หลังจากจากปิดกั้นไม่ให้คนจีนใช้งานมานานตั้งแต่ปี 2009 ล่าสุด เฟซบุ๊ก (Facebook) กำลังจะได้รับอนุญาตให้เปิดสำนักงานในประเทศจีน ใบอนุญาตที่เฟซบุ๊กกำลังจะได้รับถือเป็นก้าวสำคัญเพราะเฟซบุ๊กยังคงถูกบล็อกจนประชาชนจีนส่วนใหญ่ยังเข้าไม่ถึงในขณะนี้ คาดว่าสำนักงานเฟซบุ๊กจะเปิดตัวในหางโจว เมืองที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของอาลีบาบา (Alibaba)
รายงานเบื้องต้นชี้ว่า สำนักงานเฟซบุ๊กในจีนจะเป็นบริษัทย่อยที่ใช้ชื่อว่า เฟซบุ๊กเทคโนโลยีหางโจว หรือ Facebook Technology (Hangzhou) มูลค่าสำนักงานเชื่อว่าจะไม่ต่ำกว่า 30 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยขอบเขตการดำเนินธุรกิจของสำนักงานนี้ คือ การเป็นหน่วยเพาะบ่มสตาร์ทอัป หรือ startup incubator ซึ่งเฟซบุ๊กจะลงทุน และให้คำแนะนำแก่ธุรกิจในท้องถิ่น
แม้ตัวสำนักงานมีกำหนดตั้งในใจกลางเมืองหางโจว ซึ่งเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของอาลีบาบา แต่รอยเตอร์ส (Reuters) ระบุว่า สำนักงานนี้เป็นเจ้าของโดยบริษัทเฟซบุ๊กฮ่องกงจำกัด (Facebook Hong Kong Limited) โดยที่ผ่านมา เฟซบุ๊กมีสำนักงานขายในฮ่องกง ซึ่งไม่อยู่ภายใต้กฎหมาย และกระบวนการเซ็นเซอร์ของรัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่
ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นหลังจากสัปดาห์ที่แล้ว สำนักข่าวรีโค้ด (Recode) สัมภาษณ์ประธานบริหารเฟซบุ๊กอย่างมาร์ก ซัคเกอร์เบิร์ก (Mark Zuckerberg) ถึงนโยบายเฟซบุ๊กในประเทศจีน เจ้าพ่อเฟซบุ๊กย้ำว่า แม้เฟซบุ๊กจะถูกบล็อก แต่เฟซบุ๊กยังสนใจที่จะทำธุรกิจในจีนอยู่เสมอ เนื่องจากเป็นเรื่องยากที่เฟซบุ๊กจะมีภารกิจพาคนทั้งโลกให้ใกล้ชิดกัน แต่กลับปล่อยทิ้งประเทศที่ใหญ่ที่สุดไว้
นี่เป็นครั้งแรกที่เฟซบุ๊กได้มีชื่อบริษัทอย่างเป็นทางการในจีนหลังจากที่ถูกปิดกั้นมานาน 9 ปี จุดนี้เฟซบุ๊กระบุในแถลงการณ์ว่าบริษัทมีความสนใจจัดตั้งศูนย์นวัตกรรมเพื่อสนับสนุนนักพัฒนา นักนวัตกรรม และสมาร์ทอัปจีน โดยย้ำว่าเฟซบุ๊กมีโครงการหนุนสตาร์ทอัปลักษณะนี้แล้วที่ฝรั่งเศส, บราซิล, อินเดีย และเกาหลีใต้
อย่างไรก็ตาม จีนถือเป็นประเทศเดียวในรายชื่อประเทศที่ตู้เฟซบุ๊กหวังเข้าไปบ่มเพาะสตาร์ทอัป แต่กลับถูกแบนโดนรัฐบาล การแบนทำให้ประชาชนจีนเข้าถึงบริการทางเลือกสัญชาติจีน เช่น วีแชต (WeChat), คิวคิว (QQ) และบริการอื่น ส่งเสริมให้สภาพเศรษฐกิจดอทคอมจีนแข็งแกร่งถึงทุกวันนี้
ตลอด 9 ปีที่ถูกแบน เพราะปัญหาความเคลื่อนไหวทางการเมือง มาร์ก ซัคเกอร์เบิร์ก ไม่ได้นิ่งนอนใจเพราะก่อนหน้านี้ เจ้าพ่อเฟซบุ๊กพยายามเปิดสำนักงานในกรุงปักกิ่ง เมื่อปี 2015 แม้จะได้รับใบอนุญาตแล้ว แต่ในท้ายที่สุดก็ไม่ประสบความสำเร็จ ต่อมา เจ้าพ่อเฟซบุ๊กเผยเพร่รูปตัวเองจ็อกกิ้งวิ่งเหยาะผ่านจัตุรัสเทียนอันเหมินในปี 2016 ซึ่งหลายคนตีความว่าเป็นสัญลักษณ์ที่มาร์กตั้งใจสะท้อนความสัมพันธ์ที่อบอุ่นขึ้นระหว่างเฟซบุ๊ก และรัฐบาลจีน
ปีที่แล้ว เฟซบุ๊กพยายามเข้าสู่ตลาดจีนด้วยการเปิดตัวแอปพลิเคชันชื่อ “คัลเลอร์ฟูลบอลลูนส์” (Colorful Balloons) ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้ใช้แบ่งปันรูปถ่ายกับเพื่อน แอปพลิเคชันนี้ดำเนินงานภายใต้ชื่อ บริษัท Youge Internet Technology เบื้องต้น พบว่ามีการเชื่อมต่อกับบริษัทโอคูลัส (Oculus) บริษัทเทคโนโลยีเสมือน VR ในเครือเฟซบุ๊กที่มีสำนักงานอยู่ในเซี่ยงไฮ้เช่นกัน
สำหรับเฟซบุ๊ก ย้อนไปเมื่อปี 2007 เฟซบุ๊กยื่นเรื่องขอจดโดเมน .cn เพื่อเข้าสู่ตลาดอินเทอร์เน็ตเบอร์สองของโลกอย่างจีนในเวลานั้น รายงานพบว่า เฟซบุ๊กมีสมาชิกซึ่งเป็นชาวจีน แต่ใช้ภาษาอังกฤษได้ถึง 1 แสนคนในช่วงปีดังกล่าว สมาชิกชาวจีนส่วนใหญ่ของเฟซบุ๊กเป็นกลุ่มคณาจารย์ และนักศึกษาของมหาวิทยาลัยชั้นนำของจีน เช่น มหาวิทยาลัยปักกิ่ง และมหาวิทยาลัยแห่งเมืองฟูดาน.
