xs
xsm
sm
md
lg

พานาโซนิคเปิด Toughbook A3 พักอินเทลหันซบควอลคอมม์ ก่อนลุยรุ่น 5G เต็มตัว

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



พานาโซนิค เปิดตัว Toughbook A3 ขนาดหน้าจอ 10.1 นิ้ว ไม่ชูจุดขายเป็นแท็บเล็ตแอนดรอยด์พันธ์ุแกร่ง แต่เน้นเรื่องการตอบโจทย์หลากสภาพการทำงานทั้งงานภาคสนาม ภาคขนส่ง งานบริการฉุกเฉิน งานบริการสาธารณะ และกลุ่มงานยานยนต์ ระบุรุ่นใหม่เปลี่ยนจากชิปอินเทลเป็นควอลคอมม์ แย้มแผนเตรียมเปิดตัว Toughbook รุ่น 5G เต็มตัวในอนาคต

ไมนา เบค (Mina Baek) ผู้จัดการทั่วไปและหัวหน้าฝ่ายธุรกิจกลุ่มผลิตภัณฑ์ Toughbook พานาโซนิค โซลูชั่น กรุ๊ป เอเชียแปซิฟิก เผยว่า ความคล่องตัวและความแข็งแรงของเครื่องมือเป็นปัจจัยสำคัญต่อการทำงานในสภาวะท้าทายและยากลำบาก และด้วยปณิธานนี้ทำให้พานาโซนิควิจัยและพัฒนา Toughbook A3 ในทุกมิติเพื่อตอบโจทย์ให้การทำงานมีประสิทธิภาพ ปลอดภัย ทนทาน พร้อมในหลากสภาพการใช้งาน และเป็นส่วนหนึ่งในการเสริมศักยภาพให้ผู้ใช้ซึ่งจะช่วยพาองค์กรไปสู่ความสำเร็จ

ล่าสุด พานาโซนิคเปิดตัว Toughbook A3 ขนาดหน้าจอ 10.1 นิ้ว ยังคงเป็นแท็บเล็ตแอนดรอยด์พันธ์ุแกร่งที่มีแบตเตอรี่ใช้งานต่อเนื่อง 9 ชั่วโมง ผ่านการทดสอบการตกกระแทกที่ความสูง 1.5 เมตร ได้มาตรฐานระดับการทหาร MIL-STD-810 Military Grade สามารถกันน้ำได้ระดับ IP65 ป้องกันฝุ่นละออง หยดน้ำและการตกจากที่สูงได้ถึง 1.5 เมตร คุณสมบัติที่ถูกพัฒนาขึ้นเหล่านี้มาในน้ำหนัก 885 กรัม หน้าจอความคมชัดสูงขนาด 10.1 นิ้ว (1920×1200) ของ Toughbook A3 สามารถแสดงผลได้ชัดเจนแม้อยู่ภายในหรือนอกอาคาร รองรับการสัมผัสหน้าจอในขณะที่ฝนตกหรือสวมถุงมือได้ ในขณะที่ไอโฟนทำไม่ได้

โฟกัสการใช้งาน มากกว่าอึดถึกทน

ในงานเปิดตัว Toughbook A3 พานาโซนิคย้ำภาพการใช้งานมากกว่าจุดขายเดิมเรื่องความทนทาน โดยเน้นเรื่องความแม่นยำในการสัมผัสหรือลงลายเซ็นได้ง่ายแม้ขณะฝนตก การช่วยเสริมประสิทธิภาพในการสื่อสารจากพื้นที่ทำงานได้คล่องตัวเพราะ Toughbook A3 มาพร้อมกับกล้องหน้าและไมโครโฟนสำหรับการประชุม กล้องหลังสำหรับถ่ายภาพตลอดจนทำสำเนาเอกสาร ตอบโจทย์หลากสภาพการทำงาน เช่น งานภาคสนาม ภาคขนส่ง งานบริการฉุกเฉิน งานบริการสาธารณะ และกลุ่มงานยานยนต์


