“เอชพี” ปรับแนวคิดในการนำเสนอผลิตภัณฑ์แก่กลุ่มลูกค้าองค์กรธุรกิจขนาดกลางและย่อย ที่มีจำนวนมากในประเทศไทย ด้วยการรวมกลุ่มผลิตภัณฑ์มานำเสนอเป็นโซลูชัน สำหรับแต่ละประเภทธุรกิจ พร้อมนำระบบเช่าใช้ที่เริ่มให้บริการแก่องค์กรธุรกิจขนาดใหญ่มาเป็นทางเลือกแก่ SMEs
นายปวิณ วรพฤกษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอชพี อิงค์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงตลาดรวมองค์กรธุรกิจขนาดกลางและย่อยในประเทศไทยว่า ในประเทศไทยธุรกิจ SMEs สร้างสัดส่วนรายได้ทางธุรกิจให้แก่ GDP ประเทศกว่า 42.8% และทางภาครัฐก็มีการเร่งทำโครงการสนับสนุนสตาร์ทอัปเกิดขึ้น ทำให้เห็นถึงโอกาสที่จะเติบโตในธุรกิจกลุ่มนี้
“การที่รัฐบาลมีการผลักดันสตาร์ทอัปให้เพิ่มมากขึ้น ด้วยการตั้งเป้าหมายที่จะฝึกผู้ประกอบการ 1.5 หมื่นราย ให้ก้าวเข้าสู่การนำดิจิทัลมาใช้ในการทำธุรกิจ โดยหวังว่าจะมีผู้ที่นำไปปฏิบัติใช้จริงกว่า 1.5 พันราย และก่อให้เกิด 300 ธุรกิจสตาร์อัปที่พร้อมเข้าสู่ตลาด”
จากเหตุนี้ทำให้ เอชพีมีการปรับแนวคิดในการเจาะกลุ่มลูกค้า SMEs ที่จะนำผลิตภัณฑ์มารวมกลุ่ม ให้กลายเป็นเครื่องมือในการผลักดันให้ธุรกิจมีการเติบโตเพิ่มมากขึ้น โดยไม่ได้เน้นว่า ทางเอชพีมีสินค้าอะไร แต่จะใช้การจัดแสดงให้เห็นถึงการนำไปใช้งานจริง
ขณะเดียวกัน ในช่วงแรกจะเน้นให้ความสำคัญกับภาคธุรกิจโรงงานผลิต สุขภาพ การเงิน และสตาร์ทอัป ที่เป็นภาคส่วนหลักของกลุ่ม SMEs ก่อนที่จะขยายไปยังกลุ่มธุรกิจอื่นที่จะนำผลิตภัณฑ์เข้าไปช่วยอย่างโรงแรม ร้านอาหาร ธุรกิจรีเทล และภาคการศึกษา
สำหรับการนำเสนอไอทีโซลูชันของเอชพี จะเน้นการเดินสายโรดโชว์ ร่วมกับการเข้าร่วมงานสัมมนากับพันธมิตรทางธุรกิจในแต่ละกลุ่ม เพื่อนำโซลูชันไปจัดแสดงให้เห็นภาพถึงการใช้งานจริง รวมถึงการนำเสนอข้อมูลผ่านโซเชียลมีเดียต่างๆ โดยเฉพาะกลุ่มเจ้าของธุรกิจที่มีการศึกษา เพิ่มเติมมากขึ้น
“หลังจากที่ปรับรูปแบบการนำเสนอมาเป็นโซลูชันแล้ว ช่วยให้ลูกค้าเห็นภาพชัดเจนขึ้นในการนำผลิตภัณฑ์ไอทีอย่างโน้ตบุ๊ก เครื่องพิมพ์ต่างๆ ไปใช้งานให้เกิดประโยชน์สูงสุด และในขณะเดียวกัน ก็ช่วยลดค่าใช้จ่ายจากการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมด้วย”
ทั้งนี้ ถ้ามองในแง่ของการลดค่าใช้จ่าย การเข้าไปบริหารจัดการเรื่องการพิมพ์ในองค์กรธุรกิจจะเห็นได้ชัดเจนที่สุด ตั้งแต่การนำระบบบริหารจัดการเข้ามาควบคุมการใช้งานของพนักงาน การนำระบบจัดเก็บข้อมูลดิจิทัลเข้ามาใช้งานแทนเพื่อลดการใช้กระดาษ ซึ่งถ้ามีการลงทุนระบบแบบครบวงจรจะสามารถลดต้นทุนได้สูงถึง 70%
ล่าสุด เอชพีได้มีการนำเสนอโน้ตบุ๊ก ที่จะเข้ามาจับลูกค้าในกลุ่ม SMEs ในกลุ่ม HP Elite ที่เน้นเรื่องความปลอดภัย และประสิทธิภาพในการใช้งาน HP ZBook ที่เน้นเรื่องดีไซน์ช่วยเสริมภาพลักษณ์ ส่วนธุรกิจเครื่องพิมพ์จะเน้นนำเสนอ HP Ink Tank สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก และ HP PageWide รองรับการพิมพ์ขนาด A3 สำหรับธุรกิจขนาดกลาง ครอบคลุมระดับราคา 36,990-121,900 บาท
