xs
xsm
sm
md
lg

HTC มั่นใจ Vive แว่น VR ขายไทย 30,599 บาทสมราคา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เอชทีซี ประกาศจัดทัพรอบด้านกระตุ้นให้เกิดเนื้อหา VR เพื่อคนไทยเต็มที่ปีหน้า มั่นใจแว่นเสมือนจริง “เอชทีซีไวฟ์” (HTC Vive) ขายไทย 30,599 บาทคุ้มค่าสมราคาประสบการณ์ที่ผู้ใช้จะได้รับ ระบุเป็นราคาใหม่ที่ลดแล้ว หลังจากบริษัทปรับราคาจำหน่ายทั่วโลกช่วงไตรมาสที่ผ่านมา เผยเตรียมจัดโปรโมชั่นกับพาร์ตเนอร์ เพื่อขายแว่น VR หรือ Virtual Reality คู่พีซีในราคาที่ถูกลง

สำหรับเอชทีซี ปีนี้เป็นปีที่เอชทีซี ครบรอบ 20 ปี เริ่มจากการเป็นบริษัทที่ผลิตพีดีเอโดยเฉพาะ มาเป็นบริษัทผลิตโทรศัพท์พีดีเอ ก่อนผันตัวมาผลิตสมาร์ทโฟนเต็มตัวในปัจจุบัน ปลายปี 2014 เอชทีซีเริ่มเข้าสู่วงการ VR บนวิสัยทัศน์ที่ว่า VR คือ ประตูที่ผู้ใช้จะไปทุกที่ เมื่อใดก็ได้ ไม่มีข้อจำกัด ขีดจำกัดเดียว คือ จินตาการ

***ปลายปี VR บุกตลาดไทย

เรย์มอนด์ เปา รองประธานบริหารฝ่ายผลิตภัณฑ์ VR ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เอชทีซี สำนักงานไทเป ให้สัมภาษณ์ถึงแนวทางการตลาด และการลงทุนธุรกิจ VR ตลอดปี 2560-2561 ในประเทศไทยว่า บริษัทจะดำเนินการใน 4 ประเด็นหลักควบคู่กัน ได้แก่ เรื่องฮาร์ดแวร์, ซอฟต์แวร์, เนื้อหา และโครงการเพาะบ่มสตาร์ทอัป เพื่อกระตุ้นให้เกิดบริการ VR ให้มากขึ้น

“ด้านฮาร์ดแวร์ เราเริ่มขาย HTC Vive อุปกรณ์สวมศีรษะในประเทศไทยเมื่อ 10 ตุลาคมที่ผ่านมา ผ่านพันธมิตร คือ JIB และเว็บไซต์ vive.com เดือนหน้าเราจะเริ่มทำตลาดจำหน่ายคู่คอมพิวเตอร์พีซีแบรนด์เอเซอร์” เรย์มอนด์ กล่าว “ด้านซอฟต์แวร์ เราทำไวฟ์พอร์ต (Viveport) แหล่งรวมซอฟต์แวร์ VR เพื่อให้ธุรกิจอย่างอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ ห้างสรรพสินค้า โรงภาพยนตร์ สามารถใช้ VR ร่วมกับระบบเดิมที่องค์กรใช้อยู่เดิม จุดนี้ แม้ยังไม่ได้เปิดตัวในประเทศไทย เนื่องจากยังไม่มีการแปลเป็นภาษาไทย แต่ก็มีการเปิดให้ผู้ใช้อัปโหลดคอนเทนต์ VR เป็นภาษาไทยแล้ว”

ด้านเนื้อหา ผู้บริหารเอชทีซี ระบุว่า ได้ทำโครงการไวฟ์สตูดิโอ โดยเอชทีซีทำคอนเทนต์เองในรูปเกม จุดนี้ หากมีบริษัทใดอยากผลิตคอนเทนต์ เอชทีซีจะสามารถสอนให้บริษัทนั้นได้ เบื้องต้น มีการวางแผนร่วมมือกับพันธมิตรไทยผลิตซอฟต์แวร์ VR เพื่อจำหน่ายที่สหรัฐฯ และตลาดอื่นทั่วโลก

