เอซุส ส่ง “Zenfone Max Plus” สเปกเทพราคาไม่ถึงหมื่นลงตลาด

เอซุส ปรับแผนครั้งใหญ่ ส่ง “Zenfone Max Plus” ลงตลาดไทย อัดฟีเจอร์เต็มพิกัด เอาใจคอไฮเทค ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์หน้าจอ 5.7 นิ้ว กล้องคู่ แบตฯ อึด เครื่องบางเฉียบ ปลดล็อกด้วยใบหน้า ในราคาสบายกระเป๋า ถูกกว่าแบรนด์อื่นในสเปกเท่ากันถึง 20%

อัลวิน เฉิน ผู้บริหารบริษัท เอซุส มาร์เก็ตติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เอซุส เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุด Zenfone Max Plus ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ จับตลาดผู้บริโภคที่ต้องการสมาร์ทโฟนไฮเทคโนโลยี แต่ราคาไม่แพงนัก

Zenfone Max Plus เน้นตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนที่ทันสมัย รองรับไลฟ์สไตล์อินเทรนด์ ด้วยหน้าจอขนาดใหญ่กล้องคู่ แบตเตอรีขนาดใหญ่ สแตนด์บายได้นานถึง 26 วัน หรือสนทนาได้ถึง 26 ชั่วโมง ตัวเครื่องบางเฉียบ เต็มเปี่ยมด้วยความปลอดภัย พร้อมการปลดล็อกด้วยใบหน้า และราคาเปิดตัวสุดคุ้มเพียง 6,990 บาท

ชาลส์ ลิ่ว ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจการตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่บริษัท เอซุส มาร์เก็ตติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า Zenfone Max Plus เป็นสมาร์ทโฟนที่มีส่วนผสมระหว่างแบตเตอรีขนาดใหญ่ และหน้าจอที่คมชัดเต็มตา ในราคาที่คุ้มค่าที่สุด จอแสดงผลขนาด 5.7 นิ้ว ทำให้ดูวิดิโอแบบ wide screen และเปิดแอป พร้อมกันสองแอปได้ดียิ่งขึ้น

กล้องหลังคู่ กล้องหลัก 16 MP และกล้องตัวที่สอง มุมมองกว้าง 120°เช่นเดียวกับ Zenfone รุ่นใหม่ทั้งหมด ทำให้สามารถถ่ายภาพได้ในทุกระยะ ทุกมุมมอง แบตเตอรีขนาดใหญ่ความจุ 4,130 mAh สามารถเปิดเครื่องสแตนด์บายได้นานถึง 26 วัน หรือใช้เวลาสนทนาได้ 26 ชั่วโมง และสามารถเป็นแหล่งพลังงานสำรองให้กับอุปกรณ์อื่นได้

“Zenfone Max Plus ไม่ใช่สมาร์ทโฟนเครื่องแรกที่มีอัตราส่วนจอภาพ 18:9 ไม่ได้เป็นเครื่องแรกที่มีแบตเตอรีขนาดใหญ่ ไม่ได้เป็นสมาร์ทโฟนเครื่องแรกที่มีกล้องคู่ หรือแม้แต่ไม่ได้เป็นเครื่องแรกที่ปลดล็อกได้ด้วยใบหน้า แต่เป็นสมาร์ทโฟนเครื่องแรกที่รวบรวมฟีเจอร์ทั้งหมดนี้ไว้ด้วยกัน ซึ่งทำให้เหมาะกับผู้ใช้ที่ไม่ต้องการชาร์จแบตเตอรีบ่อย ๆ ในระหว่างวัน โดยมาพร้อมราคาสุดคุ้มกว่าสมาร์ทโฟนในระดับเดียวกัน จากฟีเจอร์ทั้งหมดนี้เมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นในสเปกเดียวกัน Zenfone Max Plus จะมีราคาถูกกว่าถึง 20%”

ทั้งนี้ เอซุส มีการปรับแผนการตลาดใหม่จากก่อนหน้านี้ที่ทำตลาดพรีเมียมเป็นหลัก แม้จะเป็นสินค้าไฮเทคโนโลยี แต่ก็มีราคาแพง ทำให้ Zenfone 3 ทำตลาดในราคา 11,100 บาทได้รับการตอบรับจากตลาดในระดับหนึ่ง โดยใช้ระยะเวลา 14 เดือน ทำตลาดได้ 1 แสนเครื่อง จากการปรับกลยุทธ์ใหม่ Zenfone Max Plus จะเป็นสินค้าไฮเทคโนโลยี แต่มีราคาไม่สูง คือ 6,990 บาท ตั้งเป้าจะทำตลาดได้ประมาณ 18,000 เครื่องต่อเดือน

เอซุส วางงบการตลาดไว้ที่ 1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อไตรมาส โดยจะให้ความสำคัญกับการจัดอีเวนต์ เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายให้มากยิ่งขึ้น รวมทั้งร่วมมือกับพาร์ตเนอร์ใหม่ ๆ มากยิ่งขึ้น โดยล่าสุดอยู่ในระหว่างการประสานงานกับเซเว่นอีเลฟเว่น ซึ่งมีสาขาทั่วประเทศ เป็นจุดให้ลูกค้าที่มีปัญหานำเครื่องไปฝากไว้ที่ร้าน 7/11 เพื่อส่งซ่อมกับศูนย์เอซุส

นอกจากนี้ ยังร่วมมือกับ Shopee มอบสิทธิพิเศษส่วนลดให้กับผู้ที่จองแบบพรีออเดอร์ผ่านช่องทาง Shopee จากราคา 6,990 บาท เหลือ 5,870 บาท โดยเปิดให้ลงทะเบียนจอง Zenfone Max Plus ล่วงหน้าเพื่อรับส่วนลดพิเศษ ระหว่างวันที่ 12-14 มกราคม 2561 และเปิดพรีออเดอร์ตั้งแต่วันที่ 16-22 มกราคมนี้ สำหรับผู้ที่พรีออเดอร์ Zenfone Max Plus 5,000 เครื่องแรก จะได้รับสกินตัวละคร ROV สุดคูลจำนวน 1 ไอเท็ม ได้แก่ ChrestSharkover หรือ Fennik propeller อีกด้วย

ปัจจุบัน เอซุส เป็นแบรนด์อันดับ 7-8 ในตลาด ในปี 2561 ตั้งเป้าติด 1 ใน 5 ของแบรนด์ชั้นนำ จากส่วนแบ่งตลาด 3% ในปัจจุบันเพื่อเป็น 5% ในสิ้นปี 2561 และคาดว่าอีก 2 ปี จะเพิ่มเป็น 10% โดยในปีที่ผ่านมา เอซุส ทำตลาดได้ประมาณ 8 แสนเครื่องจาก 12 รุ่นที่ส่งลงตลาด มาในปี 2561 คาดว่าจะทำตลาดได้ประมาณ 1.5 ล้านเครื่อง โดยคาดว่า ตลาดรวมสมาร์ทโฟนเมืองไทยจะมีการเติบโตประมาณ 3%