xs
xsm
sm
md
lg

จีเอเบิล แนะหา “Data Scientist” ก่อนปรับองค์กรสู่ดิจิทัล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


จีเอเบิล เผยแนวคิดปรับองค์กรสู่ดิจิทัล “Data Scientist” เป็นเรื่องสำคัญยิ่งในยุค “Big Data” การวิเคราะห์ จัดการข้อมูลได้อย่างถูกต้อง แม่นยำ ช่วยเพิ่มความได้เปรียบด้านการแข่งขันได้เป็นอย่างดี แนะเสริมศักยภาพบุคลากรที่มีอยู่เดิมให้มีความสามารถเชิงดิจิทัลช่วยพัฒนาองค์กรได้เป็นอย่างดี

ศิษฏพงศ์ เศรษฐภัทร Head of Big Data and Analytics กลุ่มบริษัทจีเอเบิล กล่าวว่า การปรับเปลี่ยนองค์กรสู่ ดิจิทัล ทรานฟอร์เมชั่น (Digital Transformation) นอกจากการปรับเปลี่ยนแนวทางวิธีคิดในการทำงานแล้ว การเฟ้นหาบุคลากรทางด้านดิจิทัล เพื่อเสริมทัพขับเคลื่อนองค์กรให้มีประสิทธิภาพ นับเป็นความท้าทายของฝ่ายทรัพยากรบุคคล (HR) อย่างมาก แต่หลายองค์กรกลับมองว่าการหาบุคลากรดิจิทัล ต้องสรรหาบุคลากรใหม่เข้ามาเท่านั้น ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วบุคลากรดิจิทัลที่เหมาะสมที่สุด โดยเฉพาะในหน้าที่สำคัญอย่างนักวิทยาศาสตร์ข้อมูล หรือ Data Scientist ควรเป็นผู้ที่เข้าใจธุรกิจขององค์กรเป็นอย่างดี

“ในยุคดิจิทัล ข้อมูลการทำงานมีปริมาณมหาศาล การนำข้อมูลเหล่านั้นมาใช้จำเป็นต้องใช้กระบวนการใหม่ ๆ เพื่อที่จะแปลงข้อมูลดิบออกมาเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ส่งผลให้องค์กรต้องเฟ้นหาบุคลากรที่จะเข้ามาช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลเหล่านี้ เริ่มจาก HR สามารถเริ่มหาจากบุคลากรภายในองค์กร ด้วยการกระตุ้นคนที่มีความรู้เรื่ององค์กรเป็นอย่างดีจนเกิดความคิดในเชิงวิเคราะห์”

อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนบุคลากรที่มีอยู่ให้มีความสามารถเชิงดิจิทัลมากขึ้น จะเกิดขึ้นได้จาก 4 ขั้นตอน เริ่มจาก 1. ด้วยการตั้งคำถามที่ถูกต้อง หรือถามคำถามที่สมเหตุสมผล เพื่อให้พนักงานสามารถให้ข้อมูลได้ตรงมากที่สุด 2. วิธีในการค้นหาคำตอบที่รวดเร็ว มีประสิทธิภาพ แสดงให้เห็นแนวคิดในการแก้ปัญหาต่าง ๆ มีการนำดิจิทัลมาใช้มากขึ้น อย่างการนำคอมพิวเตอร์มาช่วยในการหาคำตอบที่เสียเวลาแทนคน 3. เริ่มทดลองเพื่อเปลี่ยนแปลงกระบวนการทำงาน ด้วยการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้มากขึ้น ลดขั้นตอน เวลาในการทำงาน และสามารถทำงานได้ตามเป้าหมายมากขึ้น และ 4. เมื่อทีมงานดังกล่าวทำได้สำเร็จ องค์กรก็เริ่มนำแนวคิดใหม่ ๆ มาช่วยในการทำงาน เพื่อทำให้องค์กรดีขึ้น ซึ่งผู้ที่จะมาทำขั้นตอนเหล่านี้ ไม่จำเป็นต้องเป็นนักวิทยาศาสตร์ข้อมูล แต่คือพนักงานที่มีอยู่แล้วที่มีความเข้าใจโมเดลธุรกิจขององค์กรเป็นอย่างดี

