xs
xsm
sm
md
lg

ดีเดย์เปิด AIS D.C. 13 ก.ค. แหล่งเรียนรู้ใหม่ของเหล่าสตาร์ทอัป

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


“เอไอเอส” มองการแข่งขันครึ่งปีหลังรุนแรงต่อเนื่อง แต่มั่นใจแนวทางทำตลาดที่มุ่งสู่การให้บริการดิจิทัลจากการเพิ่มคอนเทนต์ และบริการที่หลากหลาย ล่าสุด จับมือTCDC เตรียมเปิดให้บริการ AIS D.C. อย่างเป็นทางการ 13 ก.ค.2560 คาดเพิ่มปริมาณสมาชิก 2 เท่า

นายปรัธนา ลีลพนัง รักษาการหัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการตลาด บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส กล่าวว่า การแข่งขันในอุตสาหกรรมตอนนี้ถือว่าเป็นโมเมนตัมจากในไตรมาส 1 ที่เอไอเอส จะเพิ่มคอนเทนต์ แพกเกจ และบริการต่อเนื่อง ตามแผนที่วางไว้ และคาดว่าจะมีการแข่งขันที่ต่อเนื่องดุเดือดเหมือนเดิม ส่วนการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนต้องรอดูปีหน้าที่จะมีการประมูลคลื่นใหม่ๆ เข้ามา

“ตอนนี้แต่ละแบรนด์จะวางโพสิชันแตกต่างกัน ที่เอไอเอสจะมุ่งเน้นการเป็น Digital Service Provider จากการให้บริการโมบาย บรอดแบนด์ และคอนเทนต์ ดีแทค จะเน้นที่ความง่ายในการใช้งาน ทรูมูฟ เอช ก็เน้นการขยายส่วนแบ่งตลาดจากสินค้าที่มีความหลากหลาย”

ส่วนสภาพตลาดของผู้ใช้โทรศัพท์มือถือในประเทศไทย มีปริมาณผู้ใช้สูงกว่าจำนวนประชากรราว 130% ดังนั้น ในการเชื่อมต่อกับลูกค้า โอเปอเรเตอร์ต้องเน้นการเพิ่มความสะดวกให้ลูกค้ามีความพร้อมในการเข้าถึงสินค้า และบริการ

ขณะเดียวกัน เอไอเอส จะสร้างสรรค์ประโยชน์จากคอนเทนต์ และบริการให้ลูกค้าในยุคที่อินเทอร์เน็ตเติบโตอย่างต่อเนื่อง ไม่ได้ขึ้นอยู่กับราคา แต่เป็นการเพิ่มบริการดิจิทัล คลาวด์ และ IoT มาให้บริการลูกค้ามากกว่า

“ปริมาณการเข้าถึงดาต้าของผู้ใช้ในปัจจุบันเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตอนนี้เฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่ราว 5-6 GB เพิ่มขึ้นจากราว 4 GB ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากการมาของคอนเทนต์วิดีโอ”

นอกจากนี้ เอไอเอส ยังมีการลงทุนต่อเนื่องเพื่อสนับสนุนสตาร์ทอัป อย่างการให้บริการ “AIS D.C.” (AIS Design Centre) จะกลายเป็นที่แรกที่บุคคลภายนอก หรือคนที่อยากจะเริ่มธุรกิจสตาร์ทอัป สนใจเรื่องเทคโนโลยี และดีไซน์ จะได้เข้ามาค้นหาความรู้ และสัมผัสของจริง

“แนวคิดที่ตกลงกับทางทีซีดีซี คือ อยากจะลองให้สร้างห้องสมุดที่เป็นคอมมูนิตี สามารถพูดคุยกันได้ พร้อมๆ กับการเป็นโคเวิร์กกิ้งสเปซ (Co-Working Space) มีห้องประชุมให้บริการ มีคอร์สสัมมนาที่จะให้ความรู้เกี่ยวกับสตาร์ทอัปใน 3 ส่วนด้วยกัน คือ เกี่ยวกับธุรกิจ เทคโนโลยี และดีไซน์ ที่จะประกาศในช่วงเปิดตัวอย่างเป็นทางการ 13 ก.ค.”

ประกอบกับในช่วงที่ผ่านมา เอไอเอส เริ่มโครงการ Digital For Thais การเปิดให้บริการนี้ ก็จะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้าง Digital Human Capital ที่มีประสิทธิภาพครบทุกด้าน พร้อมสร้างสรรค์นวัตกรรมมามอบให้แก่ลูกค้าคนไทย และเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศต่อไป

ในแง่ของการลงทุน ถือว่าเป็นการขยายออฟฟิศ ไม่ได้ใช้งบประมาณที่สูงมากแต่ไม่สามารถเปิดเผยงบลงทุนได้ ซึ่งเอไอเอส มองว่า ด้วยสถานที่ที่อยู่ใจกลางเมือง เดินทางสะดวก มีฐานผู้ใช้งานอยู่เดิม จึงกลายเป็นการลงทุนต่อเนื่องจากแผนงานเดิมมากกว่า และคาดว่าจะมีสมาชิกสมัครใช้งานเพิ่มขึ้น 2 เท่า

สำหรับค่าบริการในการเข้าใช้สถานที่ จะมีทั้งแบบรายวัน 150 บาท/คน และสมาชิกรายปี แบ่งเป็นบุคคลทั่วไป ราคา 1,200บาท/คน นักเรียน/นักศึกษา ราคา 600 บาท/คน จากราคาปกติ 3,000 บาท/คน และค่าห้องประชุมเริ่มต้นที่ 150 บาท/ชั่วโมง สำหรับ 4 ที่นั่ง ไปจนถึง 250 บาทต่อชั่วโมง 8-10 ที่นั่ง และสตูดิโอถ่ายภาพ 500 บาท/ชั่วโมง

การเปิดให้สตาร์ทอัปที่พัฒนาแอปพลิเคชัน จะมีพื้นที่ให้เหล่านักพัฒนาสามารถเชื่อมชุดคำสั่ง (API) เข้ากับแพลตฟอร์มดิจิทัลของเอไอเอส ในการทดสอบให้บริการ ทั้งระบบชำระค่าใช้บริการ ระบบสิทธิพิเศษPrivilege ระบบส่งข้อความถึงลูกค้า และดีไวซ์ที่หลากหลาย ภายใน AIS Playground

ทั้งนี้ AIS D.C. จะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการสำหรับประชาชน ตั้งแต่วันที่ 13 ก.ค.2560 เป็นต้นไป ที่ศูนย์การค้าเอ็มโพเรียม ชั้น 5 (TCDCเดิม) พร้อมจัดกิจกรรมพิเศษ ระหว่างวันที่ 13-16 ก.ค. 2560 ให้คนทั่วไปได้เข้าร่วมสนุก และเปิดโลกแห่งไอเดียกับงาน Art Market ออกร้านสินค้าที่เต็มไปด้วยดีไซน์ และศิลปะสุดแนว Workshop และ Talk สุดคูลที่คนรุ่นใหม่พลาดไม่ได้


กำลังโหลดความคิดเห็น