ซัมซุง เริ่มวางจำหน่าย Galaxy S20 FE สมาร์ทโฟนแฟลกชิปพรีเมียม ที่รวมหลากหลายฟีเจอร์ยอดนิยมและนวัตกรรมเด่นๆ จาก Galaxy S20 ซีรีส์ มาไว้ในเครื่องเดียว ในราคาเริ่มต้นรุ่น 4G ที่ 18,810 บาท
ความโดดเด่นของ Samsung Galaxy S20 FE คือมากับกล้องหลัง 3 ตัว และฟีเจอร์ที่จะมาช่วยให้ผู้ใช้สามารถถ่ายทอดเรื่องราวและใส่ความเป็นตัวเองลงบนรูปถ่ายและวิดีโอได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Single Take ที่กดปุ่มเพียงครั้งเดียวก็ได้ทั้งวิดีโอและภาพนิ่ง
โหมดถ่ายภาพกลางคืน (Bright Night) ที่การถ่ายภาพในที่แสงน้อยออกมานิ่งและมีชีวิตชีวามากขึ้น และเทคโนโลยี Space Zoom 30X รวมถึงฟีเจอร์ My Filter ที่สามารถดูดสีฟิลเตอร์จากภาพที่ชอบ โดยไม่ต้องคอยแต่งรูปทีละรูปให้เสียเวลา เพื่อให้การคุมโทนไอจีง่ายกว่าที่เคย
นอกจากนี้ ยังสะท้อนสะท้อนตัวตนผู้ใช้ถึง 6 สี 6 สไตล์ โดยจากผลสำรวจของ Samsung Members Survey ผู้ใช้งาน Galaxy ทั่วโลกกว่า 43% ยกให้สี Navy เป็นสีที่ตนเองชื่นชอบมากที่สุด ตามมาด้วยสี Lavender จำนวน 41% และสี Mint อีกกว่า 39%
ซัมซุงเข้าใจถึงความต้องการของผู้ใช้ที่ต้องการได้เลือกสมาร์ทโฟนในสีที่ตนเองชื่นชอบ และบ่งบอกความเป็นตัวตนได้อย่างชัดเจน จึงได้สร้างสรรค์ Galaxy S20 FE ที่มาพร้อมกับหลากหลายเฉดสีอินเทรนด์ ถึง 6 สี อย่าง Cloud Navy, Cloud Lavender, Cloud Mint, Cloud Red, Cloud Orange และ Cloud White พร้อมผิวสัมผัสแบบแมตช์ล้ำสมัย
ขณะเดียวกัน จากการสำรวจพบว่า Gen Z (46%) มีความสนใจในการเล่นเกมมากกว่ากลุ่มมิลเลนเนียล (28%) เกือบเท่าตัว ดังนั้นฟีเจอร์ที่ทรงพลังคือสิ่งที่พวกเขามองหา โดย Galaxy S20 FE ได้ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์เหล่าเกมเมอร์อย่างแท้จริง
จากฟีเจอร์ต่างๆ ที่ใส่มาอย่างจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอรีเฟชเรตที่ 120Hz ที่ทำงานร่วมกับชิปเซ็ตอันทรงพลัง อย่าง Snapdragon 865 ในรุ่น 5G และ Exynos 990 ในรุ่น 4G รวมทั้งแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 4,500 mAh ที่ทำให้สามารถเล่นเกมต่อเนื่องได้ยาวนานทั้งวัน
ที่สำคัญที่สุดคือ สมาร์ทโฟนในปี 2020 ต้องรองรับเครือข่ายสัญญาณ 5G ได้ เพราะ 5G จะช่วยเชื่อมต่อกับโซเชียลแบบเรียลไทม์ ไม่ว่าจะเป็น Instagram, Twitter หรือ Facebook ทำให้ไม่พลาดทุกเทรนด์บนโลกออนไลน์
Samsung Galaxy S20 FE ทั้ง 2 รุ่นได้แก่ Galaxy S20 FE และ Galaxy S20 FE 5G เปิดวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการทั่วประเทศแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป พร้อมโปรโมชันสุดพิเศษ ในราคาเริ่มต้นรุ่น 4G 18,810 บาท ส่วน 5G 21,510 บาท ตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม-30 พฤศจิกายนนี้เท่านั้น