ศิษฏพงศ์ กล่าวว่า การดึงข้อมูลที่เกิดจาก Digital Workplace มาใช้ ถือเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญ เนื่องจากปัจจุบัน หลายองค์กรเกิดการทรานฟอร์เมชั่นกันในระดับหนึ่งแล้ว โดยจะเห็นได้จากการเริ่มนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการทำงานมากขึ้น เช่น การลงทุนนำระบบคลาวด์มาใช้งาน รูปแบบการสื่อสารยุคใหม่ภายในองค์กรผ่านอินเทอร์เน็ต ทำให้การทำงานไม่ได้ยึดติดอยู่บนคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ พนักงานสามารถทำงานจากที่ใดก็ได้

การนำข้อมูลเก็บไว้บนคลาวด์ ทำให้พนักงานไม่ต้องเข้าไปดึงข้อมูลในระบบ หรือแนวคิดในการทำงานสมัยใหม่ ที่บุคลากรสามารถทำงานร่วมกันได้ทุกแผนก ส่งผลให้กรอบแนวคิดของ HR ต้องไม่ประเมินการทำงานเฉพาะจากบันทึกการทำงานประจำวันที่ระบุแค่เวลาเข้าออกงาน แต่เป็นการนำเอาดาต้าที่เกิดขึ้นจากการทำงานบน Digital Workplace ซึ่งมีข้อมูลมหาศาล มาวิเคราะห์ให้เกิดประโยชน์ เช่น การเข้าไปดูว่าพนักงานแต่ละรายทำงานอยู่บนแพลตฟอร์มใดบ้าง และสะท้อนให้เห็นการทำงานของแต่ละหน้าที่หรือไม่

เมื่อองค์กรเก็บข้อมูลเหล่านั้น ควรมีหน่วยงานอย่าง Big Data & Analytics หรือการจัดตั้งทีม Center of Excellence (CoE) ขึ้นมา เพื่อทำหน้าที่ในการวิเคราะห์ และพัฒนาธุรกิจ รวมถึงมีหน้าที่ในการกำหนด ควบคุม และทำให้มั่นใจว่าองค์กรจะเดินหน้าต่อไปอย่างมีประสิทธิภาพ

แน่นอนว่าขั้นตอนสำคัญที่จะทำให้องค์กรเกิดดิจิทัลทรานฟอร์เมชันได้สมบูรณ์แบบ รวมถึงการมีทีมงานที่แข็งแรง จะต้องมีบุคลากรที่มีความรู้ ความสามารถในการวิเคราะห์และนำข้อมูลมาพัฒนาให้เกิดประโยชน์แก่องค์กร หรือตำแหน่งอย่าง “Data Scientist” ถือเป็นตำแหน่งที่หายากที่สุดในยุคปัจจุบัน แต่องค์กรก็สามารถประยุกต์ใช้จากบุคลากรที่มีอย่างการพัฒนา “Data Engineers” ด้วยการนำบุคลากรในฝ่ายไอที ที่มีความสามารถในการเขียนโปรแกรม มีความสามารถทางสถิติเพียงแต่ขาดทักษะทางด้านการสื่อสาร มาทำงานร่วมกับ “Data Analyst” ที่อยู่ในฝ่ายธุรกิจ เพราะมีทักษะในการสื่อสารสูง แต่เขียนโปรแกรมไม่ได้ มาทำงานร่วมกัน

ขั้นตอนการค้นหา Data Scientist หรือการทำ CoE ภายในองค์กร เป็นเรื่องยากซึ่งจีเอเบิล มีบริการช่วยเหลือด้านนี้ คือ การส่งทีม Data & Analytic เข้าไปช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในการทำ Analytic ในองค์กรขนาดใหญ่ รวมถึงองค์กรขนาดเล็กที่เข้าไปช่วยในการทำทรานฟอร์เมชัน ทั้งในแง่ของการเข้าไปเป็นที่ปรึกษา และการพัฒนาบุคลากรให้เกิดความรู้ และความเชี่ยวชาญ ด้วยการเข้าไปช่วยพัฒนาให้เกิด Analytic DNA ด้วยการจัดเทรนนิงคอร์สระยะยาว

รวมถึงการนำเทคโนโลยี และโซลูชันเข้าไปช่วย เพื่อทำให้องค์กรสามารถนำข้อมูลที่มีออกมาอยู่ในรูปแบบที่พร้อมใช้งาน และยังสามารถเข้าไปช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลตามแต่ละโปรเจกต์ เพื่อให้เกิดแนวคิดที่นำมาใช้ได้จริง ผสมไปกับรูปแบบการนำเสนอที่มีการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาช่วยให้เห็นภาพได้ชัดเจนขึ้น


กำลังโหลดความคิดเห็น