รมว.ดีอีเอส มอบนโยบายเร่งด่วนซีอีโอปณท คนใหม่ ออกมาตรการฆ่าเชื้อพัสดุที่มาจากต่างประเทศทุกชิ้นก่อนส่งถึงผู้รับ พร้อมเข้มรักษาความสะอาดศูนย์ให้บริการตลอดจนพนักงานทุกสาขา และต้องเป็นที่พึ่งของประชาชนในการรับของถึงบ้าน เหตุคนทำงานที่บ้าน และซื้อของออนไลน์มากขึ้น ตลอดจนเป็นตัวกลางนำผลผลิตเกษตรกรมาจำหน่าย หลังมีผลกระทบด้านการส่งออกจากวิกฤติดังกล่าว
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่า จากการแพร่ระบาดของเชื้อ โควิด-19 กระทรวงดีอีเอส ซึ่งเป็นหน่วยงานที่กำกับดูแล บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) ได้เล็งเห็นว่า สถานการณ์ดังกล่าวอาจมีผลกระทบต่อการให้บริการด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ของปณท และตระหนักถึงความสำคัญที่ต้องเร่งดำเนินการเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน จึงได้กำชับให้การปฏิบัติงานในทุกขั้นตอนของปณท โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการลูกค้าทั้งในและระหว่างประเทศมีมาตรการป้องกัน ติดตาม เฝ้าระวังอย่างรัดกุม
เริ่มตั้งแต่การฆ่าเชื้อโรคกับพัสดุที่มาจากต่างประเทศทุกชิ้น ก่อนดำเนินการขนเข้าศูนย์เพื่อกระจายไปยังผู้รับ ตลอดจนบุคลากร และ สาขาของ ปณท ที่ต้องทำความสะอาด เพิ่มความถี่ในการทำความสะอาดทุกครึ่งชั่วโมง โดยเฉพาะจุดที่ให้บริการลูกค้า อาทิ มือจับประตู จุดกดบัตรคิว เก้าอี้ เคาน์เตอร์ให้บริการมีหน้ากากอนามัยให้พนักงานป้องกัน และเจลล้างมือให้บริการ หากพบว่ามีการติดเชื้อต้องให้พนักงานหยุดงานและหาคนเปลี่ยนมาทำงานทันที รวมถึงทำความสะอาดฆ่าเชื้อเร่งด่วน
จากสถานการณ์ดังกล่าว ทำให้ประชาชนทำงานที่บ้านมากขึ้น มีการใช้งานออนไลน์ ทั้งการซื้อของ และขายของ ดังนั้นจึงไม่ต้องการออกจากบ้านเพื่อมาส่งของ ปณท จึงต้องมีแผนในการรับสิ่งของจากประชาชนถึงบ้านมากขึ้น ซึ่งมองว่า หาก ปณท เป็นที่พึ่งของประชาชนและสร้างโอกาส รวมถึงการเป็นตัวกลางในการขนส่งสินค้าเกษตร จากเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดต่างๆ มาช่วยจำหน่ายตามจุดต่างๆ เพื่อช่วยสร้างตลาด ลดภาระต้นทุน หลังจากที่ไวรัสตัวนี้ ส่งผลกระทบต่อการส่งออก
'จากการให้บริการครั้งนี้ ปณท จะสามารถทวงคืนส่วนแบ่งตลาดและสามารถแข่งขันกับเอกชนได้ ซึ่งตนเองเชื่อมั่นในศักยภาพของนายก่อกิจ ด่านชัยวิจิตร กรรมการผู้จัดการใหญ่ ปณท คนใหม่ว่าจะสามารถบริหารจัดการในงบประมาณและบุคลากรที่มีอยู่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ' นายพุทธิพงษ์ กล่าว
ด้าน นายก่อกิจ กล่าวว่า ปณท มีศักยภาพทั้งด้านบุคลากร และงบประมาณ ที่สามารถจัดสรรเพื่อให้ดำเนินการตามนโยบายเร่งด่วนของกระทรวงดีอีเอส ซึ่งนอกจากการเข้มงวดมาตรการด้านความสะอาดแล้ว ด้วยศักยภาพของไปรษณีย์ไทยที่มีเครือข่ายรวมกว่า 10,000 แห่ง ได้ร่วมกับองค์การสุรา กรมสรรพสามิต เตรียมวางจำหน่ายเจลแอลกอฮอล์ทำความสะอาดมือในที่ทำการไปรษณีย์ ทั่วประเทศ เพื่อเพิ่มช่องทางให้ประชาชนสามารถหาซื้อได้ง่ายขึ้นในราคาที่เป็นธรรม
นอกจากนี้ ปณท ได้จัดเตรียมแผนการรับมือการระบาดสู่ระยะที่ 3 หากมีประกาศกระทรวงสาธารณสุขยกระดับการแพร่ระบาดภายในประเทศที่ติดเชื้อในคนสู่คนจากการสัมผัสแบบใกล้ชิด ทั้งด้านผู้ใช้บริการ เนื่องด้วยประชาชนจำเป็นต้องงดการออกจากเคหะสถาน ปณท พร้อมทำหน้าที่ในการส่งสินค้าอุปโภค บริโภคให้กับผู้ใช้บริการถึงบ้าน
ด้านที่ทำการไปรษณีย์ หากพบว่ามีเจ้าหน้าที่หรือผู้ใช้บริการที่มีความเสี่ยงมาใช้บริการ จะทำการปิดที่ทำการไปรษณีย์เพื่อทำความสะอาด พ่น อบ น้ำยาฆ่าเชื้อไวรัสก่อนแล้วจึงเปิดให้บริการอีกครั้ง และในส่วนของร้านไปรษณีย์ ได้กำกับให้รายงานเกี่ยวกับสุขภาพของพนักงานอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งขอความร่วมมือร้านไปรษณีย์ไทย และเครือข่ายไปรษณีย์ไทยทั่วประเทศ ปฏิบัติตามมาตรการเดียวกันกับปณทที่ดำเนินการตามแนวทางของกระทรวงสาธารณสุข อีกทั้งปณทมีแผนรองรับการจัดการงานที่คงค้าง ทั้งงานรับฝาก ส่งต่อ นำจ่าย ไม่ให้ล่าช้าหรือเสียหาย
ด้านบุคลากร และเจ้าหน้าที่ที่ให้บริการ หากตรวจพบเจ้าหน้าที่ในที่ทำการไปรษณีย์ ร้านไปรษณีย์ รวมถึงเครือข่ายไปรษณีย์ไทยที่มีความเสี่ยง มีมาตรการให้หยุดงานทันที และจะรายงานอาการของพนักงานโดยไม่มีการปกปิดด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม พร้อมจะจัดเจ้าหน้าที่ที่มีความพร้อมมาปฏิบัติงานแทนเพื่อให้การทำงานไม่หยุดชะงัก