xs
xsm
sm
md
lg

ไม่ใช่แค่ Bitcoin! เงิน crypto สกุลหลักของโลกกอดคอร่วงรับข่าว “แบน”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


สกุลเงินดิจิทัล หรือ cryptocurrencies หลักของโลกมากกว่า 20 สกุล พร้อมใจเข้าสู่ภาวะมูลค่าลดลงเมื่อวันอังคารที่ 16 มกราคมที่ผ่านมา บิตคอยน์ (Bitcoin) รายใหญ่เจ็บน้อยที่สุด เพราะมูลค่าร่วง 25% เหลือต่ำกว่า 11,000 เหรียญสหรัฐฯ ผลกระทบจากความหวั่นใจเรื่องโอกาสที่ประเทศยักษ์ใหญ่จะลงดาบปราบปราม และกำกับดูแลเงิน crypto มากขึ้นในระยะยาว

ภาวะมูลค่าเงินตกต่ำฉับพลันนี้ เห็นชัดเจนบนสกุลเงิน crypto ท็อป 10 ที่ครองส่วนแบ่งตลาดมากที่สุด 10 อันดับแรก เบื้องต้น คาดว่าเป็นผลจากปริมาณการซื้อขายในประเทศญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ที่ปรับตัวลดลง

แม้ว่าเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดอย่าง Bitcoin จะลดลง 25% เหลือ 10,338 เหรียญสหรัฐฯ ก่อนจะดีดตัวขึ้นมาเป็น 11,000 เหรียญสหรัฐฯ ในตลาดนิวยอร์ก แต่ตัวเลขนี้ยังคงอยู่ในระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ต้นธันวาคมที่ผ่านมา โดยเงินดิจิทัลสกุลรองของโลกอย่างริปเปิล (Ripple) นั้น มูลค่าลดลงมากถึง 40% และเอธีเรียม (Ethereum) ลดลง 31% เหลือ 871 เหรียญสหรัฐฯ เมื่อวันครูที่ผ่านมา (16 ม.ค.)

ภาวะทั้งหมดนี้สะท้อนถึงความผันผวนในตลาดเงิน cryptocurrencies ที่วาดลวดลายหลังจากตลาดขยายตัวรุนแรงเมื่อปี 2017 อย่างไรก็ตาม นาทีนี้ยังมีอีกหลายบริษัทที่วางแผนเปิดตัวบริการ crypto ต่อไป รวมถึงเงินสกุลใหม่ที่แสดงว่า ตลาดเงินดิจิทัลนี้จะยังไม่วายไปง่าย ๆ

เบื้องต้น ฟาวาด ราซาคซาดา (Fawad Razaqzada) นักวิเคราะห์การตลาดของฟอเร็กซ์ (Forex.com) เปรียบเทียบว่า สถานการณ์ขณะนี้เหมือนการอาบเลือด หรือ “cryptocurrency bloodbath” แต่เวลานี้ก็ถือว่ายังเร็วเกินไปที่จะสรุปว่า เงิน crypto กำลังถึงกาลอวสาน โดยเหตุผลหลักของวิกฤตินี้ คือ แนวโน้มเรื่องรัฐบาลเกาหลีใต้อาจดำเนินการตรวจสอบด้านกฎระเบียบเพิ่มขึ้น ทำให้ความเชื่อมั่นในภาคธุรกิจลดลง

มาติ กรีนสแปน (Mati Greenspan) นักวิเคราะห์ของบริษัทอีโตโร (eToro) ชี้ว่า ปริมาณการซื้อขายที่ลดลงจากตลาดญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ คือ เหตุผลหลักที่ทำให้มูลค่าเงิน crypto ตกต่ำอย่างหนัก เนื่องจากราคาเงิน Crypto ในตลาดเหล่านี้มักจะมีราคาพรีเมียม ซึ่งจะช่วยผลักดันราคาเฉลี่ยทั่วโลก ผู้ค้าในตลาดเอเชียเหล่านี้มักเป็นผู้ซื้อด้วยเช่นกัน แต่ปรากฏว่า วอลุ่มการซื้อขายเงิน crypto ได้ลดลงอย่างต่อเนื่องทั้งในญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา

จากการประเมินเบื้องต้นพบว่า 2 ประเทศที่มีการซื้อขายเงิน crypto มากที่สุดของโลกนั้น มีสัดส่วนลดลงต่ำกว่า 30% ส่วนหนึ่งเป็นเพราะนักลงทุนไม่ต้องการจ่ายเงินซื้อเงิน crypto เกินราคา และกำลังรอให้ตลาดนิ่งเสียก่อน
Bitcoin ร่วงต่ำสุดที่ 10,200 เหรียญสหรัฐ ก่อนจะดีดตัวขึ้นมาเป้นระดับ 11,000 เหรียญ
นีล วิลสัน (Neil Wilson) นักวิเคราะห์อาวุโสบริษัทอีทีเอ็กซ์ แคปิตอล (ETX Capital) ตั้งข้อสังเกตว่า Bitcoin จะต้องเผชิญกับปัญหาเรื่องการกำกับดูแลไม่ช้าก็เร็ว แถมทุกฝ่ายยังเห็นสัญญาณของเรื่องนี้มากขึ้นต่อเนื่อง หลังจากที่เกาหลีใต้วางแผนออกกฎห้ามค้าขายสกุลเงิน crypto และการเคลื่อนไหวของจีนที่อาจมีมาตรการควบคุมธุรกิจขุดเหมืองเงินดิจิทัล ทั้งหมดล้วนเป็นความคืบหน้าล่าสุดที่ชี้ให้เห็นถึงแรงกดดันด้านกฎระเบียบที่มากขึ้น

สัปดาห์ที่ผ่านมา มีข่าวว่ารัฐบาลจีนเตรียมกำหนดเป้าหมายไปที่เว็บไซต์ และแอปพลิเคชัน ที่เสนอบริการแลกเปลี่ยนเงินดิจิทัล เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนแห่เข้าถึงแพลตฟอร์มที่นำเสนอการค้าเงิน crypto แบบเก็งกำไร นอกจากจีน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของเกาหลีใต้ “คิม ดงยอน” (Kim Dong-yeon) ยังออกมาประกาศเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า รัฐบาลกำลังพิจารณาอย่างจริงจังเพื่อห้ามซื้อขายเงิน crypto

เหตุผลที่ทำให้รัฐบาลหลายประเทศต้องออกหน้าว่าต้องปราบปรามเงิน crypto เพราะความวุ่นวายทางเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้น เนื่องจากเงิน cryptocurrency ถูกมองว่าเป็นสกุลเงินที่เหมาะสมมากสำหรับบริษัท, อาชญากร และบุคคลทั่วไปในการหลีกเลี่ยงภาษี และธุรกิจเงิน crypto เป็นเพียงธุรกิจที่เน้นเก็งกำไร ไม่ก่อให้เกิดผลดีทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน


กำลังโหลดความคิดเห็น