หลังจากเปิดตัวคุณสมบัติหลักที่งานประชุมนักพัฒนาก่อนหน้านี้ ล่าสุด ระบบปฏิบัติการของกูเกิลเวอร์ชันใหม่ Android Oreo ก็ถูกแจ้งเกิดอย่างเป็นทางการ โดยกลุ่มแรกที่จะได้สัมผัส Android O ก่อนใคร คือ ผู้ใช้สมาร์ทโฟนของกูเกิลเองอย่าง Nexus 5X หรือ 6P ขณะที่ผู้ใช้สมาร์ทโฟนค่ายอื่นจะเริ่มสามารถอัปเดตระบบได้ช่วงก่อนปลายปีนี้
ในวันที่ชาวตะวันตกกำลังตื่นเต้นกับปรากฏการณ์สุริยุปราคา 21 สิงหาคม 2017 กูเกิล (Google) ประกาศชื่อระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์เวอร์ชัน 8 ว่า Android Oreo อย่างเป็นทางการ โดยถือเป็นเวอร์ชันจริง หรือไฟนอลเวอร์ชัน ที่จะถูกส่งไปใช้งานบนอุปกรณ์นานาชนิดต่อไป
อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้งานอุปกรณ์ Android ยังไม่สามารถสัมผัสเวอร์ชันใหม่ในขณะนี้ เพราะยังต้องรอให้ผู้ให้บริการเครือข่าย และค่ายผู้ผลิตสมาร์ทโฟนปรับแต่ง Android เวอร์ชันใหม่ให้เข้ากับสมาร์ทโฟนแต่ละรุ่น ซึ่งเป็นเรื่องที่ชาว Android พบเจอมาตลอด
คนกลุ่มแรกที่จะได้ใช้งาน Android O คือ ผู้ใช้อุปกรณ์แบรนด์กูเกิล เช่น Nexus 5X หรือ 6P รวมถึง Google Pixel และ Pixel XL ซึ่งแม้ว่า กูเกิลจะเป็นผู้พัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับอุปกรณ์กลุ่มนี้ด้วยตัวเอง ทำให้ใช้เวลาไม่นานในการเปิดให้ผู้ใช้อัปเดต แต่ผู้ใช้ก็ยังต้องรอให้ผู้ให้บริการเครือข่ายไร้สาย ตรวจสอบและอนุมัติการอัปเดตครั้งนี้ เพื่อให้แน่ใจว่า คลื่นสัญญาณไร้สายจะทำงานได้ดี และเสถียร
Google จึงระบุว่า การอัปเดตในสมาร์ทโฟนตระกูล Pixel และ Nexus จะเกิดขึ้นในเร็ววันนี้ คำพูดนี้เป็นประโยคเดียวกับที่กูเกิลเคยพูดไว้เมื่อปีที่แล้วสำหรับการเปิดตัว Android Nougat การอัปเดตระบบปฏิบัติการครั้งนั้นเป็นแบบ over-the-air ซึ่งผู้ใช้สามารถอัปเดตได้จากที่ใดก็ได้ ในช่วงเวลา 2-3 สัปดาห์หลังจากที่ระบบเวอร์ชันจริงถูกส่งให้กับนักพัฒนา และค่ายสมาร์ทโฟน ดังนั้น หากอิงกับกรอบเวลาของ Android N ก็เป็นไปได้ว่า การอัปเดต Android Oreo อาจเริ่มต้นตั้งแต่ช่วงปลายเดือนนี้
สมาร์ทโฟนแบรนด์อื่นจะทยอยได้รับอัปเดตก่อนปลายปีนี้ หากสังเกตจากการเปิดตัวแอนดรอยด์เวอร์ชันที่ผ่านมา ฟันธงได้ว่า สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ในตลาดจะแจ้งเกิดพร้อม Android Oreo ก่อนที่ชาวสมาร์ทโฟนจะได้อัปเดตระบบปฏิบัติการของตัวเอง ประเด็นนี้กูเกิลระบุเพียงว่า ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนทั้ง Essential, General Mobile, HMD Global ผู้ผลิตสมาร์ทโฟน Nokia, Huawei, HTC, Kyocera, LG, Motorola, Samsung, Sharp และ Sony จะเปิดตัว หรือเปิดอัปเดตสมาร์ทโฟนเป็น Oreo ในช่วงก่อนปลายปี
สำหรับ Android Oreo ถูกวิจารณ์ว่าไม่ใช่การอัปเดตครั้งใหญ่ที่หวือหวา เหมือนกับที่กูเกิลอัปเดตระบบปฏิบัติการสำหรับอุปกรณ์พกพาของตัวเองในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่ Android Oreo ก็ยังมีการเปลี่ยนแปลงและคุณสมบัติใหม่ที่เป็นประโยชน์ โดยคุณสมบัติที่มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการใช้งานมากที่สุด คือ โหมด Picture-in-picture
Picture-in-picture จะรองรับทั้งการใช้งานวิดีโอ และแอปพลิเคชันอื่น เช่น แผนที่ ทำให้ชาวแอนดรอยด์สามารถชมวิดีโอ หรือทำวิดีโอแชตไปด้วยขณะทำงานอื่นบนสมาร์ทโฟน รวมถึงการเปิดแผนที่ซ้อนหน้าต่างขณะอ่านอีเมล อย่างไรก็ตาม คุณสมบัติ Picture-in-picture ไม่ค่อยเรียกเสียงว้าว เพราะคุณสมบัตินี้แจ้งเกิดแล้วในสมาร์ทโฟนตระกูลแกแล็กซี่ของซัมซุงบางรุ่น
คุณสมบัติใหม่ของ Android Oreo ยังมีระบบ copy/paste แบบใหม่ จุดเด่น คือ ความสามารถพยากรณ์ หรือคาดเดาได้อัตโนมัติว่า ข้อความใดที่ผู้ใช้อาจต้องการคัดลอก เช่น ข้อมูลที่อยู่ หรือข้อความอื่นที่ระบบการเรียนรู้ของเครื่อง (machine learning) พบว่า ผู้ใช้มักคัดลอกข้อมูลนี้บ่อยครั้ง
Android Oreo ยังเพิ่มให้ผู้ใช้ใส่ข้อมูลอัตโนมัติในเบราว์เซอร์โครม (Chrome autofill) โดยที่ระบบสามารถจดจำรหัสผ่าน และข้อมูลอื่น ช่วยให้ผู้ใช้กดลงชื่อใช้งานแอปพลิเคชันได้ในคลิกเดียว
ขณะเดียวกัน Android O ปรับใหม่ให้ชาวแอนดรอยด์สามารถดาวน์โหลดหลายแอปพลิเคชันพร้อมกันโดยไม่ต้องรอให้ระบบติดตั้งแอปพลิเคชันจนเสร็จ Instant Apps ถือเป็นอีกคุณสมบัติหลักที่จะเปิดให้ใช้งานได้บนอุปกรณ์แอนดรอยด์หลายร้อยล้านชิ้นทั่วโลก
