xs
xsm
sm
md
lg

หัวเว่ยโชว์ 3 กลยุทธ์เร่งเครื่อง 5G ไทย สู่จุดเปลี่ยนสำคัญปี 63

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


อาเบล เติ้ง
หัวเว่ยโชว์ 3 กลยุทธ์บุกตลาดไทยเต็มสูบปี 63 ระบุพร้อมดึง 5G Cloud และ AI หนุนเศรษฐกิจดิจิทัล เชื่อไทยตามติดเทรนด์โลกที่กำลังจับตามองการมาถึงของ 5G มั่นใจ 5G ปฏิวัติโลกได้ในทุก ด้าน

นายอาเบล เติ้ง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวระหว่างบรรยายในงานสัมมนา “5G The New Beginning พลิกโฉมเศรษฐกิจไทย” โดยยืนยันว่าเทคโนโลยี 5G จะสร้างการเปลี่ยนแปลงระบบเศรษฐกิจและสังคมโดยรวมทั้งหมด อีกทั้งเน้นย้ำว่า 5G ของประเทศไทยจะสำเร็จได้ ก็ต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างภาครัฐ อุตสาหกรรม และประชาชนอย่างเต็มรูปแบบ

“สำหรับประเทศไทย หัวเว่ยจะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการนำ 5G เข้ามาช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ ผ่านความร่วมมือทั้ง 3 ด้าน คือภาครัฐ อุตสาหกรรม และประชาชน”

ด้านภาครัฐ หัวเว่ยยืนยันว่าจะส่งเสริมการลงทุนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การจัดการมาตรการภาษี การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานไอซีที และการสนับสนุนทางด้านกฎหมายที่เอื้อต่อการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน 5G ของไทย ขณะที่ภาคอุตสาหกรรม หัวเว่ยจะร่วมมือสนับสนุนการลงทุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและอีโคซิสเต็มให้รองรับ 5G ซึ่งจะช่วยเร่งให้ภาคอุตสาหกรรมเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลได้อย่างเต็มรูปแบบ


ขณะที่ภาคประชาชน หัวเว่ยจะส่งเสริมความรู้ความเข้าใจในเทคโนโลยีใหม่ เช่น 5G Cloud และ AI ซึ่งจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงแนวทางการดำรงชีวิตของคนไทย เช่น ธุรกิจค้าปลีกอัจฉริยะ การแพทย์อัจฉริยะ การศึกษาอัจฉริยะ

“ที่ผ่านมาวิวัฒนาการของเทคโนโลยีใช้เวลานานกว่า 20 ปี นับตั้งแต่ 2G มาจนถึง 4G แต่การมาถึงของเทคโนโลยีไอซีทีใหม่ๆ ตั้งแต่เทคโนโลยี AI Cloud และ 5G นั้นเกิดขึ้นเร็วกว่านั้นหลายเท่า และจะมีบทบาททั้งด้านการสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐาน การตัดสินใจขององค์กรธุรกิจ ไปจนถึงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจระดับประเทศ เรามองว่าปี 2020 จะเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ของอุตสาหกรรมไอซีทีในประเทศไทย เพราะเทคโนโลยี 5G กำลังจะมา และจะมีการใช้งานในเชิงพาณิชย์ในปีหน้า”

อาเบล เติ้ง
นอกจากเชื่อว่าคนไทยกำลังจะเข้าสู่ยุคที่ทุกสิ่งเชื่อมโยงถึงกัน และทุกอย่างจะก้าวเข้าสู่ความเป็นอัจฉริยะ นายอาเบล เติ้ง ยังได้เผยการคาดการณ์ว่า 5G สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจระดับโลก มูลค่ากว่า 12.4 ล้านล้านดอลลาร์ และสร้างอาชีพใหม่กว่า 20 ล้านอาชีพภายในปี 2025 และชี้ว่าปัจจุบันเมืองสำคัญหลายแห่งทั่วโลกได้นำเทคโนโลยี 5G มาใช้แล้ว เช่น กรุงลอนดอน ซูริค กรุงปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ หางโจว มิลาน กรุงเบอร์ลิน โดฮา บาร์เซโลนา โดยมีโอเปอเรเตอร์กว่า 60 ราย จากกว่า 20 ประเทศทั่วโลกที่เปิดตัวการใช้ 5G ในเชิงพาณิชย์

“อุตสาหกรรมหลักที่เทคโนโลยี 5G จะเข้ามามีบทบาทอย่างแน่นอน คือ การขนส่งเดินทาง ภาคการผลิต อุตสาหกรรมเกม และโลจิสติกส์ ตัวอย่างกรณีการใช้งานจริงในประเทศต่างๆ ยังสร้างความเป็นไปได้ในหลากหลายด้าน ในเกาหลีใต้ มีผู้ใช้งาน 5G เพิ่มมากขึ้นเป็น 3.5 ล้านราย ภายใน 6 เดือน โดยส่วนใหญ่ใช้ใน VR/AR ที่มอบประสบการณ์เสมือนจริงที่รวดเร็วยิ่งขึ้นกว่าเดิม ในขณะเดียวกัน หัวเว่ยได้ร่วมมือกับโทรคมนาคมในประเทศจีน นำเทคโนโลยี 5G เข้ามายกระดับการขนส่งในอุตสาหกรรมเหมืองแร่ โดยเปลี่ยนมาใช้ระบบรถบรรทุกไร้คนขับแทนรถบรรทุกทั่วไป เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้เร็วยิ่งขึ้น”


กำลังโหลดความคิดเห็น