xs
xsm
sm
md
lg

ฮิตาชิ-ไมโครซอฟท์ จับมือลุยโลจิสติกส์อาเซียน-อเมริกาเหนือ-ญี่ปุ่น

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ฮิตาชิ-ไมโครซอฟท์ ผนึกกำลังร่วมพัฒนาโซลูชันดิจิทัลเพื่ออนาคตสำหรับอุตสาหกรรมการผลิตและโลจิสติกส์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อเมริกาเหนือและญี่ปุ่น ระบุเป็นความร่วมมือทางกลยุทธ์ระยะยาว เพื่อเร่งพัฒนาการเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัลเพื่ออุตสาหกรรมการผลิตและโลจิสติกส์ทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อเมริกาเหนือ และในญี่ปุ่น โดยโซลูชันนี้จะสามารถให้บริการได้ในประเทศไทยภายในเดือนกรกฎาคม ปีนี้

นายจุน อาเบะ รองประธานและกรรมการบริหาร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายธุรกิจอุตสาหกรรมและการกระจายประจำ บริษัท ฮิตาชิ กล่าวว่าบริษัทรู้สึกยินดีที่ได้ขยายความร่วมมือร่วมกับไมโครซอฟต์ และได้ผสานนวัตกรรม OT และ IT รวมทั้งความเป็นเลิศด้านผลิตภัณฑ์เพื่อนำเสนอโซลูชันทางดิจิทัลให้แก่บริษัทด้านการผลิตและโลจิสติกส์

"เราใช้แพลตฟอร์ม Lumada เพื่อนำเสนอโซลูชันแบบบูรณาการในการตอบโจทย์ความท้าทาย โดยเชื่อมไซเบอร์สเปซเข้ากับโลกความเป็นจริง(Physical space) ความร่วมมือกับไมโครซอฟต์จะช่วยให้เราสามารถเร่งการเปลี่ยนผ่านไปสู่ความเป็นดิจิทัลของลูกค้า และสานต่อความทุ่มเทนี้เพื่อเพิ่มมูลค่าทางสังคม สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจ”

จากความร่วมมือกันนี้ ทั้งสองบริษัทจะทำงานร่วมกันเพื่อตอบโจทย์ความต้องการด้านการคาดคะเนอัตราการเสื่อมของเครื่องจักรและกระบวนการทำงานอัตโนมัติในพื้นที่ห่างไกล และเพื่อสนับสนุนธุรกิจในยามที่ต้องเผชิญกับความท้าทายจากการระบาดของเชื้อ COVID-19 ฮิตาชิจะใช้โซลูชันชั้นนำในภาคอุตสาหกรรม เช่น แพลตฟอร์ม Lumada และตัวควบคุมที่รองรับระบบ IoT อย่าง HX Series ซึ่งจะทำงานร่วมกับแพลตฟอร์มคลาวด์ของไมโครซอฟท์ ได้แก่ Azure Dynamics 365 และ Microsoft 365 เพื่อช่วยให้ภาคธุรกิจเพิ่มความสามารถในการผลิตด้านทรัพยากรบุคคล และความมีประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานได้มากขึ้น อีกทั้ง ฮิตาชิและไมโครซอฟท์จะร่วมมือกันเพื่อสนับสนุนแนวทางเสริมทักษะที่ช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ธุรกิจ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางดิจิทัล และเปิดประตูสู่โอกาสใหม่ๆ ทางธุรกิจ Lumada เป็นโซลูชัน บริการ และเทคโนโลยีดิจิตทัลขั้นสูงที่แปรข้อมูลให้เป็นองค์ความรู้ขับเคลื่อนนวัตกรรมดิจิทัล

ภายใต้ความร่วมมือครั้งนี้ ฮิตาชิจะให้การสนับสนุนโซลูชันใน 3 สายงาน 1. เพิ่มความสามารถในการผลิต โดยใช้ “Hitachi Digital Supply Chain” รวมทั้ง Azure IoT ในการวิเคราะห์ข้อมูลแบบ 4M จากโรงงาน ให้ได้มาซึ่งการสร้างภาพจำลองและการวิเคราะห์กระบวนการผลิต เพื่อปรับปรุงการดำเนินงานของโรงงานให้ดีที่สุดและเพิ่มความสามารถในการผลิต

2. พัฒนาระบบโลจิสติกส์ด้วยการวิเคราะห์ข้อมูล โดยเพิ่มประสิทธิภาพทางโลจิสติกส์และลดค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติงานด้วยการวิเคราะห์สภาพการจราจร ที่ตั้งคลังสินค้า และตำแหน่งการจัดส่ง รวมทั้งใช้งานการหาเส้นทางอัจฉริยะเพื่อประหยัดระยะทางและทำการจัดส่งได้รวดเร็วยิ่งขึ้นผ่านการใช้งานเทคโนโลยีดิจิตัลชั้นสูง เช่น Azure Maps และ “โซลูชั่นดิจิตัลของฮิตาชิ เพื่อบริการหาค่าที่เหมาะสมที่สุดในสายโลจิสติกส์/การส่งสินค้า (Hitachi Digital Solution for Logistics/Delivery Optimization Service)”

3. การคาดคะเนอัตราการเสื่อมของเครื่องจักรและการช่วยเหลือทางไกล โดยสามารถคาดคะเนอัตราการเสื่อมของเครื่องจักรและการช่วยเหลือระยะไกลแบบเรียลไทม์ รวมทั้งสถานการณ์สำหรับการฝึกอบรมทางไกลเพื่อการเสริมสร้างทักษะให้แก่พนักงานระดับปฎิบัติการ ผ่าน HoloLens 2 และ Dynamics 365 Remote Assistและอุปกรณ์อัจฉริยะอื่นๆ

สำหรับแผนในอนาคต ฮิตาชิมุ่งมั่นที่จะต่อยอดธุรกิจไปยังภูมิภาคอเมริกาเหนือและญี่ปุ่น ไมโครซอฟต์และฮิตาชิวางแผนที่จะขยายขอบเขตความร่วมมือให้ครอบคลุมภาคธุรกิจอื่นๆ นอกจากนั้น ฮิตาชิและไมโครซอฟต์จะเริ่มหารือในประเด็นการบูรณาการแพลตฟอร์ม Lumada และ Azure ให้เป็นแพลตฟอร์มทางข้อมูลอุตสาหกรรม เพื่อเพิ่มมูลค่าให้แก่ลูกค้าของทั้งสองบริษัทอีกด้วย

ในขณะที่นาย ชาเลอัน อาร์คาน รองประธานฝ่ายอุตสาหกรรมของไมโครซอฟต์ กล่าวว่าการสร้างความแข็งแกร่งและซัพพลายเชนดิจิทัลที่มีความคล่องตัวมีความสำคัญต่อการเติบโตของธุรกิจและการตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคในยุคปัจจุบันที่สิ่งแวดล้อมเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การขยายความร่วมมือกับฮิตาชิจะนำมาซึ่งโอกาสใหม่ๆ ให้แก่บริษัทในสายการผลิตและโลจิสติกส์ ซึ่งบริษัทเหล่านี้ต่างมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในภาคอุตสาหกรรมของตน รวมทั้งเป็นผู้ริเริ่มในภาคธุรกิจด้วยแนวคิดขับเคลื่อนด้วยข้อมูลและขีดความสามารถทางดิจิทัล.


กำลังโหลดความคิดเห็น