หัวเว่ย (Huawei) ขยายไลน์สินค้าสมาร์ทโฟนในกลุ่มที่รองรับ 5G ต่อเนื่อง ด้วย nova 7 และ nova 7 SE ทำราคาเริ่มต้นที่ 11,990 บาท ทำให้กลายเป็นสมาร์ทโฟน 5G ราคาต่ำที่สุด ในกลุ่มเครื่องที่ใช้งานในไทยได้เวลานี้ ด้านโอเปอเรเตอร์ขานรับทำแพ็กเกจผูกสัญญาเหลือเริ่มต้นที่ 5,990 บาท
หลังจากหัวเว่ย มีสมาร์ทโฟนในกลุ่มแฟลกชิป ทั้ง Huawei Mate 30 Pro 5G Huawai Mate Xs 5G และ Huawei P40 ซีรีส์ 5G แล้ว ก็ถึงเวลาขยายไลน์สินค้าที่รองรับ 5G ให้แก่ผู้บริโภคในระดับราคาที่จับต้องได้ ในตระกูล nova ซึ่งถือเป็นซีรีส์ที่ขาดดีที่สุดของหัวเว่ย ในช่วงที่ผ่านมา
จุดเด่นของ Huawei nova 7 คือการนำหน่วยประมวลผลระดับแฟลกชิป Kirin 985 5G มาใช้งาน ส่วน nova 7 SE จะใช้ซีพียูรุ่นที่รองลงมาหน่อยอย่าง Kirin 820 5G ซี่งทั้งคู่มากับหน่วยประมวลผล NPU ที่มาช่วยประมวลผลทางด้าน AI รวมถึงหน่วยประมวลผลภาพเพิ่มเติม เพื่อช่วยเพิ่มคุณภาพของภาพถ่ายด้วย
Huawei nova 7 มากับหน้าจอขนาด 6.53 นิ้ว กล้องหลัง 4 ตัว ความละเอียดสูงสุด 64 ล้านพิกเซล RAM 8 GB ROM 256 GB แบตเตอรี่ 4,000 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 40W เหมือนในเครื่องรุ่นท็อปอย่าง P40 ซีรีส์ พร้อมเปิดให้สั่งจองแล้ว ก่อนวางจำหน่าย 11 กรกฏาคม 2563
ขณะที่ nova 7 SE มากับหน้าจอขนาด 6.5 นิ้ว กล้องหลัง 4 ตัวเช่นเดียวกัน ความละเอียดสูงสุด 64 ล้านพิกเซล RAM 8 GB ROM 128 GB แบตเตอรี 4,000 mAh รองรับชาร์จเร็ว 40W เช่นเดียวกัน พร้อมวางจำหน่ายวันที่ 22 มิถุนายนนี้
ทั้งนี้ nova 7 วางจำหน่ายในราคา 16,990 บาท ส่วน nova 7 SE ราคาเปิดตัวอยู่ที่ 11,990 บาท โดยทาง ดีแทค มีการทำโปรโมชันพิเศษ เมื่อซื้อ nova 7 SE พร้อมสมัครแพ็กเกจ 1,099 บาท จะสามารถซื้อเครื่องได้ในราคา 5,990 บาท