Toughbook A3 ยังออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้ปฏิบัติงานได้อย่างต่อเนื่องด้วยแบตเตอรี่มาตรฐานรองรับการใช้งานสูงถึง 9 ชั่วโมง ทั้งยังสามารถเชื่อมต่อแบตเตอรี่เสริมเพื่อเพิ่มเวลาใช้งานขึ้นอีกถึง 15 ชั่วโมง ขณะเดียวกัน ก็มีฟีเจอร์เพื่อสนองความต้องการของธุรกิจ เช่น USB Type-C (USB 3.0) และ USB Type-A (USB 2.0) รวมถึง 3 พอร์ตเชื่อมต่ออุปกรณ์เสริม ให้คุณเลือกผสมผสานได้ถึง 5 รูปแบบตามแต่ละความต้องการใช้งาน เช่น Smartcard reader, Barcode reader และพอร์ต USB Type-A (USB 2.0) เพิ่มเติม




เพื่อเสริมประสิทธิภาพการทำงาน Toughbook A3 ยังถูกออกแบบให้มี 5 ปุ่มลัดให้ผู้ใช้เลือกสร้างทางลัดสู่การใช้งานตามความต้องการ เช่น เปิดแอปพลิเคชัน เปิดเครื่องอ่านบาร์โค้ด หรือรันคำสั่งตามที่ตั้งค่าไว้ ไม่เพียงเท่านั้น Toughbook A3 ยังสามารถติดตั้งบนพาหนะ พร้อมสำหรับการเชื่อมต่อด้วยเทคโนโลยี Bluetooth 5.0 เพื่อการแลกเปลี่ยนข้อมูลเชื่อมต่อสื่อสารได้ในระยะทางที่ไกลขึ้น ทั้งยังรองรับมาตรฐาน WLAN IEEE802.11 a/b/g/n/ac/d/h/i/r/k/v/w ด้วยฟังก์ชัน MIMO ทำให้ผู้ใช้ไม่พลาดการติดต่อไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็ตาม Toughbook A3 มาพร้อมเทคโนโลยีระบุพิกัด Global Positioning ด้วยระบบ Galileo และGPS ในทวีปยุโรป GLONASS ในรัสเซีย QZSS ในญี่ปุ่น และรองรับ Beidou ในประเทศจีน

Toughbook A3 รันระบบปฏิบัติการ Android™ 9 Pie ด้วยขุมพลัง CPU Qualcomm® Octa-Core SDM660 (1.8GHz-2.2GHz) แรม 4GB และหน่วยความจำแบบ eMMC 64GB Toughbook A3 วางจำหน่ายแล้วในประเทศไทยผ่านตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตด้วยในราคาเริ่มต้น US$1,500 พร้อมรับประกัน 3 ปี

หันมาซบควอลคอมม์

การเปลี่ยนมาใช้ชิป Qualcomm ของ Toughbook A3 ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เพราะ Toughbook A1 รุ่นแรกที่เป็นแอนดรอยด์ซึ่งเปิดตัวตั้งแต่ 9 ปีที่แล้วล้วนใช้ชิปอินเทล (Intel) จน A2 ก็ยังคงใช้ชิป Intel อยู่ ทำให้จุดหลักที่ Toughbook A3 แตกต่างจาก A2 คือเรื่องชิป รวมถึงการเพิ่มชิป NFC ที่รองรับได้แล้ว รวมถึงการฝังระบบบาร์โค้ด และเครื่องอ่านบัตรเพื่อรองรับเรื่องความปลอดภัย

ปัจจุบัน Toughbook ถือเป็นหนึ่งในสินค้าสำคัญของพานาโซนิค เพราะมีการตั้งโรงงานผลิตที่โกเบ และไต้หวัน โรงงานนี้สามารถผลิตและประกอบอุปกรณ์ตั้งแต่การเชื่อมชิปบนบอร์ดจนถึงการทดสอบก่อนจำหน่าย ภานในมีการลงทุนเครื่องจักร หุ่นยนต์ ระบบสำรวจคุณภาพ เพื่อให้บริษัททดสอบจนมั่นใจว่าทุกอย่างหลอมติดทนกับบอร์ดในระดับพิเศษตามที่ออกแบบให้ทนทุกสภาพการทำงาน


