เซลฟี่ คือ การถ่ายภาพตัวเอง แต่ผู้ผลิตโทรศัพท์สัญชาติฟินแลนด์ ผู้สืบทอดแบรนด์โนเกีย (Nokia) หันมาชูคำว่า “โบธี” ว่าเป็นคุณสมบัติเด่นในสมาร์ทโฟนใหม่ “Nokia 8” ซึ่งเป็นรุ่นแรกของค่ายที่วางจุดขายในฐานะสมาร์ทโฟนระดับเหนือกว่าเดิม
เอชดีเอ็มโกลบอล (HMD Global) เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุด ที่ใช้แบรนด์อดีตยักษ์ใหญ่ Nokia 8 เมื่อวันพุธที่ 16 สิงหาคมที่ผ่านมา ตามความคาดหมาย Nokia 8 ไม่ต่างจากสมาร์ทโฟนเรือธงของบริษัทใหญ่ ที่อัดแน่นทั้งชุดชิปประมวลผลสุดทึ่ง หน้าจอคมชัด และกล้องหลังคู่
ความพิเศษใน Nokia 8 คือ สิ่งที่ HMD เรียกว่า ดูอัลไซต์ “Dual-Sight” ความสามารถนี้ คือ การเปิดให้ผู้ใข้ถ่ายภาพจากกล้องด้านหน้าและหลังได้พร้อมกัน ภาพที่ได้ คือ ภาพที่แบ่งเป็น 2 ซีกซ้ายขวาสำหรับกล้องแต่ละตัว
ถึงบรรทัดนี้หลายคนอาจแย้งว่า Dual-Sight ของ Nokia 8 ไม่ต่างจากความสามารถที่มีในสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นเมื่อหลายปีมาแล้ว แต่ประเด็นนี้ HMD ยืนยันว่า ไม่ใช่ เพราะโหมด Dual-Sight ของ Nokia 8 จะเป็นภาพเคลื่อนไหวที่ผู้ใช้จะสามารถถ่ายทอดสดได้ทันใจจากทั้งกล้องหน้าและหลัง นี่จึงเป็นที่มาของคำว่า “bothie” ที่ถูกชูให้โดดเด่นในการตลาดของ Nokia 8
ผู้ใช้ Nokia 8 จะได้เห็นไอคอนถ่ายสด หรือ “Live” บริเวณมุมขวาบนของหน้าจอ เมื่อกดแล้ววิดีโอถ่ายสดจะถูกส่งไปที่เครือข่ายสังคมอย่างเฟซบุ๊ก (Facebook) และยูทูป (YouTube) โดยตรงจากแอปพลิเคชันกล้องของ Nokia 8 นี่เองที่ทำให้มีการยกคุณสมบัตินี้ว่า เป็นจุดขายหลักของ Nokia 8 แม้ว่าจะเป็นจุดขายที่ไม่ได้มีความพิเศษด้านเทคโนโลยีที่น่าตื่นใจ
กิมมิกของ Nokia 8 เชื่อว่าจะตอบโจทย์ผู้นิยมวิดีโอรูปแบบใหม่บน YouTube ที่มีชื่อว่า รีแอ็กชันวิดีโอ “reaction video” ซึ่งเป็นวิดีโอที่มักถ่ายจากงานกีฬา งานอีเวนต์ หรือคอนเสิร์ต คุณสมบัตินี้ทำให้ผู้ถ่ายสามารถเก็บภาพอารมณ์ประทับใจของตัวเองไว้พร้อมกับภาพสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าได้แบบไม่ต้องพึ่งพาการตัดต่อ หรือใช้กล้องหลายตัว
ไม่แน่ ศัพท์ใหม่จาก Nokia 8 อย่าง bothie อาจจะมาแรงตามรอย selfie ก็ได้ใครจะรู้.