หลังจากเริ่มให้บริการมาตั้งแต่ต้นปี “เทนเซ็นต์” (Tencent) ได้ฤกษ์เปิดตัวบริการสตรีมมิ่งวิดีโอ “วีทีวี” (WeTV) ในไทยอย่างเป็นทางการ ประกาศจับมือเป็น 3 พันธมิตรไทยคู่กับผู้ผลิตเบอร์ 1 ของจีนจัดเต็มทั้งซีรีส์ไทย-จีนบนแอป ตั้งเป้าขึ้นเป็น 1 ใน 3 บริการที่ฮิตที่สุดในตลาดให้ได้ภายในปีนี้ เล็งผลิตซีรียส์เอง 8 เรื่องต่อปีเพื่อส่งออกคอนเทนต์ไทยไปตลาดมังกร
นายกฤตธี มโนลีหกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทนเซ็นต์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวในงานเปิดตัวบริการ WeTV ถึงเป้าหมายการขึ้นเป็น 1 ใน 3 บริการวิดีโอสตรีมมิ่งที่คนไทยนิยมใช้งานมากที่สุดในปีนี้ โดยอธิบายว่าความมั่นใจของเทนเซ็นต์มาจาก 2 ส่วนคือความเชี่ยวชาญในตลาดความบันเทิง ทั้งข่าวสาร เพลง และเกม และแนวโน้มความนิยมชมวิดีโอสตรีมมิ่งของคนไทยและคนทั่วโลกที่ยังแรงต่อเนื่อง
“เราเห็นเทรนด์การเติบโตของทั้งโลก ที่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตกว่า 25% ทั่วโลกล้วนใช้บริการวิดีโอสตรีมมิ่ง ขณะที่คนไทยที่ใช้งานอินเทอร์เน็ตเกิน 9 ชั่วโมงต่อวัน ก็ใช้เพื่อการชมวิดีโอออนไลน์มากกว่า 35%”
เขี่ยทิ้งเบอร์รอง
เป้าหมายขึ้น Top 3 ของ WeTV แสดงว่าเทนเซ็นต์ต้องการแซงผู้ให้บริการเบอร์รองในตลาดให้สำเร็จภายในสิ้นปีนี้ ปัจจุบัน ไทยมีผู้ให้บริการวิดีโอสตรีมมิ่งหลายราย ได้แก่ เน็ตฟลิกซ์ (Netflix), ไลน์ทีวี (Line TV), ฮูค (HooQ), วิว (VIU) รวมถึงไอฟลิกซ์ (iFlix) และอีกหลายค่ายที่เทเงินล้านทำตลาดจริงจังเพราะเห็นโอกาสทองรออยู่
สิ่งที่จะเป็นอาวุธให้ WeTV ชนะในศึกนี้คือเนื้อหาที่โดนใจผู้ชม จุดยืนที่ WeTV เลือกคือการเป็นแหล่งรวมเนื้อหาจาก “เทนเซ็นต์ เพนกวิน พิคเจอร์ส” ผู้ผลิตวิดีโออันดับ 1 ของจีนที่อยู่ในเครือเทนเซ็นต์เอง และวิดีโอจากพันธมิตรไทยคือช่อง One31, GDH และ Insight Technology ซึ่งเทนเซ็นต์ระบุว่าจะนำวิดีโอไทยไปบุกตลาดจีนด้วย
หลังจากทดลองให้บริการตั้งแต่ต้นปี เทนเซ็นต์ระบุว่า WeTV ได้รับการตอบรับในระดับดีมาก สถิติการใช้เวลาบนแอปเฉลี่ย 84 นาทีต่อวันต่อคน ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง 85% อีก 15% เป็นชาย ผู้ใช้ส่วนใหญ่มีอายุ 18-34 ปี วิดีโอที่นิยมชมมากที่สุด 3 อันดับแรกคือซีรีส์รักโรแมนติก คอมมาดี้ รองลงมาเป็นซีรีส์ดราม่าย้อนยุค และซีรีส์แอคชัน แฟนตาซี
จัดเองซีรีส์ไทย 8 เรื่องต่อปี
เป้าหมายในอนาคตคือการเพิ่มคำบรรยายไทยให้วิดีโอ และเพิ่มปริมาณวิดีโอไทย ประเด็นนี้ผู้บริหารระบุว่าจะร่วมมือผลิตเนื้อหาในประเทศ เพื่อส่งออกไปที่ประเทศจีน เป้าหมายในการผลิตเนื้อหาไทยคือ 2 เรื่องต่อไตรมาส หรือประมาณ 8 เรื่องต่อปี
สิ่งที่ผู้บริหารเทนเซ็นต์จะใช้กระตุ้น WeTV คือการจัดงานมีตติ้งระหว่างศิลปินกับแฟนคลับ ซึ่งมีการการันตีว่าจะจัดกิจกรรมตลอดปี
อย่างไรก็ตาม ความท้าทายของ WeTV คือการต่อสู้กับคู่แข่งรายอื่นที่พร้อมบุกหนักในตลาดวิดีโอสตรีมมิ่งไทยเช่นกัน โดยช่อง ONE 31 หนึ่งในพันธมิตรหลักของ WeTV ก็เคยประกาศเซ็นสัญญาเป็นพันธมิตรทางธุรกิจร่วมกับ LINE TV เมื่อต้นปี 2018 เพื่อผลิตออริจินัลคอนเทนต์และเป็นแพลตฟอร์มรีรันแบบรายเดียวหรือ Exclusive Rerun ความร่วมมือครั้งนั้นถูกรายงานว่าจะเสริมแกร่งของ ONE 31 ให้ยิ่งใหญ่ขึ้น จากที่ใหญ่อยู่แล้วให้ใหญ่ขึ้นอีกด้วยสถิติจำนวนการรับชมคอนเทนต์ของ ONE 31 บน LINE TV ที่สูงมากระดับเกิน 1,500 ล้านครั้ง
ความน่าสนใจคือลูกเล่นในการดึงดูดใจให้ชาวไทยเข้ามาชมวิดีโอสตรีมมิ่งบนแอปพลิเคชัน คือการนำเสนอออริจินัลคอนเทนต์ประเภทเบื้องหลังที่ไม่มีการเซ็นเซอร์หรือ Uncensored กรณีของ ONE 31 ที่ร่วมมือกับ LINE TV พบว่าเนื้อหาเบอร์ 1 บนแพลตฟอร์มที่มียอดผู้ชมสูงสุดคือซีรีส์ Uncensored ลักษณะนี้.