทต้องการความช่วยเหลือจากผู้คนในการอัปเดตนโยบายการยืนยันตัวตนเสียก่อน โดยนโยบายนี้จะเป็นการวางรากฐานเพื่อการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นต่อไปในอนาคต ด้วยการกำหนดถึงการยืนยันตัวตนว่ามีความหมายอย่างไร ใครสามารถขอเครื่องหมายเพื่อยืนยันตัวตนนี้ได้บ้าง และทำไมบัญชีผู้ใช้งานบางคนที่มีเครื่องหมายนี้อยู่แต่อาจจะถูกลบออก เพื่อให้ทุกคนมั่นใจว่าขั้นตอนการยืนยันตัวตนนั้นมีความเท่าเทียมมากขึ้น

เริ่มที่การกำหนดประเภทหลักของบัญชีผู้ใช้งาน ซึ่งเป็นบุคคลมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักจะได้รับการยืนยันตัวตนให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น เพราะเครื่องหมายติ๊กถูกสีฟ้าบนทวิตเตอร์ช่วยให้ทุกคนทราบว่าบัญชีผู้ใช้งานนี้เป็นบุคคลสาธารณะที่เป็นของจริง ซึ่งการจะขอรับเครื่องหมายนี้ได้ บัญชีผู้ใช้งานนั้นจะต้องมีชื่อเสียงและมีการใช้งานอยู่เป็นประจำ

บัญชีผู้ใช้งาน 6 ประเภทที่ทวิตเตอร์จะเริ่มต้นระบุการยืนยันตัวตน ได้แก่ 1.หน่วยงานรัฐบาล 2.บริษัท แบรนด์สินค้าต่างๆ และองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร 3.สำนักข่าว 4.องค์กรหรือบุคคลในวงการบันเทิง 5.องค์กรหรือบุคคลในวงการกีฬา และ 6.นักกิจกรรม ผู้จัดงาน และบุคคลอื่นๆ ที่เป็นอินฟลูเอ็นเซอร์



นอกจากนี้ ทวิตเตอร์ยังได้มีการกำหนดเกณฑ์เพิ่มเติมว่าสามารถลบเครื่องหมายยืนยันจากบัญชีนั้นๆ ได้โดยอัตโนมัติ เช่น ถ้าหากบัญชีนั้นไม่ได้มีการใช้งาน หรือข้อมูลของโปรไฟล์ไม่สมบูรณ์ ตลอดจนอาจจะมีการปฏิเสธหรือลบเครื่องหมายยืนยันตัวตนจากบัญชีที่ผ่านการรับรองแล้ว เนื่องจากมีการละเมิดกฎของทวิตเตอร์บ่อยครั้ง เป็นต้น ทวิตเตอร์ตระหนักดีว่า ปัจจุบันมีบัญชีที่ไม่สมควรได้รับการยืนยันตัวตนอยู่เป็นจำนวนมากบนทวิตเตอร์ ดังนั้น จึงกำลังมีการเริ่มดำเนินการลบเครื่องหมายออกจากบัญชีที่ไม่ได้มีการใช้งานหรือมีโปรไฟล์ที่ให้ข้อมูลไม่สมบูรณ์โดยอัตโนมัติ เพื่อช่วยปรับปรุงการทำงานของเราและขยายแผนการเพื่อเพิ่มเติมประเภทของบัญชีต่างๆ ให้สามารถเสร็จสิ้นในปี 2564

ทวิตเตอร์ทราบดีว่า ไม่สามารถแก้ปัญหาการยืนยันตัวตนได้จากนโยบายใหม่นี้ได้เพียงทางเดียว และนโยบายเบื้องต้นในการยืนยันตัวตนอาจไม่ได้ครอบคลุมถึงทุกกรณี แต่นี่คือก้าวแรกที่สำคัญในการช่วยให้ทวิตเตอร์มีมาตรฐานที่โปร่งใสและยุติธรรมมากยิ่งขึ้นในการยืนยันตัวตน เนื่องจากบริษัทกำลังจัดลำดับความสำคัญของระบบงานนี้อยู่ โดยนโยบายในตอนนี้คือจุดเริ่มต้นที่ทวิตเตอร์ตั้งใจที่จะขยายประเภทของบัญชีต่างๆ และกฎเกณฑ์สำหรับการยืนยันตัวตนบนทวิตเตอร์อย่างมีนัยสำคัญในปีต่อไป

ในภาพรวม ทวิตเตอร์เผยว่าเครื่องหมายติ๊กถูกสีฟ้าไม่ได้เป็นเพียงวิธีเดียวที่กำลังวางแผนเพื่อจำแนกบัญชีผู้ใช้งานบนทวิตเตอร์ ทั้งนี้ ทวิตเตอร์มุ่งมั่นที่จะให้ทุกคนสามารถมีวิธีอื่นๆ ในการระบุตัวตนบนหน้าโปรไฟล์ของตัวเอง เช่น ประเภทของบัญชีผู้ใช้งานและป้ายรับรองบัญชีใหม่ ซึ่งนี่เป็นเพียงการเริ่มต้นของสิ่งที่ทวิตเตอร์ได้วางแผนไว้ในปีหน้า 2564


กำลังโหลดความคิดเห็น