ตลาดสมาร์ทโฟนจีนกลายเป็นตลาดที่นักวิเคราะห์จากทั่วโลกเริ่มจับตามากขึ้น หลังจากพบสัญญาณการเติบโตที่ลดลงของยอดขายสมาร์ทโฟนเมื่อไตรมาสที่สองของปีที่ผ่านมา โดยข้อมูลจากคานาลิส (Canalys) บริษัทวิจัยพบว่า ยอดขายโดยรวมของสมาร์ทโฟนนั้น ลดลง 4 เปอร์เซ็นต์ เหลือ 459 ล้านเครื่องในปี 2017 โดยในไตรมาสที่สี่พบว่า ลดลงสูงสุดถึง 14 เปอร์เซ็นต์ เหลือยอดขายเพียง 113 ล้านเครื่องเท่านั้น เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าเลยทีเดียว
สำหรับการปรับตัวลดลงนี้เกิดขึ้นครั้งแรกในไตรมาสสองของปี 2017 และเป็นครั้งแรกที่การลดลงนั้น เกิดขึ้นต่อเนื่อง 12 เดือนติดต่อกัน
แบรนด์ที่ยังเติบโตด้านยอดขายได้ดี คือ หัวเว่ย (Huawei) ที่ขายได้ 24 ล้านเครื่องในไตรมาสสุดท้ายของปี คิดเป็นยอดขายที่เติบโตขึ้น 9 เปอร์เซ็นต์ ส่วนแบรนด์ออปโป้ (Oppo) และ Vivo นั้น แม้จะออกไปโตในภูมิภาคเอเชียได้มากมาย แต่ในจีนพบว่า ยอดขายกลับลดลง 16 เปอร์เซ็นต์ และ 7 เปอร์เซ็นต์ตามลำดับ
การมียอดขายสมาร์ทโฟนภายในประเทศที่ลดลงทำให้บริษัทผู้ผลิตสมาร์ทโฟนของจีนเริ่มมองหาตลาดต่างประเทศ ซึ่งส่วนหนึ่งมุ่งหน้าไปที่อินเดีย เนื่องจากพวกเขาสามารถแข่งขันได้ รวมถึงตลาดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างอินโดนีเซีย ที่มีอัตราการเติบโตของผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ส่วนเสี่ยวหมี่ (Xiaomi) ถูกไอโฟน เท็น (iPhone X) และไอโฟน 8 (iPhone 8) ทำยอดขายแซงไปที่ 13 ล้านเครื่องในไตรมาสสี่ จึงตกไปอยู่อันดับที่ห้าของตาราง
แต่เสี่ยวหมี่นั้น สามารถเอาชนะซัมซุง (Samsung) ได้ในตลาดอินเดีย เมื่อไตรมาสที่สี่ที่ผ่านมา รวมถึงยังได้ไปเปิดตัวในสเปน เม็กซิโก รัสเซีย และประเทศอื่น ๆ ในแอฟริกาด้วย
ทั้งนี้ มีเพียงตลาดเดียวที่ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนจากจีนยากจะเจาะได้ นั่นคือ สหรัฐอเมริกา โดยเสี่ยวหมี่ เคยประกาศบุกไปขายแอ็กเซสซอรีของบริษัทอยู่บ้าง แต่จนถึงวันนี้ก็ยังไม่มีการเปิดตัวต่อสาธารณะแต่อย่างใด
