ยังโตไม่หยุดสำหรับอีคอมเมิร์ซจีน “อาลีบาบา” (Alibaba Group Holding Ltd) ล่าสุด ประธานฝ่ายการเงินของเจ้าพ่อแดนมังกร เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า รายได้ของอาลีบาบา จะเติบโตขึ้นอีก 45-49% ในปีการเงิน 2018
แมกกี้ หวู (Maggie Wu) ประธานฝ่ายการเงินอาลีบาบา ให้ข้อมูลตัวเลขคาดการณ์ผลประกอบการของบริษัทในงานประชุมผู้ถือหุ้น ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองหางโจว ประเทศจีน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา
อัตราเติบโตสูงสุด 49% นี้ถือว่าน้อยกว่า 56% ที่อาลีบาบา ทำได้ในปีนี้ (ปีการเงิน 2017 ของอาลีบาบา สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2017) แต่ก่อนหน้านี้ อาลีบาบา คาดว่า จะมีรายได้เติบโต 48% มาก่อน สะท้อนว่า ผลประกอบการจริงในปีหน้าอาจจะสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์เช่นที่เป็นในปีนี้
นอกจากตัวเลขรายได้รวมปีหน้าที่เพิ่มขึ้น อาลีบาบา เพิ่งประกาศว่า รายได้รวมของบริษัททะลุแซงหน้าเป้าหมายรายได้ไตรมาสแรกไปแล้ว แต่ตัวรายได้นั้น ต่ำกว่าที่มีการประเมินไว้ เนื่องจากอัตราภาษีท้องถิ่นที่เปลี่ยนแปลง ขณะเดียวกัน ก็มีการประกาศโครงการซื้อคืนหุ้น มูลค่า 6 พันล้านเหรียญสหรัฐ
รายได้รวมของอาลีบาบานั้น ไม่ได้เพิ่มขึ้นเฉพาะในส่วนธุรกิจอีคอมเมิร์ซ แต่ธุรกิจออนไลน์อื่นในเครือมีการเติบโตต่อเนื่อง อาลีบาบายังมุ่งขยายธุรกิจใหม่ในสายปัญญาประดิษฐ์ (artificial intelligence), บิ๊กดาต้า และคลาวด์คอมพิวติง (big data และ cloud computing) ทำให้มูลค่าหุ้นเพิ่มขึ้นกว่า 40% ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา
ความเคลื่อนไหวของอาลีบาบา ในช่วงก่อนหน้านี้ คือ แจ็ก หม่า (Jack Ma) เจ้าพ่อผู้ก่อตั้งอาลีบาบา ขึ้นเวทีวิจารณ์ “อัลฟาโกะ” (AlphaGo) ว่า เป็นเรื่องไร้ประโยชน์ ไม่มีความหมาย โดยใช้เวทีงาน Big Data Expo ที่ประเทศจีน ประกาศเตือนให้นักพัฒนาอย่าเสียเวลาพัฒนาอะไรแบบ AlphaGo เนื่องจากระบบอัจฉริยะควรจะมีความสามารถที่มนุษย์ทำไม่ได้ ไม่ใช่สร้างระบบขึ้นมาเพื่อแข่งกับมนุษย์เอง