TikTok แพลตฟอร์มสร้างสรรค์วิดีโอสั้น ที่มีความโดดเด่นในเรื่อง การสร้างมาตรฐานความปลอดภัยให้กับผู้ใช้ และเพื่อพัฒนา ประสบการณ์การใช้แพลตฟอร์มให้กับผู้ใช้อย่างต่อเนื่อง ด้วยการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยเพื่อสร้างความมั่นใจ ให้กับผู้ใช้ ผ่านฟีเจอร์ความปลอดภัยต่างๆ
TikTok จึงขอแนะนำให้รู้จักกับ 4 ฟีเจอร์ ความปลอดภัยเพื่อรักษาความเป็นส่วนตัว และการตั้งค่าความปลอดภัย เพื่อป้องกันการโดนแฮ็ก ด้วยการเปิดใช้งานฟีเจอร์ ดังต่อไปนี้
1.การแจ้งเตือนและรักษาความปลอดภัยบัญชีของผู้ใช้
ผู้ใช้จะได้รับการแจ้งเตือนจาก TikTok เมื่อมีการใช้งาน ที่ผิดไปจากปกติ เช่น มีใครพยายามเข้าใช้บัญชีของคุณ โดยไม่ได้รับอนุญาต หรือมีอุปกรณ์มากกว่าหนึ่งชิ้นกำลังเชื่อมต่อ เข้าบัญชีของคุณพร้อมกัน
โดยผู้ใช้สามารถเข้าไปตรวจสอบการตั้งค่าความปลอดภัยของบัญชีคุณได้ โดยเข้าไปที่ หน้าโปรไฟล์ แล้วคลิก เครื่องหมาย 3 จุด บริเวณมุมด้านขวา บน หลังจากนั้นคลิกที่ “จัดการบัญชีของฉัน” แล้วเลือกเมนู “ความปลอดภัย” จะปรากฎหน้าให้คุณจัดการการตั้งค่า เพื่อดูแล บัญชีของคุณให้ปลอดภัย
หลังจากนั้นเลือกที่ “การแจ้งเตือนความปลอดภัย” คุณจะทราบได้ว่าที่ผ่านมามีกิจกรรมที่ผิดปกติหรือไม่ รวมถึงสามารถทาบได้ว่ามีอุปกรณ์ประเภทใดบ้างที่เข้าสู่ระบบบัญชีของคุณอยู่
2 การตั้งค่าความเป็นส่วนตัว
ผู้ใช้สามารถตั้งค่าความเป็นส่วนตัวเพื่อป้องกันการแฮ็กข้อมูล หรือบัญชีส่วนตัวได้ โดยเข้าไปที่ หน้าโปรไฟล์ คลิก จุดสามจุด บริเวณมุมด้านขวาบน แล้วเลือก “การตั้งค่าความเป็นส่วนตัว” โดยผู้ใช้สามารถ เลือกการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวได้ ดังนี้
โหมด “บัญชีส่วนตัว” โดยบัญชีส่วนตัวจะมีเพียงผู้ติดตามเท่านั้นที่ได้รับการอนุมัติที่สามารถติดตาม ดูวิดีโด กดถูกใจวิดีโอ และแสดงความคิดเห็น บนวิดีโอของเจ้าของบัญชีนั้นได้ โดยการเปิดใช้งานโหมด “บัญชีส่วนตัว” นี้ จะบังคับให้ผู้ใช้รายอื่นต้องส่งคำขอติดตาม มาก่อนเสมอ เพื่อให้เจ้าของบัญชีเป็นผู้อนุมัติการเข้าถึง คอนเทนต์ต่างๆ บนแพลตฟอร์ม
โหมด “แนะนำบัญชีของคุณให้กับผู้ใช้งานอื่นๆ” ตัวเลือกนี้จะช่วยเพิ่มยอดผู้ติดตาม (follower) โดยที่ระบบจะแสดงบัญชีของคุณให้กับผู้ใช้รายอื่นที่มีความสนใจในเนื้อหาวีดีโอที่มีลักษณะคล้ายกัน
โหมด “ความปลอดภัย” ประกอบไปด้วยการตั้งค่าที่เกี่ยวกับการปกป้องข้อมูลของคุณ เช่น ผู้ใช้คนอื่นสามารถดาวน์โหลดวีดีโอของคุณได้มั้ย ใครสามารถส่งข้อความส่วนตัว (Direct Message) หาคุณได้บ้าง หรือใครสามารถดูเอ็ท (Duet) กับวิดีโอของคุณได้ เป็นต้น
