กสทช. มีมติอนุมัติให้ปรับลดค่าเช่า MUX ของสถานีโทรทัศน์กองทัพบก Thai PBS และกรมประชาสัมพันธ์ ลงจากเดิม 22-26% พร้อมทั้งมีมติอนุมัติให้คืนเลขหมายโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบไม่เต็มกลุ่มได้ เพื่อบริหารจัดการทรัพยากรโทรคมนาคมอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า วันนี้ (13 มิ.ย. 2561) ที่ประชุม กสทช. มีมติเห็นชอบให้ปรับลดอัตราค่าเช่าใช้โครงข่ายโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิทัล (MUX)
ของสถานีโทรทัศน์กองทัพบก องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (Thai PBS) และกรมประชาสัมพันธ์ จากอัตราเดิมที่ใช้อยู่ ตามมติที่ประชุมอนุกรรมการกลั่นกรองงาน กสทช. ด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ตามข้อเสนอของผู้ให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิทัล โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. 2561 ดังนี้
1. สถานีโทรทัศน์กองทัพบกอัตราค่าเช่าใช้โครงข่ายโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิทัล ช่องรายการประเภทความคมชัดปกติ (SD) 3.5 ล้านบาทต่อเดือน และช่องรายการประเภทความคมชัดสูง (HD) 10.5 ล้านบาทต่อเดือน โดยเป็นการปรับลดจากอัตราเดิมที่ อัตราค่าเช่าฯ ช่องรายการประเภทความคมชัดปกติ (SD) อยู่ที่ 4.72 ล้านบาทต่อเดือน และช่องรายการประเภทความคมชัดสูง (HD) 14.16 ล้านบาทต่อเดือน เท่ากับปรับลดลง 26%
2. องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (Thai PBS) อัตราค่าเช่าใช้โครงข่ายโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิทัล ช่องรายการประเภทความคมชัดปกติ (SD) 3.6 ล้านบาทต่อเดือน และช่องรายการประเภทความคมชัดสูง (HD) 10.8 ล้านบาทต่อเดือนโดยเป็นการปรับลดจากอัตราเดิมที่อัตราค่าเช่าฯ ช่องรายการประเภทความคมชัดปกติ (SD) อยู่ที่ 4.6 ล้านบาทต่อเดือน และช่องรายการประเภทความคมชัดสูง (HD) 13.8 ล้านบาทต่อเดือน เท่ากับปรับลดลง 22%
3. กรมประชาสัมพันธ์ อัตราค่าเช่าใช้โครงข่ายโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิทัล ช่องรายการประเภทความคมชัดปกติ (SD) 3.6 ล้านบาทต่อเดือน และช่องรายการประเภทความคมชัดสูง (HD) 10.8 ล้านบาทต่อเดือน โดยเป็นการปรับลดจากอัตราเดิมที่อัตราค่าเช่าฯ ช่องรายการประเภทความคมชัดปกติ (SD) อยู่ที่ 4.65 ล้านบาทต่อเดือน และช่องรายการประเภทความคมชัดสูง (HD) 13.95 ล้านบาทต่อเดือน เท่ากับปรับลดลง 23%
4. อัตราค่าเช่าใช้โครงข่ายโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิทัลตามข้อ 1-3 ให้ใช้บังคับเป็นระยะเวลา 2 ปี โดยให้สอดคล้องกับแนวทางการดำเนินงานด้านการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการเช่าใช้โครงข่ายโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิทัล ตามคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 9/2561 และให้สำนักงาน กสทช. ดำเนินการทบทวนอัตราเช่าใช้บริการโครงข่ายฯ ให้เป็นไปอย่างสมเหตุสมผล และเป็นธรรมตามข้อเท็จจริงที่เปลี่ยนแปลงไป หรือตามที่คณะกรรมการกำหนด
สำหรับกรณีของบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) อยู่ในขั้นตอนของการนำส่งข้อมูล ซึ่งหากบริษัทฯ ไม่นำส่งข้อมูลภายในวันที่ 15 มิ.ย. จะถือว่าสละสิทธิในการเสนออัตราค่าเช่าโครงข่ายใหม่ โดย กสทช. จะพิจารณากำหนดอัตราค่าเช่าโครงข่ายให้เป็นไปตามต้นทุน และสัดส่วนของโครงข่ายอื่นตามที่บอร์ดได้ประกาศไปแล้ว ทั้งนี้ กสทช. จะพิจารณาให้เสร็จภายในสิ้นเดือนนี้ โดย กสทช. จะมีการประชุมครั้งต่อไปในวันที่ 27 มิ.ย. นี้
***สหภาพ อสมท พบ กสทช. ยันทีวีควรเคลียร์หนี้ก่อนย้ายมัค
นายสุวิทย์ มิ่งมล ประธานสหภาพแรงงาน บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เข้ายื่นหนังสือกับนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เพื่อขอให้ กสทช. เพิ่ม ข้อกำหนดที่รัดกุมกรณีการชำระค่าบริการโครงข่ายดิจิทัลทีวี
สหภาพฯ เห็นว่า กรรมการ กสทช. ควรมีกำหนดหรือหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนกรณียุติการให้บริการโครงข่ายเพื่อประโยชน์ของทุกสถานี ทั้งนี้ กสทช. ควรให้ความชัดเจนว่า หากว่าสถานีโทรทัศน์ต้องการย้ายจากผู้ให้บริการโครงข่ายเดิม ไปยังผู้ให้บริการโครงข่ายใหม่ แต่ยังมีค่าบริการ หรือนี่ค้างชำระอยู่ ควรต้องมีการชำระหนี้ หรือจะมีแนวทางในการชำระเงินก่อนจะย้ายไปยังผู้ให้บริการโครงข่ายใหม่ ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้รับเสียประโยชน์
ประธานสหภาพฯ อสมท มองว่า ผู้ให้บริการมัคล้วนเป็นหน่วยงานของรัฐ การค้างชำระค่าบริการโครงข่ายเป็นสิ่งที่สร้างความเสียหายให้รัฐ ดังนั้น ควรมีกฎที่ชัดเจน หากจะยุติการให้บริการเพื่อเป็นบรรทัดฐานที่ชัดเจน และไม่ละเมิดสิทธิของประชาชน ขณะเดียวกัน ต้องมีกระบวนการเคลียร์หนี้ที่ชัดเจนก่อนจะย้ายมัค ซึ่งเลขาธิการ กสทช. ได้ตอบรับแนวทางของ อสมท ว่าเป็นแนวทางที่ดี
***รับคืนเลขหมายโทรศัพท์มือถือ
นายฐากร กล่าวว่า นอกจากนี้ ที่ประชุม กสทช. ได้มีมติเห็นชอบแนวทางการพิจารณารับคืนเลขหมายโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบไม่เต็มกลุ่ม กรณีเป็นเลขหมายที่มีผู้ใช้บริการเพื่อบริหารจัดการทรัพยากรโทรคมนาคมอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ตามความเห็นของคณะอนุกรรมการเลขหมายโทรคมนาคม
ทั้งนี้ ให้การรับคืนเลขหมายฯ จะมีผลสมบูรณ์เมื่อ กสทช. มีมติรับคืน และสำนักงาน กสทช. ได้รับหนังสือยืนยันยอมรับเงื่อนไขจากผู้ที่ส่งคืนเลขหมายแล้ว พร้อมกันนี้ ที่ประชุมยังได้มีมติให้เร่งรัดให้ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทุกราย และบริษัท ศูนย์ให้บริการคงสิทธิเลขหมายโทรศัพท์ จำกัด ให้จัดทำระบบเพื่อรองรับการส่งคืนกลุ่มเลขหมายที่แบบไม่เต็มกลุ่ม เพื่อรองรับกรณีที่มีผู้ใช้บริการ ตามแนวทางและวิธีการที่สำนักงาน กสทช. เสนอ โดยจะต้องเป็นระบบบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ และสามารถบริหารจัดการผลกระทบต่อผู้ใช้บริการได้ ให้แล้วเสร็จภายในไม่เกิน 4 เดือนนับตั้งแต่วันที่ กสทช. มีมติ