เอชทีซี (HTC) ผู้ผลิตอุปกรณ์สวมศีรษะเวอร์ชวลเรียลิตียี่ห้อ ไวฝ์ (Vive) อาจถอนตัวจากวงการ VR แล้ว หลังผลประกอบการในปี 2016 ไม่เวิร์กดังคาด
ผู้ที่รายงานความเคลื่อนไหวดังกล่าว คือ สำนักข่าวบลูมเบิร์ก โดยพบว่า ตลอดทั้งปี 2016 นั้น เอชทีซีประสบปัญหาขาดทุนสูงถึง 513 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขณะที่ทางออกของปัญหาอีกทางหนึ่งนอกจากการขายธุรกิจ Vive ก็คือขายบริษัท ซึ่งแหล่งข่าวของบลูมเบิร์ก อ้างว่า ทางบริษัทเอชทีซี ได้เคยมีนัดเจรนากับกูเกิล (Google) มาแล้วด้วย
โดยปัญหาของเอชทีซีไม่ได้มาจาก Vive เพราะ Vive มียอดขายถึง 190,000 เครื่องในไตรมาสที่ 1 ของปี (อ้างอิงจาก IDC) แถมยังมีราคาสูงกว่าคู่แข่งอย่างโอคูลัส ริฟต์ (Oculus Rift) ด้วย
แต่สาเหตุที่แท้จริงนั้น บลูมเบิร์ก อ้างว่า เป็นเพราะในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา มีรายงานพบว่า เอชทีซีมีส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟนในสหรัฐอเมริกาน้อยมากเพียง 2 เปอร์เซ็นต์ นั่นเป็นเพราะตัวเครื่องของ HTC บางรุ่นได้รับการรีวิวที่ไม่ค่อยดีนักจากนักรีวิวในสหรัฐอเมริกา ทำให้ไม่ค่อยได้รับการสนับสนุนด้านพื้นที่จำหน่ายจากผู้ให้บริการเครือข่ายนั่นเอง
แต่ข่าวดีสำหรับแฟน ๆ เอชทีซีก็มีเช่นกัน โดยเฉพาะเรื่องของการอัปเกรดเวอร์ชันระบบปฏิบัติการไปสู่แอนดรอยด์ 8.0 โอรีโอ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มได้ในไตรมาส 4 ของปีนี้
โดยรุ่นที่จะได้รับการอัปเดตก่อนใครก็คือ HTC U11 ในสหรัฐอเมริกา ส่วน HTC U Ultra และ HTC10 จะได้รับอัปเดตตามมาในภายหลัง ซึ่งอาจกล่าวได้ว่า HTC เป็นค่ายที่ออกตัวเร็วมากสำหรับการอัปเดตระบบปฏิบัติการครั้งนี้ เพราะนอกจาก HTC แล้ว ยี่ห้อที่จะมีการอัปเดตก็คือ Pixel สมาร์ทโฟนจากค่ายกูเกิล (Google) ผู้พัฒนาแอนดรอยด์โอรีโอนั่นเอง