เคาะราคาสบายกระเป๋า 7,490 บาทสำหรับ Nokia 5.1 plus สมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดของโนเกีย ที่หวังตอบโจทย์คนไทยชอบเล่นเกมบนมือถือ ซึ่งมีไม่ต่ำกว่า 3 ล้านคนต่อเดือน มั่นใจสานต่อภาพ “โนเกียเอ็นเกจ” (N-Gage) ที่เคยโดนใจเกมเมอร์ทั่วไทย ยืนยันเป้าหมายเดิม คือ ขึ้นท็อป 3 แบรนด์สมาร์ทโฟนทั้งตลาดไทย และตลาดโลกภายใน 2-3 ปี
ธนเดช ช่วงแก้ววิเศษ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เอชเอ็มดี โกลบอล ผู้จัดจำหน่ายสมาร์ทโฟนแบรนด์โนเกีย กล่าวว่า การเปิดตัว Nokia 5.1 plus สะท้อนว่า โนเกีย มองตลาดมือถือสำหรับเล่นเกมเป็นอีกเซกเมนต์ที่น่าสนใจ เนื่องจากผู้ใช้กลุ่มนี้มีความต้องการใช้งานมากกว่าการโทร.ออก หรือรับสาย เบื้องต้น ยังไม่สามารถเปิดเผยตัวเลขคาดการณ์ยอดขายในเมืองไทย
“โนเกีย เป็นเจ้าแรกที่เป็นมือถือเกมมิ่งโดยเฉพาะ ด้วย Nokia N-Gage ปี 2003 และในปี 2007 เราเปลี่ยนโลกอีกครั้งด้วยการเปิดตัวแพลตฟอร์มเอ็นเกจให้คนดาวน์โหลดได้เอง” ธนเดช กล่าว “ที่เราเปิดตัว Nokia 5.1 plus ช่วงนี้ เพราะเราเห็นกระแสและเทรนด์การใช้งาน ตลาดมือถือเกมยังไม่มีผู้เล่นมากนัก และไตรมาส 3 ก็เป็นช่วงเวลาที่เหมาะ เพราะหลายคนมองหาซื้อเครื่องใหม่เพื่อใช้งานปลายปี ขณะเดียวกัน คนไทยก็ชอบเล่นเกมบนมือถือ เราจึงมองว่า ถ้านำเสนอว่า Nokia 5.1 plus สามารถเล่นเกมได้ดี ก็จะสามารถทำงานตอบโจทย์อื่นได้ดีเช่นกันในราคาที่ทุกคนซื้อได้”
ธนเดช ระบุว่า จุดขายหลักที่โนเกีย เตรียมไว้สำหรับ Nokia 5.1 plus คือ ความคุ้มค่าราคา ขณะเดียวกัน ความเป็น “แอนดรอยด์วัน” (Android One) จะทำให้ Nokia 5.1 plus ได้รับอัปเดตตลอด 3 ปี ทำให้เมื่อเวลาผ่านไป Nokia 5.1 plus จะมีคุณสมบัติดีขึ้นทุกเดือน
“โนเกีย เป็นแบรนด์ที่มีเครื่องเป็น Android One มากสุดในตลาด ปีนี้เราเปิดตัว 7 รุ่น เราจะไม่หยุดเท่านี้ในช่วง 2 เดือนที่เหลือของปี”
ผู้บริหารโนเกียไม่เปิดเผยเป้าหมายรายได้ตลอดปีนี้ โดยยืนยันเป้าหมายเดิมว่าต้องการขึ้นเป็นท็อป 3 แบรนด์สมาร์ทโฟนทั้งตลาดไทย และตลาดโลกใน 2-3 ปี โดยขณะนี้โนเกีย ใช้เวลา 20 กว่าเดือนก็สามารถเป็นท็อปออฟมายด์แบรนด์อันดับ 5 ในตลาดสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ในประเทศไทย ซึ่งในแง่ยอดขาย (ข้อมูลมกราคม 2018) พบว่า HMD สามารถจำหน่ายสมาร์ทโฟนแบรนด์โนเกีย ไปแล้ว 70 ล้านเครื่อง ตลาดหลักอยู่ที่หลายภูมิภาคทั้งจีน อินเดีย เอเชียแปซิฟิก และยุโรป ยอดขายคิดเป็นมูลค่า 2,170 ล้านเหรียญสหรัฐ
บุลากร หุตะเจริญ ผู้จัดการการตลาด บริษัท เกมลอฟท์ จำกัด ให้ข้อมูลว่า วันนี้ตลาดเกมมือถือของประเทศไทยแบ่งออกเป็นจาวาเกม (Java) ที่ติดตั้งในฟีเจอร์โฟน และเอชดีเกม (HD) ซึ่งมีรายละเอียดกราฟิกมากสำหรับเล่นบนสมาร์ทโฟนพลังสูง สัดส่วนของตลาดไทย คือ แคชชวลเกม มีขนาดใหญ่กว่ากลุ่มฮาร์ดคอร์เกม บนจำนวนผู้เล่นชาวไทยที่มากกว่า 3 ล้านคนต่อเดือน
“ตลาดแคชชวลเกมไทยมีขนาดใหญ่กว่า คือ ราว 65-70% เฉพาะในส่วนของเกมลอฟท์บริษัทเดียว คนไทยเล่นเกมบนมือถือมากกว่า 3 ล้านคนต่อเดือน ตัวเลขนี้เพิ่มขึ้น 10% ต่อเดือน สถิตินี้ คือ ทุกเกมรวมกัน”
สถิตินี้ถือเป็นโอกาสที่โนเกีย มองเห็นในตลาดมือถือเกม สิ่งที่โนเกียทำ คือ การจับมือกับเกมลอฟท์ทำการตลาดบนแฟนเพจเฟซบุ๊ก เพื่อจัดแข่งขันเกมชิงรางวัล โดยเกมลอฟท์เป็นเบอร์ 1 ในตลาดเกมมือถือที่มีผู้ดาวน์โหลดมากที่สุดทั่วโลก จุดนี้ผู้บริหารเกมลอฟท์ไม่เปิดเผยตัวเลขมาร์จิน หรือกำไรต่อปี แต่ระบุว่ามีอัตราเติบโตราว 17% ในปีนี้ ถือว่าระดับเดียวกับอัตราเติบโตเฉลี่ย 20% ต่อปี
สำหรับ Nokia 5.1 plus มีให้เลือก 2 สี คือ ดำเงา และน้ำเงินเงา ราคา 7,490 บาท พร้อมขายสิ้นเดือนตุลาคมนี้