ความเคลื่อนไหวในตลาดสมาร์ทโฟนช่วงไตรมาส 3 มีการเปลี่ยนมือของผู้นำตลาดอีกครั้ง หลังจากที่ ซัมซุง กลับมาเติบโตอีกครั้งเมื่อสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายลง ส่วน Xiaomi ขยายตลาดสู่ยุโรป ชิงส่วนแบ่งตลาดแซงแอปเปิล ขึ้นมาเป็นเบอร์ 3
โดยในช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมา หัวเว่ย ได้แซง ซัมซุง ขึ้นมาเป็นผู้นำในตลาดสมาร์ทโฟน ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ในช่วงนั้น ประเทศจีนเริ่มฟื้นตัวกลับมาจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ในขณะที่ยอดขายของซัมซุง ปรับตัวลดลงจากมาตรการล็อกดาวน์ทั่วโลก
แต่พอกลับมาในไตรมาสที่ 3 เมื่อสถานการณ์โควิด-19 เริ่มควบคุมได้มากขึ้น ประกอบกับการที่ซัมซุง มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาด จึงทำให้ยอดขายเติบโตขึ้น 2% กลับมาเป็นผู้นำตลาดสมาร์ทโฟนทั่วโลกอีกครั้งด้วยส่วนแบ่งตลาด 22.7%
ทั้งนี้ ในช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมา ทาง IDC รายงานว่า มีจำนวนสมาร์ทโฟนถูกจำหน่ายไปทั้งหมด 353.6 ล้านเครื่อง โดยซัมซุง ขายไปได้กว่า 80.4 ล้านเครื่อง ตามด้วย หัวเว่ย 51.9 ล้านเครื่อง ลดลงถึง 22% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
ส่วนเสียวหมี่ ขายสมาร์ทโฟนไปได้ 46.5 ล้านเครื่อง เบียดแซงแอปเปิล ที่จำหน่าย iPhone ได้ 41.6 ล้านเครื่อง ตามด้วย วีโว่ 31.5 ล้านเครื่อง โดยปัจจัยที่ทำให้ เสียวหมี่ เติบโตคือการขยายตลาดเข้าไปในยุโรป พร้อมกับแคมเปญฉลองครบรอบ 10 ปี ของเสียวหมี่ในช่วงเดือนสิงหาคม
ขณะที่ผู้บริโภคบางส่วนกำลังรอการเปิดตัว iPhone 12 ทำให้ยอดขายของแอปเปิล ในช่วงไตรมาสที่ผ่านมานั้นลดลง และคาดว่าจะกลับมาเติบโตอีกครั้งในช่วงปลายปีนี้ ต่อเนื่องไปยังช่วงต้นปีหน้า
นอกจาก IDC แล้ว Canalys เป็นอีกหนึ่งสำนักวิจัย ที่ออกมาเปิดเผยยอดจัดส่งสมาร์ทโฟนในช่วงไตรมาส 3 ว่า ตลาดสมาร์ทโฟนโดยรวมลดลงจากปีที่ผ่านมา 1% อยู่ที่ 348 ล้านเครื่อง แต่เติบโตขึ้นกว่าไตรมาส 2 ถึง 22% แสดงให้เห็นสัญญาณที่ดีหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19