นูทานิกซ์ (Nutanix Mine) และวีม (Veeam’s Backup & Replication Software) ผนึกกำลังพัฒนาโซลูชันปกป้องข้อมูลแบบอัตโนมัติ รองรับระบบการจัดเก็บข้อมูลจากทุกสภาพแวดล้อม โดยซอฟต์แวร์ในการสำรองและกู้คืนข้อมูลของ Veeam ที่ฝังตัวอยู่กับ Nutanix Mine จะจัดการครบวงจรเพื่อช่วยให้บริษัทต่าง ๆ สามารถปกป้องและเข้าถึงข้อมูลของตนได้อย่างปลอดภัยในช่วงเวลาวิกฤต Covid-19 สุดวุ่นวาย
Nutanix และ Veeam Software ให้รายละเอียดความร่วมมือว่าโซลูชันการปกป้องและการจัดการข้อมูลที่ครบวงจรนี้ ประกอบด้วยซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ทั้งหมดที่จำเป็นต่อการจัดเก็บข้อมูลจากระบบ และแอปพลิเคชั่นที่หลากหลาย และจะช่วยเรื่องการกู้คืนข้อมูลแอปพลิเคชั่นที่สำคัญ ๆ ได้ นอกจากนี้ยังรองรับการเก็บรักษาข้อมูลในระยะยาวได้อีกด้วย
ทั้งคู่อธิบายว่า ปัจจุบันข้อมูลเป็นสินทรัพย์สำคัญของธุรกิจจำนวนมาก ดังนั้นการปกป้องและการสำรองข้อมูลทางธุรกิจรวมถึงการเข้าใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง ความพร้อมใช้ และความสมบูรณ์ของข้อมูล เป็นสิ่งสำคัญต่อความต่อเนื่องและความอยู่รอดของธุรกิจ
สถานการณ์ Covid-19 ที่ยังคงระบาดทั่วเอเชียแปซิฟิก ส่งผลให้ความยั่งยืนและความอยู่รอดยังคงเป็นสิ่งที่ผู้นำทางธุรกิจต้องคำนึงถึง เพราะการดำเนินงานที่ทำเป็นกิจวัตรที่เกี่ยวกับดาต้าเซ็นเตอร์และโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญได้รับผลกระทบไปด้วยข้อจำกัดด้านการเดินทางของพนักงานและข้อจำกัดในการเข้าถึงข้อมูลและสิ่งจำเป็นต่าง ๆ ดังนั้นความร่วมมือในการพัฒนาโซลูชั่นร่วมกันของ Nutanix และ Veeam ในครั้งนี้จึงเกิดขึ้นในเวลาที่เหมาะสม
Nutanix Mine ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นโซลูชั่นสำหรับระบบจัดเก็บข้อมูลสำรอง (secondary storage) ภายใต้พื้นฐานของนูทานิคซ์เอ็นเตอร์ไพรซ์คลาวด์ ซึ่งทำให้นูทานิคซ์นำเสนอแพลตฟอร์มของตนเองทั้งบนระบบหลัก และระบบที่ใช้ในการสำรองข้อมูลได้แบบเบ็ดเสร็จ แพลตฟอร์มนี้ช่วยขจัดความซับซ้อนที่พบบ่อยในโซลูชั่นการปกป้องข้อมูลแบบดั้งเดิม และกำจัดกระบวนการที่คนต้องลงมือทำด้วยตนเองซึ่งใช้เวลามาก เช่น การเก็บอุปกรณ์ต่าง ๆ อย่างถาวร เช่น การเก็บเทปไดรฟ์ เป็นต้น
เมื่อทำงานร่วมกับ Veeam แล้ว Nutanix Mine ช่วยให้การปกป้องข้อมูลและการบริหารจัดการข้อมูลบนคลาวด์ทำได้ง่ายขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถปรับขยายได้แบบ web-scale และสำรองข้อมูลได้ด้วยวิธีที่เรียบง่าย ผลิตภัณฑ์นี้มีแดชบอร์ดที่ได้รับการออกแบบใหม่ซึ่งให้ความสำคัญกับสถานะของโครงสร้างทั้งของ Nutanix และ Veeam และรวมถึงจำนวนลิขสิทธิ์ Veeam แบบมาตรฐาน เพื่อการจัดซื้อที่ไม่ยุ่งยาก
ประโยชน์อื่น ๆ จากโซลูชันนี้ คือการขึ้นระบบสำรองข้อมูลองค์กรได้อย่างรวดเร็ว (time to value) เพราะจะช่วยให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีขึ้นไม่ว่าจะเป็นการสั่งซื้อ การใช้งาน เรื่องของขนาด การจัดการ การปรับขนาด ความคล่องตัว และการให้ความช่วยเหลือ
ขณะเดียวกัน การทำงานด้านไอทีจะเป็นหนึ่งเดียว ตั้งแต่การใช้งานไปจนถึงการจัดการข้อมูลในแต่ละวันซึ่งช่วยขจัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น แถมยังรองรับการทำ Drop-In, Scale Up และ Scale Out พร้อมกับ full-stack ไฮเปอร์ไวเซอร์, ฮาร์ดแวร์, แพลตฟอร์ม, ระบบปฏิบัติการ, การบริหารจัดการ, การจัดเก็บ และการให้ความช่วยเหลือแบบเบ็ดเสร็จ
Nutanix Mine มาพร้อมกับแพลฟอร์มที่พร้อมใช้ 2 รุ่นในช่วงเปิดตัว: ซึ่งแต่ละรุ่นถูกปรับให้เข้ากับความต้องการของลูกค้า ลูกค้าสามารถเริ่มต้นใช้โซลูชั่นขนาดเล็กหรือขนาดกลางที่ออกแบบมาอย่างเจาะจงเพื่อรองรับการทำงานกับเวอร์ชวลแมชชีนได้มากถึง 250 เครื่อง หรือ 500 เครื่องตามลำดับ
ทางเลือกทั้งสองแบบนี้มีระบบต่าง ๆ ที่สามารถเพิ่มโหนดได้มากที่สุดถึงแปดโหนดได้อย่างง่ายดาย ซึ่งช่วยให้ลูกค้าสามารถเลือกใช้ได้ตามความจำเป็นต่อการเติบโตทางธุรกิจ ด้วยการเพิ่มการปกป้องข้อมูลของตนเพื่อให้เกิดการหยุดชะงักน้อยที่สุดในช่วงที่ธุรกิจกำลังเติบโต
ลูกค้าสามารถใช้งาน Veeam Backup and Replication ที่ทำงานร่วมกับการบริหารจัดการสตอเรจของ Nutanix ได้อย่างรวดเร็วผ่านโซลูชั่นครบวงจรที่ช่วยลดเวลาและลดความยุ่งยากในการปกป้องข้อมูลทั้งในดาต้าเซ็นเตอร์และบนคลาวด์ โซลูชั่นนี้ช่วยให้ระยะเวลาส่งมอบบริการตามความต้องการทำได้เร็วขึ้น, การทำงานด้านไอทีเป็นหนึ่งเดียว และมีความสามารถในการ drop-in และ scale up หรือ scale out ได้อย่างง่ายดาย เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของดาต้าเซ็นเตอร์ที่ทันสมัยในปัจจุบัน