ถือเป็นความพยายามของกูเกิลไม่น้อยกับการก้าวมามีบทบาทในธุรกิจ Wearable หรืออุปกรณ์ดิจิทัลที่สวมใส่ได้ แต่ความสำเร็จอาจยังไม่ตามมาเร็วเท่าเงินที่ใส่ลงไป ล่าสุด จึงมีการออกมาประกาศเปลี่ยนชื่อแล้วจากแอนดรอยด์แวร์ (Android Wear) เป็นแวร์โอเอสบายกูเกิล (Wear OS by Google)
สำหรับเบื้องหลังที่ทำให้กูเกิลตัดสินใจเปลี่ยนชื่อนี้ เดนนิส โทรเปอร์ (Dennis Troper) จากกูเกิลให้เหตุผลผ่านบล็อกของเขาว่า การเปลี่ยนชื่อใหม่นี้สามารถสะท้อนตัวตนของเทคโนโลยี วิสัยทัศน์ และตัวตนของคนที่ซื้อนาฬิกาอัจฉริยะของบริษัทไปได้ดี และทำให้เห็นภาพชัดว่า Wear OS by Google เป็นระบบปฏิบัติการสำหรับอุปกรณ์ Wearable อย่างแท้จริง
แต่ในอีกมุมหนึ่งอาจสะท้อนได้ว่า การใช้ชื่อแอนดรอยด์แวร์นั้นไม่ตอบโจทย์ เนื่องจากทำให้เกิดความสับสนได้ว่า หากไม่ใช่อุปกรณ์ในระบบแอนดรอยด์แล้ว จะไม่สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างดีก็เป็นได้ โดยความไม่ประสบความสำเร็จของแอนดรอยด์แวร์นั้น อาจมาจากหลายประเด็น ยกตัวอย่างเช่น การอัปเดตระบบปฏิบัติการที่ล่าช้า และดีเลย์จากที่กำหนดไว้นานหลายเดือน แต่เมื่อมีการประกาศอัปเดตเมื่อกุมภาพันธ์ 2017 ก็ใช้เวลานานอีกเช่นกันกว่าจะมีผู้ผลิตสักรายที่หยิบระบบปฏิบัติการดังกล่าวไปใช้กับฮาร์ดแวร์ของตัวเอง
แม้กระทั่งกูเกิลเองก็สนใจพัฒนา แต่สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต แล็ปท็อป และกล่องเซ็ตท็อปบ็อกซ์ เป็นหลัก ไม่มีการเปิดตัวโปรดักต์ในส่วนนี้ออกมา
เว็บไซต์ด้านไอทีอย่าง Ars Technica วิเคราะห์เอาไว้ว่า ยอดขายก็มีส่วนเช่นกัน และที่ผ่านมา มีบางผู้ผลิตที่เริ่มไม่ให้ความสำคัญกับแพลตฟอร์มดังกล่าวมากขึ้น เนื่องจากพบว่า ผู้บริโภคส่วนใหญ่เทใจให้กับแอปเปิลวอตช์มากกว่า
ก่อนหน้านี้ กูเกิลก็เคยเปลี่ยนชื่อบริการจากแอนดรอยด์เพย์ (Androild Pay) เป็นกูเกิลเพย์ (Google Pay) มาแล้วเช่นกัน
สำหรับการอัปเดตระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์แวร์นั้น กูเกิล ได้มีการอัปเดตระบบปฏิบัติการดังกล่าวครั้งล่าสุดไปเมื่อกุมภาพันธ์ 2017 ที่ผ่านมา (ซึ่งเป็นการอัปเดตที่ดีเลย์จากกำหนดการที่ระบุไว้นานหลายเดือนด้วย)