ยูทูป (YouTube) ประกาศสถิติลบทิ้งวิดีโอไตรมาสสุดท้ายปลายปี 2017 ระบุโละทิ้งวิดีโอไม่เหมาะสมมากกว่า 8.3 ล้านรายการ ทั้งหมดละเมิดข้อกำหนดของบริษัท โดยมากกว่าครึ่งหนึ่งเป็นวิดีโอล่อลวงหรือสื่อลามก ขณะที่วิดีโออื่นมีเนื้อหาเกี่ยวกับความรุนแรง หรือแนวคิดสุดโต่ง
การเปิดเผยสถิติลบทิ้งวิดีโอรายไตรมาสนี้ถือเป็นครั้งในประวัติศาสตร์ YouTube ครั้งนี้ YouTube ระบุว่าวิดีโอ 6.7 ล้านชิ้น ที่ละเมิดกฎ YouTube ถูกตรวจพบโดยระบบอัตโนมัติ นอกนั้น เป็นวิดีโอที่พบจากการแจ้งเตือน และการร้องเรียนจากกลุ่มผู้ใช้ องค์กรเอ็นจีโอ และหน่วยงานรัฐบาล
สถิตินี้สะท้อนให้เห็นถึงขนาดงานช้างที่ YouTube ต้องเผชิญในการลบวิดีโอที่ละเมิดข้อกำหนดของบริษัท จุดนี้ YouTube ให้รายละเอียดว่า การลบวิดีโอ 8.3 ล้านชิ้นนี้ เกิดขึ้นระหว่างเดือนตุลาคมถึงธันวาคม 2017 ที่ผ่านมา มากกว่าครึ่งหนึ่งของวิดีโอที่เป็นปัญหา คือ วิดีโอล่อลวง และมีเนื้อหาล่อแหลมทางเพศ
เมื่อแยกประเภทวิดีโอที่ถูก YouTube ลบทิ้ง จะพบว่า ราว 30.01% เป็นวิดีโอที่ล่อแหลมเรื่องเพศ นอกนั้น เป็นวิดีโอล่อลวง หรือทำให้เข้าใจผิด (26.4%) รองลงมา เป็นวิดีโอที่เสี่ยงนำไปสู่ความเกลียดชังหรือไม่เหมาะสม (15.6%) วิดีโอที่มีเนื้อหารุนแรง หรือน่ารังเกียจ (13.5%) วิดีโอที่มีการกระทำที่เป็นอันตราย (7.6%) วิดีโอที่เกี่ยวกับการล่วงละเมิดเด็ก (5.2%) และวิดีโอส่งเสริมการก่อการร้าย (1.6%)
YouTube เสริมว่า ระบบอัตโนมัติของ YouTube นั้น เป็นกำลังสำคัญในการช่วยให้ YouTube สามารถดำเนินการจัดระเบียบวิดีโอได้รวดเร็วมากขึ้น โดยเฉพาะสถิติการตรวจจับวิดีโอไม่เหมาะสมกว่า 6.7 ล้านชิ้น ซึ่งมีไม่ถึง 2 ล้านชิ้นที่ถูกระบุโดยมนุษย์
ที่สำคัญ YouTube เพิ่มเติมว่า การใช้ระบบอัตโนมัติยังทำให้บริษัทลบวิดีโอได้รวดเร็ว เห็นได้ชัดจากวิดีโอมากกว่าครึ่งหนึ่งถูกลบออกตั้งแต่มียอดชมน้อยกว่า 10 ครั้ง
การเปิดเผยข้อมูลนี้ถูกมองว่า เป็นเพราะ YouTube อยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างมาก ที่บีบให้บริษัทต้องดำเนินการติดตามเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม ที่ผ่านมา YouTube ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นแพลตฟอร์มให้บริการวิดีโอที่ทำให้วิดีโอส่งเสริมการก่อการร้าย การล่วงละเมิดเด็ก และวิดีโอที่ไม่เหมาะสมมีพื้นที่เผยแพร่ โดยเฉพาะวิดีโอบน YouTube Kids ซึ่งบางชิ้นมีแนวคิดแปลกประหลาดไม่เหมาะให้เยาวชนชม