ด้านที่ 4 คือ ศูนย์บ่มเพาะธุรกิจไวฟ์เอ็กซ์ (Vive X) เอชทีซี ระบุว่า เปิดรับสตาร์ทอัปใหม่ทุก 6 เดือน โดยทุกคนจะมีสิทธิได้รับเลือกให้ไปสาธิตบริการที่ไทเป และกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน

“ไม่เพียงเกม VR ยังมีคอนเทนต์อื่นด้วย เราเห็นการใช้งาน VR ในวงการอื่นมากขึ้น เช่น โชว์รูมรถ บริการสุขภาพ การฝึกนักกีฬา และในอุตสาหกรรม VR ครอบคลุมทุกเรื่องในวิถีชีวิต การทำงาน เรียนรู้ และการใช้ชีวิตประจำวัน”
เรย์มอนด์ เปา (ชวา) รองประธานบริหารฝ่ายผลิตภัณฑ์ VR ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บริษัทเอชทีซี
สำหรับประเทศไทย เรย์มอนด์ บอกว่า เห็นโอกาสการเติบโตสูง เนื่องจากไทยมีความโดดเด่นเรื่องความคิดสร้างสรรค์

อย่างไรก็ตาม การเริ่มจำหน่าย HTC Vive ในรอบเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ผู้บริหารเอชทีซี ยอมรับว่า พระราชพิธีสำคัญทำให้บริษัทไม่ได้ทำกิจกรรมการตลาด ผู้บริโภคจึงอาจไม่ทราบว่า HTC Vive วางจำหน่ายในประเทศไทย ในช่วงหลังจากนี้ บริษัทจะเริ่มยึดพื้นที่ร้านเกมเป็นจุดเริ่มต้นในการให้ความรู้ VR ทุกด้านกับคนไทยทั้งการสร้างเนื้อหา VR และการใช้งาน

“ในปีแรก เราไม่ได้ตั้งเป้าหรือคาดหวังยอดขายเป็นตัวเลขแน่นอน เราต้องการสร้างอีโคซิสเต็มให้เกิด โอกาสแรก คือ การเข้าหาร้านเกม เป็นจุดเริ่มต้นก่อนจะพัฒนาขยายผล” เรย์มอนด์ สรุป “เราโฟกัสที่เกมมากที่สุด 50% ในปีหน้า น่าจะเห็นเป็นโซลูชันธุรกิจ เพราะต้องใช้เวลาปรับ”

***รุ่นสแตนด์อโลนรอไปก่อน

HTC Vive คือ อุปกรณ์ VR รุ่นแรกที่เอชทีซีเริ่มจำหน่ายในตลาดโลกเมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้ว จุดนี้ เรย์มอนด์ ระบุว่า บริษัทกำลังพัฒนารุ่นสแตนด์อโลนที่ไม่ต้องใช้พีซีเช่นกัน แต่บริษัทตัดสินใจนำรุ่นไวฟ์เข้ามาจำหน่ายก่อน เพราะสามารถให้ประสบการณ์ VR สูงสุด

“รุ่นสแตนด์อโลนอาจเหมาะกับการใช้ในห้องเรียน VR ที่ต้องการความคล่องตัว และสะดวกกว่า แต่ยังไม่สะท้อนศักยภาพสูงสุดของ VR”

แม้ขณะนี้ การใช้งานระบบ VR ยังไม่รองรับภาษาไทยทั้งหมด แต่เอชทีซี ระบุว่า ได้ผลักดันเต็มที่ให้ผู้ผลิตคอนเทนต์พัฒนาเป็นภาษาไทยทั้งแพลตฟอร์มไวฟ์พอร์ด หรือเกมจากไวฟ์สตูดิโอ ทุกอย่างพยายามผลักดันให้เป็นภาษาไทย

“ภาษาไทยเป็นภาษาสำคัญ เหตุที่เราใช้เวลานานกว่าจะส่งไวฟ์รุ่นแรกเข้ามาทำตลาดไทยได้ เป็นเพราะต้องทำงานหลายจุด ทั้งสิทธิบัตร กฎหมาย ต้องหาพาร์ตเนอร์ ต้องประสานงานเรื่องการจัดส่ง ประเทศไทยเป็นประเทศที่ 2 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เปิดตัว ประเทศแรก คือ สิงคโปร์”

