xs
xsm
sm
md
lg

เทสล่า มีแนวโน้มเปิดโรงงานในจีนสูง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ภาพจากรอยเตอร์
เทสล่า (Tesla) ออกมายืนยันแล้วว่า อยู่ระหว่างการเจรจากับรัฐบาลจีนในการเปิดโรงงานผลิตรถยนต์ในนครเซี่ยงไฮ้ โดยโรงงานแห่งนี้จะเป็นอีกหนึ่งในส่วนผลักดันให้เป้าหมายของซีอีโออย่างอีลอน มัสก์ ที่จะผลิตรถยนต์ 500,000 คันให้ได้ภายในปี 2018 ประสบความสำเร็จ

ทั้งนี้ ยังไม่มีความชัดเจนว่า เทสล่าจะต้องจับมือกับบริษัทรายใดในจีน เพื่อตอบสนองนโยบายของรัฐบาลจีนที่กำหนดให้บริษัทจากต่างประเทศที่ต้องการมาตั้งโรงงานในจีนจะต้องอยู่ในรูปแบบ Joint Venture และบริษัทจากต่างประเทศจะต้องถือหุ้นไม่เกิน 50 เปอร์เซ็นต์ด้วย โดยในตอนนี้เทสล่า มีเพียงบริษัทจีนอย่างเทนเซ็นต์ ที่ถือหุ้นอยู่ 5 เปอร์เซ็นต์ หรือคิดเป็นมูลค่า 1.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ เท่านั้น

โดยสำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า เทสล่า เผยว่า การสร้างโรงงานเทสล่าในจีนจะมีความชัดเจนภายในสิ้นปี 2017 และจากการออกมาแถลงข่าว ทำให้หุ้นของเทสล่ากระเตื้องขึ้นอีก 1.8 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 382 เหรียญสหรัฐ

โดยทุกวันนี้ เทสล่าผลิตรถยนต์ทั้งหมดในสหรัฐอเมริกา แต่จากการที่บริษัทมีเป้าหมายว่า จะผลิตรถยนต์เพิ่มขึ้นเป็น 500,000 คันต่อปีให้ได้ หรือเท่ากับเพิ่มขึ้น 6 เท่า เมื่อเทียบกับกำลังผลิตในปัจจุบัน เพื่อเจาะตลาดยุโรป และเอเชีย ก็ทำให้เทสล่าจำเป็นต้องเปิดโรงงานในต่างแดนเพิ่ม

ซึ่งการตั้งโรงงานในจีน อาจทำให้เทสล่า บรรลุเป้าหมายของการผลิตรถยนต์ในปริมาณมาก ๆ แต่สิ่งหนึ่งที่จะตามมาก็คือ ภาษี 25 เปอร์เซ็นต์สำหรับการนำเข้ามาขายในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดของเทสล่าในปัจจุบัน จะมีผลทำให้ราคารถยนต์เทสล่าเพิ่มขึ้นอีกมาก และเป็นภาระของผู้บริโภค

โดยข่าวดีลระหว่างเทสล่า กับจีนนั้น เริ่มมีความชัดเจนขึ้นในเดือนเมษายนที่ผ่านมา เมื่อซีอีโออีลอน มัสก์ (Elon Musk) เดินทางไปพบกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนแบบกระทันหัน และไม่มีในกำหนดการมาก่อน

สำหรับเทสล่าในจีนนั้น ต้องถือว่าในระยะเริ่มต้นไม่ได้เติบโตอย่างสวยหรู โดยเทสล่า เริ่มต้นด้านยอดขายอย่างยากลำบากในปี 2014 และมีการลงทุนตั้งสถานีชาร์จไฟที่รู้จักกันในนามซูเปอร์ชาร์จเจอร์อย่างหนัก ก่อนจะมาประสบความสำเร็จในปี 2016 ที่มียอดขายทะลุ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ สูงกว่าปี 2015 ถึงสามเท่า

อย่างไรก็ดี ทุกวันนี้ตลาดที่ใหญ่ที่สุดของเทสล่า ยังคงเป็นตลาดสหรัฐอเมริกา แต่จีนก็ถือเป็นโอกาสครั้งใหญ่ที่เทสล่าไม่อยากพลาด โดยส่วนหนึ่งมาจากการที่จีนต้องการปรับปรุงสภาพอากาศให้สะอาดขึ้น จึงนำไปสู่การหันมาสนับสนุนให้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า หรือรถยนต์ไฮบริดจ์ ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางของเทสล่าอย่างมากนั่นเอง

ส่วนประเด็นว่า รถยนต์รุ่นใดที่จะนำไปผลิตหากโรงงานแห่งนี้ได้ฤกษ์ถือกำเนิดขึ้นจริงในจีนนั้น ก็ยังไม่มีการเปิดเผยเช่นกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น