สำนักข่าวรอยเตอร์สอ้างแหล่งข่าววงใน ระบุหัวเว่ย (Huawei) กำลังเจรจาเพื่อติดตั้งซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการสัญชาติรัสเซียลงในแท็บเล็ตแบรนด์หัวเว่ย แม้จะเป็นแท็บเล็ตเพื่อการทำสำรวจสำมะโนประชากรในแดนหมีขาว แต่ก็ถือว่าเป็นครั้งแรกที่หัวเว่ยจะติดตั้งระบบปฏิบัติการอื่นที่ไม่ใช่แอนดรอยด์ (Android) ในแท็บเล็ตของตัวอง
ระบบปฏิบัติการรัสเซียที่หัวเว่ยอยู่ระหว่างการเจรจามีชื่อว่าออโรรา (Aurora ) เป้าหมายคือการติดตั้งบนแท็บเล็ต 360,000 เครื่องเพื่อทำสำมะโนประชากรสำหรับรัสเซียในช่วงปีหน้า
การเจรจาครั้งนี้ได้รับความสนใจเพราะหัวเว่ยส่งสัญญาณว่ากำลังแสวงหาระบบปฏิบัติการทางเลือก ที่นอกเหนือจากระบบปฏิบัติการ Android ของ Google หลังจากที่รัฐบาลสหรัฐฯขึ้นบัญชีดำผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก ซึ่งมีผลไม่ต่างจากการตัดการเข้าถึงส่วนประกอบและเทคโนโลยีที่สำคัญของสหรัฐอเมริกา เพื่อบีบหัวเว่ยไม่ให้เติบโตจนมีอิทธิพลในตลาดมากเกินไป
แหล่งข่าวของรอยเตอร์ส ย้ำว่าโครงการนี้เป็นโครงการนำร่อง ซึ่งถือเป็นขั้นตอนแรกของการเปิดตัวระบบปฏิบัติการรัสเซียบนอุปกรณ์ Huawei โดยไม่มีการให้รายละเอียดเพิ่มเติม ระบุเพียงว่าหัวเว่ยกำลังเจรจากับกระทรวงคมนาคมของรัสเซีย
ท่ามกลางคำยืนยันของหัวเว่ย ประเทศไทยที่ระบุว่าได้รับผลกระทบน้อยมากจากสงครามการค้าจีน-สหรัฐอเมริกา แต่รอยเตอร์สระบุว่าเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หัวเว่ยออกมาประกาศว่าข้อจำกัดทางการค้าของสหรัฐฯ อาจส่งผลให้รายได้ธุรกิจสมาร์ทโฟนของหัวเว่ยลดลงเหลือประมาณ 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐในปีนี้
สำหรับรัสเซีย รายงานระบุว่าแดนหมีขาวกำลังหารือเกี่ยวกับการประเดิมใช้ Aurora OS บนแท็บเล็ต Huawei 360,000 เครื่องภายในเดือนสิงหาคม 2020 ซึ่งปัจจุบัน Aurora เป็นระบบปฏิบัติการเดียวของรัสเซีย และยังไม่ได้ใช้งานในอุปกรณ์ใดแบบวงกว้าง
ในมุมของหัวเว่ย เจ้าพ่อโทรคมนาคมจีนก็กำลังแข่งกับเวลา เพื่อเร่งพัฒนาระบบปฏิบัติการของตัวเองให้พร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด นั่นคือการถูกปิดกั้นจากแอปพลิเคชันในเครือ Google ซึ่งผู้บริโภคที่เป็นลูกค้าหัวเว่ยสวนใหญ่นิยมใช้งาน
ขณะที่ Aurora OS นั้นเป็นผลงานการพัฒนาของบริษัทโรสเทเลคอม (Rostelecom) ผู้ให้บริการโทรคมนาคมของรัฐในรัสเซียซึ่งเป็นผู้รับเหมาเพียงรายเดียวที่ซื้อแท็บเล็ตจำนวนมากเพื่อเก็บข้อมูลการสำรวจสำมะโนประชากรในรัสเซีย ปัจจุบันรัสเซียมีประชากร 147 ล้านคน ซึ่งการสำรวจนี้จะเริ่มต้นขึ้นในตุลาคมปีหน้า