สำนักงานสถิติเผยข้อมูลคนจนพบที่อยู่อาศัยคนจนอันดับหนึ่งเป็นบ้านเดี่ยวปูนผสมไม้ แถมพบข้าราชการ และธุรกิจครัวเรือน เอี่ยวเป็นคนจนด้วย ส่วนความต้องการอันดับหนึ่ง คือ ลดค่าน้ำ-ค่าไฟ พร้อมนำเสนอ ครม. 5 ก.ย. นี้ เพื่อนำข้อมูลไปต่อยอดกับหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องต่อไป
นายภุชพงค์ โนดไธสง ผู้อำนวยการสำนักงานสถิติแห่งชาติ (สสช.) เปิดเผยว่า ขณะนี้การสำรวจข้อมูลของผู้ที่มาลงทะเบียนเป็นผู้มีรายได้น้อย ประมาณ 14 ล้านคน เสร็จสิ้นแล้วเกินเป้า 95% จากเดิมที่นายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอี ตั้งเป้าไว้เพียง 80% คาดว่าฉบับสมบูรณ์จะเสร็จสิ้นภายในวันที่ 15 ก.ย.
ทั้งนี้ ในจำนวนดังกล่าวเป็นการเก็บข้อมูลครบถ้วน 74.5% ไม่ครบถ้วน 16.3% และ 4.2% อยู่ระหว่างการบันทึกข้อมูลแบบออฟไลน์เพื่อนำมาส่งต่อไป เนื่องจากระบบการส่งข้อมูลแบบออนไลน์ได้ปิดระบบไปแล้วตั้งแต่วันที่ 20 ส.ค. ที่ผ่านมา ที่เหลือ 5% ไม่ได้ข้อมูล โดยมาจากหลายสาเหตุ เช่น ข้อมูลคนจนไม่ตรงกับบ้านที่ไปสำรวจ, พื้นที่ห่างไกล เข้าถึงลำบาก ตลอดจนไปสำรวจแล้วไม่พบกลุ่มเป้าหมาย โดยจำนวนนี้คิดเป็น 716,625 คน นับว่าเป็นตัวเลขที่น้อยมาก
สำหรับความต้องการของประชาชนที่ลงทะเบียนคนจนนั้น อันดับหนึ่ง ได้แก่ ความต้องการลดค่าบริการสาธารณูปโภค เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ 82% อันดับสอง ได้แก่ การลดภาระสินค้าอุปโภค บริโภค 66.4% อันดับสาม ลดค่ารักษาพยาบาล 47.2 % อันดับสี่ เพิ่มเบี้ยคนชรา 39.6% ที่เหลือ คือ ต้องการให้ลดค่าอุปกรณ์การศึกษาบุตร 30.8% ส่วนสาขาอาชีพที่ลงทะเบียนคนจนนั้น พบว่า อันดับแรก มีอาชีพเป็นเกษตรกร 32% อันดับสอง เป็นลูกจ้างทั่วไป 28.3% อันดับสาม อยู่บ้านไม่ทำงาน 21.4% อันดับสี่ อยู่ระหว่างหางานทำ 9.6% อันดับห้า ประกอบธุรกิจส่วนตัว 4.1% อันดับหก นักเรียน-นักศึกษา 2.7% อันดับเจ็ด ข้าราชการและช่วยที่บ้านทำธุรกิจครัวเรือน 1.5% และสุดท้ายอันดับแปด อาชีพขับรถโดยสาร 0.4% เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ในการสำรวจยังพบอีกหนึ่งข้อสังเกตที่น่าสนใจ คือ ลักษณะที่อยู่อาศัยพบว่า 1. อาศัยบ้านเดี่ยวปูนผสมไม้ 38.3% 2. บ้านเดี่ยวปูนทั้งหลัง 36.1% 3. บ้านไม้ทั้งหลัง 22% 4. ทาวน์เฮาส์ หรือ ตึกแถว 1.7% 5. บ้านสังกะสี 1.3% และ 6. แฟลต อพาร์ตเมนต์ หรือคอนโด 0.6%
“ที่ผ่านมา ทางสำนักงานสถิติแห่งชาติ มีการนำเสนอผลการสำรวจรายงานต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อย่างต่อเนื่องทุกสัปดาห์ และส่งรายงานต่อยังสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) โดยในส่วนของสรุปผลการสำรวจทั้งหมดฉบับย่อ คาดนำรายงานผลเสนอต่อที่ประชุม ครม. ได้ภายในสัปดาห์หน้า และรายงานผลสำรวจฉบับสมบูรณ์คาดนำเสนอได้ภายในเดือนกันยายนนี้ โดยข้อมูลที่ได้รัฐบาลสามารถนำไปต่อยอดกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไปได้”