ดีแทค เปิดบ้านเผยความจริงเรื่องไลน์โมบาย (LINE Mobile) บริการที่หลายคนมองว่า สุดคลุมเคลือ ชัดเจนอย่างเดียว คือ ค่าบริการที่ถูกสะใจ 1 ใน 30 ความจริงของ LINE Mobile คือ LINE Mobile ไม่ใช่ MVNO ไม่ใช่แบรนด์ลูก ไม่ใช่แบรนด์ร่วม ไม่ใช่ชื่อแพกเกจ แต่เป็นแบรนด์ที่ 2 ที่ตั้งเป้าแข่งกับทุกค่ายรวมถึงแบรนด์ “ดีแทค” เอง
สำหรับ LINE Mobile ความคลุมเครือนั้นมีหลายประเด็น ทั้งความร่วมมือระหว่าง DTN และ LINE ประเทศไทย ที่ก่อนหน้านี้ไม่มีการเปิดเผยว่า ครอบคลุมมากแค่ไหน ยังมีข้อสงสัยสำคัญว่า ในเมื่อ LINE Mobile เป็นทีมเฉพาะกิจของ DTN หรือ บริษัท ดีแทค ไตรเน็ต จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค ที่ได้รับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคม ย่านความถี่ 2.1 GHz ทำไมถึงไม่พูดกับสังคมและลูกค้าให้ชัดเจน
ความไม่ชัดเจนนี้ทำให้มวลชนร่วมโจมตี เพราะก่อนหน้านี้ ดีแทคได้ส่งหนังสือถึงคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ระบุชัดเจนว่า LINE Mobile จะให้บริการในรูปแบบบริการเสริมของดีแทค ที่มีใบอนุญาตในการให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถืออยู่แล้ว แต่ผู้บริหารของ LINE Mobile กลับไม่ให้ข้อมูลที่ชัดเจนว่า เป็นบริการเสริมของดีแทค ระบุว่า เป็น “ความร่วมมือ” ที่เกิดขึ้นระหว่าง DTN และ LINE ประเทศไทย และยืนยันว่า ไม่เกี่ยวข้องกับดีแทคแต่อย่างใด
ต่อไปนี้ คือ 30 ความจริง (อย่างย่อ) ที่แอนดริว กวาลเซท รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มดิจิทัล บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด ไขข้อข้องใจเรื่อง LINE Mobile ครั้งแรกอย่างเป็นทางการ
1. ที่ (ดีแทค) ต้องใช้แบรนด์ LINE Mobile เพราะต้องการอิสระในการทำงาน และทำการตลาด
2. LINE Mobile เป็นการลงทุนในเชิงแบรนด์ หรือมาร์เก็ตติ้ง
3. LINE Mobile ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อลบความเบื่อหน่าย หรือความไม่ชอบใจ ของลูกค้า ซึ่งมี 2 เรื่องหลัก คือ เรื่องศูนย์บริการ และเรื่องแพกเกจราคา
4. LINE Mobile คิดว่า ผู้บริโภคอยากสะดวกสบาย ไม่อยากฝ่ารถติดเพื่อมารับบริการที่ศูนย์ ดังนั้น จึงควรจะมีระบบที่ลูกค้าทำได้เองออนไลน์ เมื่อทำได้ จึงคิดค่าบริการได้ต่ำ ให้บริการดาต้าได้ฟรี รวมทุกอย่างในแอปพลิเคชัน ทั้งความบันเทิง และการจ่ายค่าบริการ
5. วันนี้ประเทศไทยมีแพกเกจให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ให้เลือกมากกว่า 6 พันแพกเกจ LINE Mobile ต้องการมอบความง่าย จึงออกมาแค่ 6 แพกเกจเท่านั้น ให้เลือกได้ง่าย
6. LINE Mobile ให้บริการฟรีไลน์ทีวี ฟรีดาต้าไฮสปีด ให้ลูกค้าโทรผ่านไลน์ เชื่อมแอปพลิเคชันไลน์ในการให้บริการ ทั้งหมดนี้ทำให้แบรนด์ LINE Mobile สะท้อนภาพได้ชัดเจนกว่าชื่ออื่น
7. สรุปแล้ว เจ้าของ LINE Mobile คือ DTN, เครือข่ายเป็นของ DTN, ทีมที่ดำเนินการ คือ ทีม LINE Mobile ที่อยู่ใต้บริษัท DTN และใบเสร็จของบริการนั้นออกโดย DTN
