xs
xsm
sm
md
lg

กสท โทรคมนาคมคาดฮุบไทยคม 100% ไม่จำเป็นต้องมีพันธมิตร

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กสท โทรคมนาคม มั่นใจธุรกิจ ดาวเทียมทิศทางสดใส คาดธุรกิจดาวเทียม LEO ได้พันธมิตรไตรมาสสามปีนี้ ส่วนดาวเทียมไทยคม รอ ครม.อนุมัติพร้อมเดินหน้าบริหารจัดการแทน เตรียมส่งทีมเรียนรู้ระบบควบคุมดาวเทียม ชี้หากสามารถทำเองได้ 100 % ก็ไม่จำเป็นต้องหาพันธมิตร

พ.อ.สรรพชัย หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตร 2-3 ราย เพื่อให้บริการดาวเทียม LEO (Low Earth Orbit) ที่มีการใช้งานในลักษณะกลุ่มดาวเทียม (Constellation) ครอบคลุมทั่วโลกกว่า 600 ดวง โดยแบ่งเป็น 2 บริการ ได้แก่ การให้บริการเช่าสถานีควบคุมดาวเทียม และเป็นตัวแทนจำหน่าย ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปทั้ง 2 ส่วนภายในไตรมาส 3/2563

เนื่องจากพันธมิตรดังกล่าวเป็นดาวเทียมต่างชาติ จึงต้องรอหลักเกณฑ์การให้ใบอนุญาตการประกอบกิจการดาวเทียมต่างชาติ (แลนด์ดิ้งไรท์) จากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)

ทั้งนี้ดาวเทียมวงโคจรต่ำจะรองรับการพัฒนาโครงข่าย 5G ได้อย่างเต็มศักยภาพของประเทศไทยด้วยคุณสมบัติสำคัญคือการส่งข้อมูลความเร็วสูงเกิน 400 Mbps ความหน่วงต่ำกว่า 32 มิลลิวินาที และสามารถเชื่อมโยงเครือข่ายอุปกรณ์อินเทอร์ เน็ต ออฟ ธิงส์ (ไอโอที) , อุปกรณ์ต่ออุปกรณ์ (เอ็มทูเอ็ม) จำนวนมาก จึงสามารถเสริมประสิทธิภาพร่วมกับ 5G ภาคพื้นดินเพื่อครอบคลุมทุกพื้นที่สำหรับการพัฒนา 5G ของประเทศไทยอย่างเต็มรูปแบบ

ส่วนกรณีที่คณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (บอร์ดดีอี) ได้เห็นชอบให้กสท โทรคมนาคม เป็นผู้รับผิดชอบในการบริหารจัดการทรัพย์สินที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) รับโอนหลังสิ้นสุดสัญญาสัมปทานให้บริการดาวเทียมจากบริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) ในเดือนก.ย. 2564 ขณะนี้ อยู่ระหว่างรอกระทรวงดีอีเอสเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในเร็วๆ นี้ ซึ่งหากได้รับอนุมัติจาก ครม. จึงจะสามารถบริหารจัดการภาพรวมทั้งโครงการ

"เรายืนยันความพร้อมในการบริหารจัดการดาวเทียม โดยบริษัทมีประสบการณ์ในการทำดาวเทียมมากกว่า 50 ปี ทำให้มีความพร้อมทางด้านโครงสร้างพื้นฐาน โดยมีสถานีฐานจำนวน 3 แห่ง ได้แก่ จ.นนทบุรี, อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี และจ.อุบลราชธานี ประกอบกับมีความพร้อมด้านบุคลากร ทั้งด้านเทคนิค และกฎหมาย ส่วนด้านการบริหารจัดการ และควบคุมดาวเทียมในบางส่วนซึ่งมีความละเอียดอ่อนจำเป็นต้องพัฒนาบุคลากรเพิ่มความรู้ทักษะเฉพาะด้าน กสท โทรคมนาคมจะพัฒนาบุคลากรโดยส่งพนักงานเข้าฝึกอบรมเตรียมความพร้อมในการบริหารสินทรัพย์อย่างต่อเนื่องหลังสิ้นสุดสัมปทาน ซึ่งต้องส่งไปฝึกอบรม กับไทยคม จำนวน 24 คน ใน เดือนกันยายน 2563" พ.อ.สรรพชัย กล่าว

ทั้งนี้ได้จัดทำแผนบริหารจัดการดาวเทียมแห่งชาติแบบจีทูจีด้วยกระบวนการตามมาตรา 49 ของพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน (พีพีพี) โดยนำเสนอผ่านคณะกรรมการนโยบายอวกาศแห่งชาติและบอร์ดดีอีแล้วเมื่อวันที่ 10 เม.ย. 2563 โดยแผนดังกล่าวครอบคลุมการเตรียมความพร้อมในทุกด้าน ซึ่งอยู่ในขอบเขตความสามารถบริหารจัดการของ กสท โทรคมนาคมทั้งการพิจารณาต่อยอดสินทรัพย์ดาวเทียมที่จะหมดอายุการใช้งานวิศวกรรมเพื่อการใช้งานระยะยาว โดยบริษัทได้เตรียมแผนบริหารดาวเทียมที่จะเหลือ 2 ดวงหลังสิ้นสุดสัมปทานคือไทยคม 4 และ 6 รวมทั้งการพัฒนาบุคลากรรองรับงานในอนาคต

ขณะที่ แนวทางสำหรับดาวเทียมไทยคม 4 (ไอพีสตาร์) ซึ่งมีอายุทางวิศวกรรมและพลังงานเชื้อเพลิงใช้ได้ถึงปี 2565 ประเมินว่าเป็นตำแหน่งดาวเทียมที่มีศักยภาพสูงรองรับลูกค้าไทยและต่างชาติ อาจส่งโดรนเติมเชื้อเพลิงเพื่อใช้งานต่ออีกระยะหนึ่งระหว่างรอการจัดหาดาวเทียมทดแทน

สำหรับดาวเทียมดวงที่ 6 ขณะนี้รับลูกค้าบริการบรอดคาสต์ที่โอนย้ายจากไทยคม 5 เต็มขีดความสามารถแล้วโดยรองรับผู้ชมโทรทัศน์ระบบดาวเทียมกว่า 15-16 ล้านรายและมีอายุการใช้งานถึงปี 2572 หลังจากนั้น กสท โทรคมนาคม จะสามารถดำเนินการด้านเอกสารข่ายงานดาวเทียม (Satellite Network Filing) เพื่อจองตำแหน่งดาวเทียมและพัฒนาดาวเทียมดวงใหม่ทดแทน โดยเป็นการช่วยรักษาตำแหน่งดาวเทียมนี้ไว้ต่อไปเพื่อการใช้ประโยชน์ในระยะยาวของประเทศ

"ส่วนแผนบริหาร จัดการ ดาวเทียมไทยคม 4 และ 6 จะมีการประเมินหลังจาก มีการฝึกอบรมกับไทยคม หากเราทำเองได้ 100% ก็ไม่จำเป็นต้องมีพันธมิตร" พ.อ.สรรพชัย กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น