***แผนปีหน้าไม่มีสงครามราคา

เอชทีซี ระบุว่า นอกจากร้านเกมคาเฟ หรือ “ร้านเกม Arcade” เอชทีซีจะไปหาพาร์ตเนอร์ค้าปลีก เพื่อจัดบูทตามห้าง หรืออีเวนต์ ให้คนได้ทดลองใช้ จะได้ทราบว่า VR คืออะไร เบื้องต้น ไม่มีแผนพัฒนาเกมคอนโซล เนื่องจากซับซ้อนมาก เช่นเดียวกับสงครามราคา ที่เอชทีซี มั่นใจว่า ราคาและประสิทธิภาพของ Vive นั้น คุ้มค่าแม้คู่แข่งจะลดราคาลง

“เราทำราคาให้แตกต่าง เพื่อตอบโจทย์คนที่ต้องการประสบการณ์ที่สูงกว่า ตลาดมีหลายเซกเมนต์ แต่ Vive นี้เป็นตัวท็อป”

เรย์มอนด์ ยอมรับว่า ยากที่จะพยากรณ์ว่า VR ในประเทศไทยจะบูมเมื่อไหร่ เนื่องจากต้องขึ้นอยู่กับคอนเทนต์ เอชทีซีเริ่มที่เกมก่อน เพราะเห็นได้ชัด แต่เรื่องการศึกษา ยังไม่มีผู้ผลิตคอนเทนต์ที่ได้รับการยอมรับวงกว้าง จึงต้องข้ามไปก่อน ด้านภาพยนตร์ ยังต้องรอภาพยนตร์ใหม่อย่าง Batman หรือภาพยนตร์ของสตีเฟน สปีลเบิร์ก ทั้งหมดนี้จะส่งให้คนทั่วโลกสนใจ VR มากขึ้น

ถามว่าราคาเป็นหนึ่งในอุปสรรคที่ทำให้ VR ไม่เติบโตหรือไม่ เรย์มอนด์ ตอบว่า มีทั้งส่วนใช่และไม่ใช่

“ตัวอย่างเช่นไอโฟนเท็น ที่มีราคาสูงกว่าเฮดเซ็ตตัวนี้ เพราะการใช้งานได้หลากหลาย ทำให้ iPhone X ตั้งมูลค่าสูงได้ เพราะทุกคนเข้าใจ ทุกคนเห็นว่าเอามาใช้ได้” เรย์มอนด์ ระบุ “ถ้าเฮดเซ็ต Vive ราคา 2 พันบาท ก็อาจไม่มีคนซื้อ ถ้าคนไม่เห็นว่ามีประโยชน์ ดังนั้น ผมคิดว่า เราต้องทำงานต่อไป เรื่องประโยชน์ที่จะนำ VR มาใช้ทางธุรกิจ”

ลูกค้าที่ซื้อ ​Vive จะได้รับการซัปพอร์ตจากสำนักงานเอชทีซีในฮ่องกง ผ่านคู่ค้า คือ ซินเน็กซ์ (Synnex) จุดนี้ไม่มีสำนักงานเอชทีซีในไทย

สำหรับรูปแบบการเช่าใช้อุปกรณ์ ในไต้หวัน เอชทีซีเปิดบริการเช่าราย 3 วัน หรือ 15 วัน โดย 60% ของการเช่ามาจากบริษัท ขณะที่ในสหรัฐฯ มีบริการเช่าแบบ 2 ปี เพื่อให้บริษัทเปลี่ยนรุ่นใหม่ให้ แต่ธุรกิจเช่าเหล่านี้ต้องขึ้นอยู่กับพันธมิตร ทั้งหมดนี้ต้องใช้เวลาดำเนินงานนาน และต้องกำหนดรายละเอียดการเช่าอีกครั้ง จุดนี้ เอชทีซี ระบุว่า ยินดีหากบริษัทไทยต้องการเช่าบ้าง

“กับคู่แข่ง เราไม่ได้มองว่าต้องแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดมา เพราะเราอยู่ในช่วงที่ต้องให้ความรู้ลูกค้า เราไม่ได้เน้นแย่งพาย แต่เน้นให้โตไปด้วยกัน”.
กำลังโหลดความคิดเห็น