เสียวหมี่ ประกาศผลประกอบการในไตรมาสที่ 3 ปี 2563 รักษาการเติบโตที่แข็งแกร่งด้วยรายได้เติบโต 34.5% และกำไรเพิ่มขึ้น 18.9% ด้วยการเติบโตในทุกกลุ่มอีโคซิสเต็ม
เสียวหมี่ ระบุว่า ธุรกิจสมาร์ทโฟนเติบโตอย่างต่อเนื่องแม้ต้องเผชิญกับอุปสรรค เรามีข้อได้เปรียบจากกลยุทธ์ Dual Brand และการพัฒนาทางเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึง 'หลักสามประการ' ซึ่งประกอบไปด้วย การไม่หยุดยั้งที่จะสำรวจและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ การนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีอัตราส่วนราคาต่อประสิทธิภาพที่เหมาะสม และความพยายามสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยมที่สุด
โดยหลักสามประการนี้ทำให้เราประสบความสำเร็จ และสามารถรักษาตำแหน่งในตลาดพรีเมียม และมียอดจัดส่งสมาร์ทโฟนติดอันดับ 1 ใน 3 ของโลกอีกครั้ง ด้วยระบบนิเวศทางธุรกิจและบริการอินเทอร์เน็ตอันหลากหลาย เทอร์มินัล AIoT ของเรายังคงดึงดูดผู้ใช้งานอย่างต่อเนื่องและความสามารถในการสร้างรายได้ของมันก็ช่วยเสริมสร้างห่วงโซ่คุณค่าที่แข็งแกร่งอย่างเห็นได้ชัด
ธุรกิจสมาร์ทโฟนของเสียวหมี่ เติบโตขึ้นอย่างมากทั้งในด้านรายรับและยอดการจัดส่งที่สูงเป็นประวัติการณ์ อีกทั้งยังสามารถรักษาโมเมนตัมการเติบโตทั้งในจีนแผ่นดินใหญ่และในตลาดต่างประเทศ โดยมีรายรับจากสมาร์ทโฟนอยู่ที่ 4.76 หมื่นล้านหยวนในไตรมาสนี้ เพิ่มขึ้น 47.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมียอดการจัดส่งสมาร์ทโฟนรวม 46.6 ล้านเครื่องเพิ่มขึ้น 45.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ข้อมูลจาก Canalys ระบุว่า ในไตรมาสที่ 3 ปี 2563 เสียวหมี่ครองอันดับ 3 ของโลกในด้านยอดการจัดส่งสมาร์ทโฟน โดยมีส่วนแบ่งตลาด 13.5% ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2563 กลุ่มบริษัทเสียวหมี่ขายสมาร์ทโฟนทั่วโลกได้กว่า 8 ล้านเครื่องโดยมีราคาขายปลีกอยู่ที่ประมาณ 3,000 หยวนขึ้นไปในจีนแผ่นดินใหญ่ และ 300 ยูโรหรือเทียบเท่าในตลาดต่างประเทศ
นอกจากนี้ เสียวหมี่ยังรักษาตำแหน่งผู้นำในผลิตภัณฑ์ IoT ที่หลากหลายและขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง ตลอดจนนำเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมมาสู่ผู้ใช้ จากข้อมูลของ IDC เมื่อไตรมาสที่แล้ว เสียวหมี่ติดอันดับ 1 ใน 3 ในด้านยอดการจัดส่งในจีนแผ่นดินใหญ่ในสินค้าหลากหลายประเภท เช่น กลอนประตูอัจฉริยะ เครื่องฟอกอากาศ เครื่องดูดฝุ่นหุ่นยนต์ หูฟังไร้สาย และอุปกรณ์สวมใส่ข้อมือ เป็นต้น
ในช่วงสิ้นเดือนกันยายน มีจำนวนอุปกรณ์ IoT ที่เชื่อมต่อ (ไม่รวมสมาร์ทโฟนและแล็ปท็อป) บนแพลตฟอร์ม AIoT ของเสียวหมี่ มีจำนวนถึง 289.5 ล้านหน่วย เพิ่มขึ้น 35.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จำนวนผู้ใช้ที่มีอุปกรณ์ 5 เครื่องขึ้นไปเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์ม AIoT ของเสียวหมี่ (ไม่รวมสมาร์ทโฟนและแล็ปท็อป) สูงถึง 5.6 ล้านคน เพิ่มขึ้น 59.0% ในขณะเดียวกัน Mi Home App มีจำนวนผู้ใช้งานต่อเดือน 43.1 ล้านคน เพิ่มขึ้น 34.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ขณะเดียวกัน รายรับกว่าครึ่งหนึ่งมาจากการทำตลาดในต่างประเทศ โดยข้อมูลของ Canalys ชี้ให้เห็นว่า ยอดการจัดส่งสมาร์ทโฟนของเสียวหมี่ในยุโรปตะวันตกเพิ่มขึ้น 107.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีส่วนแบ่งการตลาด 13.3% และติดอันดับ 1 ใน 3 ของภูมิภาคเป็นครั้งแรก