โหมด “ตัวกรองความคิดเห็น” จะทำให้ผู้ใช้สามารถบล็อกการแสดงความคิดเห็น ที่ไม่เหมาะสมได้ ด้วยการซ่อนความคิดเห็นที่อาจจะเป็นสแปม หรือไม่เหมาะสมกับวิดีโอนั้น นอกจากนี้ผู้ใช้ยังสามารถ สร้างคีย์เวิร์ด (Keyword)สำหรับคำที่ไม่ต้องการแสดงได้ เมื่อมีผู้ใช้มาแสดงความคิดเห็นบนหน้าวิดีโอของตนได้อีกด้วย
โหมด “ตัวกรองความคิดเห็น” จะทำให้ผู้ใช้สามารถบล็อกการแสดงความคิดเห็น ที่ไม่เหมาะสมได้ ด้วยการซ่อนความคิดเห็นที่อาจจะเป็นสแปม หรือไม่เหมาะสมกับวิดีโอนั้น นอกจากนี้ผู้ใช้ยังสามารถ สร้างคีย์เวิร์ด (Keyword)สำหรับคำที่ไม่ต้องการแสดงได้ เมื่อมีผู้ใช้มาแสดงความคิดเห็นบนหน้าวิดีโอของตนได้อีกด้วย
ตัวเลือก “บัญชีที่ถูกบล็อก”ผู้ใช้สามารถดูและเปลี่ยนแปลงรายชื่อของผู้ใช้อื่นที่ถูกบล็อก
ได้ที่เมนู “บัญชีที่ถูกบล็อก” นี้ หากต้องการยกเลิกการบล็อก ก็สามารถทำได้โดยคลิก “ปลดบล็อก”
3. วิธีการบล็อกผู้ใช้ที่ไม่น่าไว้วางใจ
3. วิธีการบล็อกผู้ใช้ที่ไม่น่าไว้วางใจ
สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการบล็อกบัญชีและวิดีโอของบุคคลอื่นที่ไม่น่าไว้วางใจสามารถทำได้ โดยกดเข้าไปที่ โปรไฟล์ของผู้ใช้ที่ต้องการบล็อก หลังจากนั้น กด เครื่องหมาย 3 จุด แนวตั้งที่บริเวณด้านขวาบน แล้วจะปรากฎหน้า pop-up จากด้านล่างให้ผู้ใช้เลือกกดตัวเลือกที่มีคำว่า “บล็อก” เพียงเท่านี้ วีดีโอจากบัญชีผู้ใช้นั้นจะไม่ปรากฎให้เห็น เช่นเดียวกับผู้ใช้ที่ถูกบล็อก ก็จะไม่สามารถเข้าถึงบัญชีและเห็นวิดีโอของคุณเช่นกัน
4. วิธีการดาวน์โหลดข้อมูล TikTok
TikTok อนุญาตให้ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้เองได้ โดยข้อมูลที่สามารถดาวน์โหลดได้จะมี โปรไฟล์ของคุณ กิจกรรม ของคุณ และการตั้งค่าของคุณ โดยตัวเลือกนี้จะอยู่ภายใต้ หัวข้อ “การตั้งค่าความเป็นส่วนตัว” หลังจากนั้นคลิกที่ “การทำให้เป็นส่วนตัวและข้อมูล” และ “ดาวน์โหลดข้อมูลของฉัน”
จากนั้นผู้ใช้สามารถคลิกที่ “ร้องขอไฟล์ข้อมูล” เพื่อขอไฟล์ข้อมูลซึ่งประกอบไปด้วย ข้อมูลโปรไฟล์ของคุณที่แสดงข้อมูล ชื่อผู้ใช้ รูปโปรไฟล์ ข้อมูลติดต่อ เป็นต้น กิจกรรมของคุณที่แสดงข้อมูลวีดีโอ ความคิดเห็น ประวัติการสนทนา เป็นต้น การตั้งค่าแพลตฟอร์มของคุณที่แสดงข้อมูลภายใต้การตั้งค่า ที่เกิดขึ้น เช่น ความเป็นส่วนตัว ความปลอดภัย การแจ้งเตือน การตั้งค่าภาษา และอื่นๆ เป็นต้น