วงการแมทชีนเลิร์นนิง (Machine Learning) อาจต้องจับตามองอีกครั้ง เมื่อทีมดีปมายด์ (DeepMind) จากอัลฟาเบ็ท (Alphabet) บริษัทแม่ของกูเกิล (Google) ได้ขยายสำนักงานออกนอกกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษแล้วเป็นครั้งแรก โดยครั้งนี้บินไกลไปถึงแคนาดาเลยทีเดียว
โดยที่ผ่านมา แม้จะถูกซื้อกิจการโดยกูเกิล ตั้งแต่ปี 2014 แต่ทีม DeepMind ก็ยังคงยึดฐานที่มั่นในอังกฤษไว้อย่างเหนียวแน่น และมีความร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ ของอังกฤษมาโดยตลอด เช่น NHS ตลอดจนถึงการไปช่วยสอนตามมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ทั่วประเทศ
แต่ล่าสุด ทีม DeepMind ได้ตัดสินใจเปิดตัวออฟฟิศใหม่แล้วที่เมือง Edmonton ประเทศแคนาดา ซึ่งที่นี่มีทีมนักวิจัยปัญญาประดิษฐ์ (AI) รวมตัวกันอยู่ที่มหาวิทยาลัยอัลเบอร์ตา ซึ่งที่ผ่านมา ทางบริษัทก็ได้ให้การสนับสนุนมหาวิทยาลัยในการสร้างแล็บเกี่ยวกับ Machine Learning มานานหลายปีแล้วด้วย
โดยในช่วงแรกของการเปิดตัวนั้น จะมีนักวิจัยเข้ามาร่วมทีมประมาณ 7 คน
สื่ออย่าง The Verge รายงานด้วยว่า สาเหตุที่ DeepMind ตัดสินใจไม่เข้าไปเปิดออฟฟิศในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นถิ่นของบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่จำนวนมากนั้น ส่วนหนึ่งมาจากการที่รัฐบาลแคนาดามีนโยบายที่เป็นมิตรต่อบริษัทผู้พัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์มากกว่ารัฐบาลของสหรัฐอเมริกานั่นเอง
โดยรัฐบาลแคนาดาได้แสดงความจริงใจด้วยการประกาศเพิ่มงบประมาณในการสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมปัญญาประดิษฐ์ภายในประเทศเป็นเงินถึง 100 ล้านเหรียญสหรัฐในปีนี้ ซึ่งตรงข้ามกับประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เลือกที่จะตัดงบด้านการแพทย์ และการวิจัยวิทยาศาสตร์ลง คิดเป็นตัวเลข 776 ล้านเหรียญสหรัฐ ที่จะถูกตัดออกจากงบประมาณที่มอบให้แก่ National Science Foundation
นอกจากนั้น รัฐบาลแคนาดายังเปิดกว้างเรื่องวีซ่าให้คนต่างชาติเข้ามาทำงานได้มากกว่าสหรัฐอเมริกา โดยมาตรการแบนแรงงานต่างชาติของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีผลให้แรงงานด้านเทคโนโลยี และกลุ่มที่มีความอัจฉริยะในด้านต่าง ๆ มีอุปสรรคมากขึ้นในการเข้ามาทำงานในสหรัฐอเมริกา
การมีทัศนคติต่อเทคโนโลยีที่สวนทางกันอย่างชัดเจน ทำให้แคนาดากลายเป็นประเทศที่น่าสนใจมากขึ้นสำหรับบริษัทเทคโนโลยี และนั่นอาจบั่นทอนโอกาสที่จะทำให้สหรัฐอเมริการักษาตำแหน่งผู้นำในอนาคตได้อย่างยั่งยืนก็เป็นได้