8. ทีมที่ดูแลแบรนด์ดีแทค และ LINE Mobile ไม่ได้สื่อสารกัน แยกกันชัดเจน และแข่งขันกันเองเพื่อให้บริการ
9. LINE Mobile เป็นผลจากการซื้อไลเซนส์แบรนด์จาก LINE มีฐานะเป็นแบรนด์ที่ 2 ของผู้ให้บริการแบบ MNO ไม่ใช่ MVNO
10. สมาคม GSMA รายงานว่าโลกเราในวันนี้ มีแบรนด์ที่ 2 ซึ่งถือเป็น MNO (MNO หมายถึงผู้ให้บริการประเภทมีโครงข่าย) มากกว่า 250 แบรนด์ทั่วโลก ถือว่าเป็นเรื่องปกติ
11. LINE Mobile ไม่ได้เกิดจากการเอาชื่อมาใส่แบรนด์ใหม่เพื่อขาย แต่ดีแทค คิดบริการใหม่ขึ้นมาทั้งหมด วิธีการขายนั้นแยกจากเดิม ตัวแพกเกจที่ออกมาก็ไม่เหมือนกัน ความถูกกว่าและง่ายกว่าทำให้ LINE Mobile เป็นบริการที่แตกต่างแท้จริง
12. LINE Mobile ไม่ใช่แบรนด์ย่อยแรกของไทย ก่อนหน้านี้ คือ YOU! MOBILE ของ AIS
13. เหตุผลที่ LINE Mobile ไม่ใช่ MVNO คือเพราะถ้าเป็น MVNO บริษัทที่ทำแบรนด์จะต้องไม่มีคลื่นในมือ ไม่มีไลเซนส์ จึงต้องซื้อบริการจากคนที่มีโครงข่าย ผู้ให้บริการ ดังนั้น LINE Mobile ในฐานะแบรนด์ที่ 2 ของ DTN จึงเป็นบริการ MNO
14. รัฐบาลได้เงินเท่าเดิมจาก LINE Mobile เพราะรายได้ที่เข้า LINE Mobile ทุก 100 บาท จะถูกปันไปจ่ายให้ กสทช. ในอัตรา 2.5% เท่าเดิม เรียกว่า ค่าใช้จ่ายที่ส่งเข้ารัฐนั้นเท่าเดิม ในสัดส่วนเท่ากับแบรนด์อื่น
15. รายได้ของ LINE Mobile ทั้ง 100% ก็คือรายได้ของ DTN
16. ที่ต้องซ่อนความเป็น DTN ในงานแถลงข่าว เป็นเพราะต้องการให้คนพูดถึง LINE Mobile ไม่ใช่ดีแทค อย่างไรก็ตาม ในจดหมายประชาสัมพันธ์นั้น เปิดเผยชัดเจนถึงตัวตนดีแทค จุดนี้ดีแทคยอมรับว่า จะปรับปรุง กรณีที่ไม่ได้ออกหน้าในงานแถลงข่าวจนสร้างความสับสน
17. ที่ต้องผูกกับ LINE ไม่ใช่เพราะ LINE มีมนต์ขลังมากกว่าดีแทค แต่เพราะความหลากหลายของ LINE ขณะที่ LINE เป็นแบรนด์ที่ติดตลาดแล้ว มีกลุ่มเป้าหมายเฉพาะกลุ่ม
18. การร่วมมือกับ LINE เกิดขึ้นเพื่อทำให้บริการมีความชัดเจน ทั้งบริการ และการเชื่อมต่อ ให้ทุกอย่างทำได้ผ่านแอปพลิเคชันของ LINE ความร่วมมือครั้งนี้จึงไม่ใช่แค่แบรนด์ แต่เป็นความร่วมมือใกล้ชิดโดยที่ทุกค่าใช้จ่ายและทุกขั้นตอนดำเนินการล้วนทำบนเครือข่าย DTN
19. ค่าใช้จ่ายในการใช้แบรนด์ของ LINE Mobile ทาง LINE จะได้รับเฉพาะ "ค่าอนุญาตให้ใช้สิทธิ" ไม่ใช่ค่าไลเซนส์ จุดนี้ดีแทคบอกว่า เปิดเผยไม่ได้ว่าชำระในอัตราไหน หรือระยะเวลานานเท่าไหร่
20. ทำไม DTN ต้องตั้งกลุ่มธุรกิจดิลิทัล คำตอบคือเพราะเห็นความสำคัญของตัวเลขการใช้งานดิจิทัลของไทยที่เติบโต วันนี้ประเทศไทยมีผู้ใช้งานดิจิทัลสูงมากติดอันดับโลก มีผู้ใช้ไลน์มากกว่า 41 ล้านรายใน (ตลาดไทยถือเป็นอันดับ 2 ของโลก) คนไทยยังใช้เฟซบุ๊กมากกว่า 32 ล้านคน (กรุงเทพคือเมืองที่มีการใช้งานมากที่สุด) มีผู้ชมยูทูปมากกว่า 28 ล้านคน โดยคนไทยชมนานติดอันดับท็อป 10 ของโลก ขณะที่ผู้ใช้อินสตาแกรมในไทยคิดเป็น 11 ล้านคน เบ็ดเสร็จแล้วอยู่อันดับ 13 ของโลก
