xs
xsm
sm
md
lg

Grab ชู 3 เทรนด์ฟินเทคร้อนแรงแห่งปี 2020

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


วรฉัตร ลักขณาโรจน์
แกร็บ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป กลุ่มธุรกิจด้านการเงินในเครือแกร็บ (Grab) มองปี 2020 โลกจะมีบริการด้านการเงินดิจิทัลออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยมี 3 นวัตกรรมจากบริษัทฟินเทคเป็นหนึ่งในแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ตลาดและผู้บริโภคให้ความสนใจ ด้าน ธปท. โชว์จำนวนธุรกรรมผ่านมือถือและอินเทอร์เน็ตระหว่างปี 2557 – 2561 เพิ่มขึ้นถึง 116% ต่อปี

นายวรฉัตร ลักขณาโรจน์ กรรมการผู้จัดการ แกร็บ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป ประเทศไทย เชื่อว่าในปี 2020 การใช้งานอีวอลเล็ตจะครอบคลุมไม่เพียงแค่ภายในประเทศเท่านั้น แต่จะขยายไปสู่การทำธุรกรรมระหว่างประเทศ เนื่องจากทุกฝ่ายจะเริ่มเห็นความร่วมมือระหว่างธนาคารในภูมิภาค เพื่อเชื่อมต่อโครงสร้างพื้นฐานด้านการชำระเงินเข้าไว้ด้วยกัน ทำให้การชำระเงินระหว่างประเทศมีความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยยิ่งขึ้น

"พันธมิตรระหว่างธนาคารและผู้ให้บริการเทคโนโลยีจะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญของการพัฒนาบริการโมบายวอลเล็ตในประเทศไทยต่อไป”

วรฉัตร มองว่าเทรนด์ฟินแทคแรกสำหรับปี 2020 คือโมบายวอลเล็ตจะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญสู่สังคมไร้เงินสด โดยจากข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย พบว่าจำนวนธุรกรรมผ่านมือถือและอินเทอร์เน็ตระหว่างปี 2557 – 2561 เพิ่มขึ้นถึง 116% ต่อปี และแกร็บ ไฟแนเชียล กรุ๊ป เชื่อว่า อัตราการใช้บริการด้านโมบายแบงก์กิ้งจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยหนึ่งในบริการที่น่าจับตามอง คือ กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ หรือ อีวอลเล็ต (e-wallet)


เทรนด์ที่ 2 คือดิจิทัลนาโนไฟแนนซ์ ซึ่งเป็นทางเลือกใหม่เพื่อการเข้าถึงสินเชื่อรายย่อยที่ครอบคลุม จุดนี้ Grab เชื่อว่าสินเชื่อดิจิทัล (Digital Lending) เป็นสิ่งที่ผู้บริโภคให้ความสนใจอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นนวัตกรรมที่เปิดให้สถาบันการเงินสามารถนำข้อมูลอื่น ๆ (Alternative Data) มาประกอบการวิเคราะห์คุณสมบัติของผู้กู้ยืมได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มคนที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการของธนาคารได้ (Underbanked) เช่น พนักงานรายวัน และฟรีแลนซ์

"ปี 2020 จะเป็นปีที่เราได้เห็นนวัตกรรมนี้เกิดขึ้นอย่างเต็มรูปแบบ เนื่องจากเทคโนโลยีมีความพร้อม และภาครัฐเองได้ผ่อนคลายกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้สถาบันการเงินสามารถตอบสนองกลุ่มลูกค้าได้หลากหลายและกว้างขึ้น โดยการแข่งขันในตลาดจะอยู่ที่การพัฒนารูปแบบการประเมินคะแนนเครดิตที่เหมาะสม และการมอบประสบการณ์ที่สะดวกและไร้รอยต่อให้กับผู้ใช้งาน"

สำหรับแกร็บ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป ได้เริ่มให้สินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบการอาชีพ หรือนาโนไฟแนนซ์ แก่พาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2561 ที่ผ่านมา

นายวรฉัตร กล่าวเสริมว่า “อีกหนึ่งเทรนด์ที่จะเกิดขึ้นควบคู่กันกับการปล่อยสินเชื่อดิจิทัล ก็คือ การนำเทคโนโลยีมาใช้ในกระบวนการติดตามหนี้ ซึ่งจะทำให้ระบบโดยรวมมีประสิทธิภาพ และช่วยให้ผู้กู้สามารถเลือกวิธีชำระค่างวดที่สะดวกและเหมาะสมกับความสามารถในการชำระคืนของตนเองอีกด้วย”


เทรนด์ที่ 3 คือการเสริมศักยภาพ MSMEs ด้วยโซลูชันทางการเงินที่ครบวงจร เหตุผลสำคัญคือเพราะการเข้าถึงแหล่งเงินทุนเป็นหนึ่งในอุปสรรคสำคัญของผู้ประกอบการรายย่อย เนื่องจากผู้ประกอบการกลุ่มนี้มักมีประวัติธุรกรรมทางการเงินที่ไม่ชัดเจน จึงไม่ได้เป็นเซ็กเมนต์ที่สถาบันการเงินขนาดใหญ่ให้ความสำคัญ ดังนั้น โซลูชันทางการเงินสำหรับเอสเอ็มอีจึงมักถูกออกแบบมาเพื่อธุรกิจขนาดกลาง ทำให้ผู้ประกอบการรายย่อยสูญเสียโอกาสในการต่อยอดธุรกิจไปอย่างน่าเสียดาย

“บริษัทฟินเทคมีศักยภาพและความเชี่ยวชาญ ซึ่งสามารถช่วยเติมเต็มความต้องการของผู้ประกอบการกลุ่มนี้ เนื่องจากผู้ให้บริการเทคโนโลยีมีความเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคบนโลกดิจิทัลและมีความคล่องตัวในการดำเนินงาน ทำให้สามารถออกแบบโซลูชันที่เหมาะสม อีกทั้งยังสามารถนำเสนอบริการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่การชำระเงิน การทำบัญชียอดขาย ไปจนถึงการจัดแคมเปญการตลาด”

จากการสำรวจโดย Bain & Company พบว่า ผู้ประกอบการในประเทศไทยถึง 93% สนใจที่จะใช้โซลูชันการเงินที่ครบวงจร โซลูชันสำหรับ MSMEs จึงถือเป็นเทรนด์ที่มีโอกาสเติบโตสูงในปี 2020 อีกทั้งยังมีบทบาทสำคัญในการสร้างฐานข้อมูลระดับประเทศที่จะสร้างความเข้าใจเชิงลึกเกี่ยวกับผู้ประกอบการรายย่อยได้ในอนาคต.


กำลังโหลดความคิดเห็น