แม้รายรับไตรมาสล่าสุดของซัมซุงอิเลคทรอนิคส์ (Samsung Electronics) จะอยู่ในเกณฑ์ และเป็นไปตามเป้าหมาย เพราะสามารถทำกำไรได้เพิ่มขึ้น แต่เจ้าพ่อกิมจิยอมรับว่า สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่อย่างแกแล็กซี่เอส 9 (Galaxy S9) กลับทำยอดขายไม่ร้อนแรง ส่งผลให้รายได้ลดลงเล็กน้อย
ไตรมาส 2 ปี 2018 บริษัทกิมจิ Samsung Electronics ระบุว่า สามารถทำกำไรได้ 14.87 ล้านล้านวอน จากยอดขาย 58.4 ล้านล้านวอน สัดส่วนกำไรนั้นเพิ่มขึ้น แต่รายได้ลดลงราว 4% ต่อปี
Samsung ระบุว่า ยอดขายสมาร์ทโฟน และจอแสดงผลที่อ่อนตัวลง ส่งผลให้รายรับรวมของบริษัทลดลงตามไปด้วย จุดนี้นักวิเคราะห์จึงสรุปว่า สมาร์ทโฟนรุ่นสำคัญที่สุดของ Samsung ในปีนี้อย่าง Galaxy S9 ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อปลายไตรมาสก่อนหน้านั้น ไม่สามารถสร้างอิทธิพล และทำยอดขายได้มากเท่าที่ควร จุดนี้แม้ Samsung จะย้ำว่า ธุรกิจสมาร์ทโฟนปีนี้เติบโตช้า แต่นักวิเคราะห์ประเมินแล้วว่า Galaxy S9 อาจเป็นโทรศัพท์เรือธงตระกูล Galaxy S ที่ขายได้น้อยที่สุด นับตั้งแต่แจ้งเกิด Galaxy S3 ช่วงปี 2012
สำหรับธุรกิจจอแสดงผล เจ้าพ่อ Samsung ระบุว่า ไตรมาสที่ผ่านมานั้นไม่สดใสเพราะความต้องการที่ลดลง โดยเฉพาะหน้าจอ OLED แบบยืดหยุ่นได้ ซึ่งใช้ในผลิตภัณฑ์ เช่น ไอโฟนเท็น (iPhone X) นอกจากนี้ การจัดส่งหน้าจอ LCD ยังลดลงทั้งในส่วนมูลค่า และปริมาณ
อย่างไรก็ตาม Samsung คาดว่า ความต้องการ OLED จะฟื้นตัวขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ จุดนี้ถูกนำมาโยงกับข่าวแอปเปิลเตรียมแผนจะเปิดตัว 2 สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่ใช้จอ OLED สะท้อนว่า Samsung หวังแบบไม่อายใครว่าจะทำกำไรได้มากขึ้นเมื่อ iPhone รุ่นใหม่เปิดตัว
เบื้องต้น Samsung ชี้ว่า ยอดขายสินค้ากลุ่มทีวีนั้นเติบโต ถือเป็นอานิสงส์จากมหกรรมฟุตบอลโลก หรือ World Cup เช่นเดียวกับธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์ หรือธุรกิจชิป ที่ยังเป็นแหล่งทำเงินหลักให้ Samsung คาดว่า ความต้องการหน่วยความจำแฟลช NAND และชิป DRAM จะยังไม่หดหายไป ขณะที่ธุรกิจเซ็นเซอร์ภาพมีการเติบโตก้าวกระโดด เนื่องจากบริษัทสมาร์ทโฟนจีนหันมาใช้ชิปในสมาร์ทโฟนระบบกล้องคู่มากขึ้น