เอไอเอส ทดสอบการนำเทคโนโลยี 5G มาประยุกต์ใช้ในกิจการท่าเทียบเรือขนส่งสินค้า ควบคุมเครนยกตู้สินค้าได้จากระยะไกล ผ่านโครงข่าย 5G ณ ท่าเทียบเรือฮัทชิสัน พอร์ท ประเทศไทย ท่าเรือแหลมฉบัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ช่วยบริหารจัดการขนส่งสินค้าในท่าเรือพาณิชย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นหนึ่งในโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัล และเทคโนโลยี 5G
ฮุย เวง ชอง หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านปฏิบัติการ เอไอเอส กล่าวว่า เพื่อยกระดับขีดความสามารถของทุกอุตสาหกรรมไปอีกขั้น จากการทดลองทดสอบ Use Case ทั่วทุกภูมิภาคและภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ตลอดช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา
ทำให้มีองค์ความรู้สำหรับการวางรากฐานโครงสร้างเครือข่ายหลักเตรียมรองรับเทคโนโลยี 5G อย่างต่อเนื่อง เช่น การควบคุมรถยนต์จากระยะทางไกล (5G Remote Driving) มาประยุกต์ใช้งานในงานภาคการผลิตร่วมกับเอสซีจี โดยการควบคุมรถยกของภายในโรงงานที่อยู่ในพื้นที่ต่างๆ ของประเทศ จากศูนย์ควบคุมระยะไกล
ล่าสุด เอไอเอส ได้นำ 5G มาใช้ทดสอบการควบคุมเครนยกขนตู้สินค้าที่ติดตั้งอยู่ในพื้นที่ต่างๆ ภายในท่าเทียบเรือ ฮัทชิสัน พอร์ท ประเทศไทย ได้จากห้องบังคับระยะไกล ผ่านการส่งสัญญาณควบคุมเครนจากห้องควบคุมด้วยระบบโครงข่าย 5G ของเอไอเอส
โดยนำคุณสมบัติเด่นของ 5G ในเรื่องความเร็วสูง (Speed) และการตอบสนองที่รวดเร็ว มีความหน่วงต่ำ (Latency) เพื่อใช้รับสัญญาณจากกล้องวงจรปิดที่เครนและส่งสัญญาณควบคุมจากห้องบังคับการกลับไปที่เครนได้ทันที ทำให้โดยภาพรวมแล้วเจ้าหน้าที่ควบคุมเครนจะสามารถสลับเปลี่ยนการควบคุมเครนแต่ละตัวในท่าเทียบเรือได้อย่างอิสระและรวดเร็วมากขึ้น นำไปสู่การบริหารจัดการเครนยกขนตู้สินค้าที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ท่าเรือแห่งนี้ตั้งอยู่บนโครงการระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC จึงสามารถเป็นต้นแบบให้ภาคอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ได้เห็นถึงประโยชน์และนำไปประยุกต์ใช้ได้จริงในอนาคต โดยความร่วมมือนี้ ถือเป็นการนำเทคโนโลยีล้ำหน้าเช่น 5G มาทดสอบใช้งานในกิจการท่าเรือพาณิชย์เป็นครั้งแรกในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้