เจ้าพ่อผู้ผลิตรถแดนอาทิตย์อุทัย “ฮอนด้า” (Honda Motor Co) เปิดเผยถึงแผนพัฒนารถขับเคลื่อนตัวเองที่ไม่ต้องใช้คนขับ สำหรับแล่นในเมืองเป็นครั้งแรก ขีดเส้นปี 2025 พร้อมส่งลงถนนทั่วไป ไม่ใช่เฉพาะบนทางด่วน นอกจากนี้ ยังจัดเต็มทีมพัฒนาหุ่นยนต์ และยานยนต์ไฟฟ้าต่อเนื่องอย่างน้อยถึงปี 2030
ทากาฮิโระ ฮาชิโกะ (Takahiro Hachigo) ซีอีโอฮอนด้า กล่าวระหว่างการเปิดเผยกลยุทธ์แผนงานในช่วง 10 ปีนับจากนี้ (Vision 2030) ว่า บริษัทจะเน้นผสานหลายส่วนงานเข้าด้วยกันเพื่อให้บริษัทสามารถเพิ่มศักยภาพการแข่งขันในอนาคต ทั้งด้านงานวิจัยและพัฒนา งานวางแผน และงานผลิต รวมถึงการควบคุมต้นทุนในวันที่โลกต้องการรถรุ่นใหม่ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าแทน และเป็นรถที่ขับเคลื่อนตัวเองได้
ก่อนหน้านี้ ฮอนด้าเคยประกาศแผนพัฒนารถที่สามารถขับเคลื่อนตัวเองบนทางด่วน หรือไฮเวย์ (highway) ให้ได้ช่วงปี 2020 แต่กรอบเวลาใหม่นั้น เป็นเป้าหมายสำหรับรถขับเคลื่อนตัวเองสำหรับแล่นในเมือง ซึ่งพบว่า เป็นช่วงเวลาที่ช้ากว่าคู่แข่งหลายค่าย
บีเอ็มดับลิว (BMW) เคยประกาศแผนจำหน่ายรถขับเองอัตโนมัติปี 2021 ขณะที่ฟอร์ด (Ford Motor Co) ระบุว่า จะเปิดตัวรถขับเคลื่อนตัวเองเพื่อบริการร่วมเดินทาง หรือ ride-sharing ในปีเดียวกัน ด้านนิสสัน (Nissan Motor Co) วางแผนเปิดตัวรถไร้คนขับที่สามารถวิ่งบนถนนในเมืองได้ช่วงปี 2020
นอกจากคำยืนยันว่า จะพัฒนาระบบเครื่องยนต์พลังงานไฟฟ้า และเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูง ซีอีโอฮอนด้า ยังระบุว่า บริษัทจะเน้นพัฒนาเทคโนโลยีขับเคลื่อนแบบใหม่ เทคโนโลยีหุ่นยนต์ และบริการด้านปัญญาประดิษฐ์ รวมถึงโซลูชันด้านพลังงานต่อเนื่องในช่วงหลายปีนับจากนี้ โดยงบวิจัยและพัฒนาปีการเงิน 2017 มีมูลค่ากว่า 7.5 แสนล้านเยน หรือประมาณ 2.3 แสนล้านบาท
การประกาศแผนเหล่านี้เกิดขึ้นหลังจากฮอนด้า เพิ่งเปิดแผนกงานใหม่เมื่อปีที่แล้ว แผนกงานนี้เน้นพัฒนายานยนต์ไฟฟ้า (EV) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายพัฒนาระบบไฮบริดใช้น้ำมันน้อย และยานยนต์ที่ใช้ไฮโดรเจนเป็นเชื้อเพลิง ให้มีสัดส่วนราว 2 ใน 3 ของสายการผลิตรถฮอนด้า ในปี 2030 จากปัจจุบันที่คิดเป็นสัดส่วน 5% เท่านั้น