21. นาทีนี้ LINE Mobile มีผู้ใช้กี่คนยังบอกไม่ได้ สถิติโดยคร่าวในช่วงเริ่มต้น คือ มากกว่า 1 หมื่นคน
22. LINE Mobile ยืนยันว่า ต้องการทำให้การเก็บข้อมูลผู้ใช้ปลอดภัย สะดวก ง่าย รัดกุม และเป็นไปตามกฎหมาย ดังนั้นหากจะต้องเก็บลายนิ้วมือผู้ใช้จริง (ในอนาคต) ก็ทำได้เมื่อส่งซิมให้ลูกค้า ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่ LINE Mobile จะได้พบลูกค้า แต่จุดนี้อาจต้องปรับอีกครั้งเพื่อให้บริษัทขนส่ง (ปัจจุบัน คือ Kerry) จัดเก็บข้อมูลลูกค้าได้ปลอดภัย คาดว่า ต้นทุนจะไม่เพิ่มขึ้น เพราะได้คำนวณไว้แล้ว
23. ที่ผ่านมา ดีแทคก็มีให้บริการออนไลน์ลักษณะเดียวกัน แต่การสร้างแบรนด์ใหม่จะทำให้หลุดพ้นจากข้อจำกัดของแบรนด์ดีแทคเดิม
24. พนักงาน LINE Mobile ถือเป็นพนักงานของ DTN
25. แบรนด์ “ดีแทค” เดิมก็จะยังพัฒนาต่อไป เป้าหมายของดีแทค คือ การเปลี่ยนสู่ดิจิทัลในปี 2020 โดย 40% ของยอดขายดีแทค จะต้องมาจากดิจิทัล
26. หากครบระยะเวลาในการใช้แบรนด์ ทีม LINE Mobile จะเข้าสู่การเจรจรในอนาคต จุดนี้อย่าเพิ่งห่วงว่า ลูกค้าของ LINE Mobile จะถูกลอยแพ
27. ส่วนธุรกิจ Digital Group ตั้งขึ้นมาเพื่อเปลี่ยนดีแทค จุดประสงค์หลัก คือ การอุดช่องว่าง ให้มุ่งสู่วิถีดิจิทัลมากขึ้น ตอบโจทย์ในวันที่ปัจจุบัน คอนซูเมอร์ไทยก้าวหน้ามากในโลกดิจิทัล แต่บริษัทโทรคมนาคมยังมีข้อเสนอให้บริการน้อย
28. LINE Mobile สามารถทำราคาได้ถูกกว่า เพราะไม่มีค่าใช้จ่ายทั้งศูนย์บริการ พนักงาน ค่าเช่าสถานที่ตามห้างที่มีราคาสูง และค่าใช้จ่ายส่วนเกินอื่น
29. LINE Mobile รู้อยู่แล้วว่า ลูกค้าดีแทคจะเปลี่ยนค่ายมาใช้ แต่ก็เชื่อว่า ลูกค้าค่ายอื่นจะเข้ามาด้วย เป้าหมายของ LINE Mobile ไม่ได้อยู่ที่ยอดขายอย่างเดียว แต่จะวัดความพึงพอใจของลูกค้าด้วย
30. การบอกว่า LINE Mobile เป็นแบรนด์ที่แยกกันกับ DTAC ทำให้เกิดความขัดแย้งในองค์กร (เป็นธรรมดา?) แต่ก็เป็นแรงผลักดันให้ทั้ง 2 แบรนด์ปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น น่าจะเป็นผลกระทบแง่บวก
ทั้งหมดนี้ ดีแทค ทิ้งท้ายว่า ยังไม่มีแผนขยายบริการ LINE Mobile ไปประเทศอื่นที่เทเลนอร์ครองตลาด แต่อย่างไรก็ตามเชื่อว่าการทำตามกฎ กสทช. และกสทช. คงไม่ระงับบริการ LINE Mobile รวมถึงยังไม่มีแผนว่าจะมีแบรนด์ที่ 3 และ 4 ออกมาอีกหรือไม่
"ดีแทคมีลูกค้ามากกว่า 23.6 ล้านคน ถ้า LINE MOBILE มาแทนดีแทคได้คงเป็นสิ่งที่น่าแปลกใจ และไม่คิดว่าจะเห็นภาพนั้น เนื่องจาก LINE MOBILE จับกลุ่มดิจิทัลกับออนไลน์เท่านั้น ลูกค้ากลุ่มนั้นกลุ่มเดียว คงไม่มาแทนแบรนด์ดีแทคได้" แอนดริว ระบุ
สุดท้าย LINE Mobile จึงเป็นบริการที่ออกมาโฟกัสลูกค้าเฉพาะในกลุ่มดิจิทัล และไม่มีเหตุผลอะไรที่จะมาหยุดให้บริการ และในอนาคตบางบริการของ LINE Mobile ก็อาจถูกนำไปใช้กับดีแทค และบางบริการของดีแทค ก็มีโอกาสให้บริการร่วมกับ LINE Mobile ดังนั้น การแข่งขันจะช่วยให้ทั้ง 2 แบรนด์แข็งแกร่งขึ้นพร้อมๆกัน
สรุป คือ ดีแทค มั่นใจว่า ไม่ได้ทำอะไรไม่ถูกต้อง จบนะ.