หญิงรายหนึ่งถูกจับข้อหาพยายามลักลอบนำไอโฟน 102 เครื่องเข้าสู่ประเทศจีน โดยการรัดเครื่องทั้งหมดไว้กับร่างกายตัวเอง ไม่เพียงไอโฟนเกินร้อยเครื่อง ยังมีนาฬิกายี่ห้อดังอีก 15 เรือนซึ่งเจ้าหน้าที่จีนพบว่า หญิงรายนี้พยายามลักลอบนำเข้าจากฮ่องกงด้วย
เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ศุลกากรในเซินเจิ้น ประเทศจีน ได้จับกุมหญิงรายหนึ่งในข้อหาลักลอบนำไอโฟนเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย โดยไอโฟนทั้งหมดมีน้ำหนักมากกว่า 40 ปอนด์ ถูกนำมาจัดเก็บตามลำตัวทั่วร่างกาย จุดนี้ข้อมูลตามรายงานของเว็บไซต์ข่าวจีน XMNN ระบุว่า หญิงรายนี้สามารถทำสถิติลักลอบนำเครื่องเข้าประเทศมากสุดเท่าที่ศุลกากรเซินเจิ้นเคยตรวจได้
the girl-attempted to smuggle 102 iPhone smartphones and 15 luxury Tissot watches from Hong Kong to China ended in failure pic.twitter.com/FKrWkVLkNb
— rajiv (@rajbindas86) July 15, 2017
รายงานชี้ว่า ไอโฟนทั้ง 102 เครื่อง และนาฬิกายี่ห้อทิซซอต (Tissot) จำนวน 15 เครื่องที่หญิงรายนี้ลักลอบนำติดตัวเข้าประเทศนั้น คิดเป็นจำนวนมากกว่าปกติที่ศุลกากรเซินเจิ้น มักพบที่ราว 70 หรือ 80 เครื่องเท่านั้น (เฉพาะไอโฟน) โดย XMNN ตั้งข้อสังเกตว่า ขบวนการลักลอบนำไอโฟนเข้าประเทศจีนนี้เกิดขึ้น เพราะไอโฟนในจีนแผ่นดินใหญ่มีราคาสูงมากกว่าในฮ่องกง ดังนั้น พ่อค้าหัวใสจึงสามารถขายได้เพื่อหากำไรเมื่อขนส่งจากที่อื่น
กรณีของหญิงรายนี้ เธอนำไอโฟนวางรอบร่างกายแล้วซ้อนผ้าแนบเนื้อ วิธีนี้ทำให้ไอโฟนสามารถผูกติดกับลำตัวของเธอได้ ทั้งหมดสามารถทำต่อเนื่องได้ 4 ชั้น จุดนี้เว็บไซต์ XMNN ชี้ว่า เจ้าหน้าที่ศุลกากรสังเกตเห็น เพราะหญิงรายนี้มองเหมือนสวมใส่เสื้อผ้าหลายชั้นสวนทางกับสภาพอากาศที่ร้อนจัด ต้องยกความดีให้ความช่างสังเกตของเจ้าหน้าที่ศุลกากรที่กล่าวว่า ลำตัวของเธอมองไม่สมส่วนกับแขน และขาที่ “ค่อนข้างบาง”
เพื่อยืนยันข้อสงสัย เจ้าหน้าที่ศุลกากรจึงพาเธอผ่านเครื่องตรวจจับโลหะ ซึ่งระบุว่า “พบวัตถุโลหะมากมาย" ในตัวเธอ
สำหรับไอโฟนที่หญิงรายนี้ลักลอบนำประเทศจีน ส่วนใหญ่เป็น iPhone 6 หรือ iPhone 6s ไม่ใช่ iPhone 7 ซึ่งเป็นรุ่นล่าสุด ส่วนหนึ่งเป็นเพราะราคาลักลอบนำเข้าต่อน้ำหนักที่แตกต่างกันเมื่อเทียบกับรุ่นเก่า