ในไลน์ประกอบ Toughbook พานาโซนิคเผยว่ามีการใช้แรงงานมนุษย์ 70% และเครื่องจักร 30% ยังคงใช้แรงงานคนเพราะสามารถทำได้ยืดหยุ่นตามคำสั่งเพิ่มเติมของลูกค้า โดยพนักงาน 1 คนจะทำงานฟังก์ชันเดียว เพื่อป้องกันความผิดพลาด ซึ่งเมื่อประกอบเป็นเครื่องแล้วจะมีการทดสอบการกดทับแบบทุกเครื่อง ไม่ใช่การสุ่มบางเครื่องแบบแบรนด์อื่น ศักยภาพการผลิต Toughbook ที่โรงงานในโกเบคือ 70,000 ชิ้นต่อเดือน อัตราการผิดพลาดในการผลิตบอร์ดคือ 5 ในล้านชิ้น คิดเป็นสัดส่วนรวมทั้งไลน์ผลิต 0.2-0.5%

ในเมื่อสินค้ารับประกันคุณภาพ 3 ปี Toughbook จะถูกทดสอบคุณภาพเพื่อจำลองสถานการณ์ที่ลูกค้าจะพบหลังจาก 3 ปีนี้ด้วย มีการทดสอบทั้งความร้อนความเย็นและการทำดรอปเทสต์ 26 ครั้งต่อ 1 เครื่อง ทุกมุม ทุกด้าน รวมถึงการสั่นตามมาตรฐานทางทหาร โดยวันนี้ Toughbook เป็นอุปกรณ์ที่ติดในรถตำรวจหลายประเทศ

อนาคตมาแน่! Toughbook รุ่น 5G

พานาโซนิคเผยในงานว่า Toughbook รุ่น 5G กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาเพื่อเปิดตลาดในอนาคต โดยนอกจากฮาร์ดแวร์ พานาโซนิคจะจับมือพันธมิตรด้านซอฟต์แวร์ที่หลากหลาย รวมถึงการพัฒนาโซลูชันธุรกิจที่ตอบโจทย์ B2B

หนึ่งในพันธมิตรที่โดดเด่นคือ บัดดี้คอม (Buddycom) ผู้พัฒนาโซลูชันวอลกี้ทอลกี้ที่เป็นพาร์ตเนอร์ให้อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์พานาโซนิคสามารถติดตั้งระบบสื่อสาร แปลภาษา และประชุมกลุ่มได้เหมือนโทรศัพท์ วางเป้าหมายที่กลุ่มค้าปลีกและโรงพยาบาล


ยังมีการพัฒนาโซลูชันที่ใส่ AI ในกล้องวงจรปิด โซลูชันนี้สามารถแยกภาพมนุษย์หรือสิ่งของ ทำให้ป้องกันเหตุร้ายได้เร็วกว่า สามารถจับและขยายภาพได้แบบ 360 องศา วิเคราะห์ใบหน้าเพื่อป้องกันบุคคลต้องห้าม สามารถประยุกต์กับการฝึกทหาร คลังสินค้า รวมถึงองค์กรที่ต้องการการเก็บสถิติบุคคลที่เข้าพื้นที่ เช่นเพศ จำนวน และความหนาแน่น

รวมถึงโซลูชัน Picking Cart Order สำหรับติดในรถเข็นของร้านค้าปลีก ระบบจะบอกจำนวนและจุดหยิบสินค้า ทำให้พนักงานไม่ต้องคิดอะไรแค่มองหน้าจอ เดินรอบเดียวหยิบสินค้าได้ 6 ออเดอร์ ตอบโจทย์อีคอมเมิร์ซและผู้จำหน่ายชิ้นส่วนขนาดเล็ก

ปัจจุบัน พานาโซนิคยังเป็นพันธมิตรกับวีเอ็มแวร์ ในการประยุกต์ใช้กับระบบงานในองค์กร ทำให้องค์กรอัปเดตและจัดการอุปกรณ์หลากหลายในองค์กรได้ยืดหยุ่น สามารถควบคุมความปลอดภัยได้ ควบคุมไม่ให้พนักงานใช้บางแอปพลิเคชันเพื่อป้องกันการกินแบนด์วิท และการปกป้องข้อมูลเมื่ออุปกรณ์หาย นอกจากนี้ ยังสามารถอัปเดตแอปพลิเคชัน รองรับการใช้งานหลายยูสเซอร์ต่อเครื่อง ลดงบในการซื้ออุปกรณ์ได้ รวมถึงการรีโมตซัปพอร์ต สามารถลดเวลาแก้ปัญหาได้เร็วด้วยการรีโมตหน้าจอ มีเซฟโหมดให้พนักงานทำงานอย่างเดียวไม่เล่นเกม


กำลังโหลดความคิดเห็น