แอลจี เปิดตัวจอดิจิตอลเชิงพาณิชย์ 4 รุ่นใหม่ ตอกย้ำผู้นำในตลาด หวังเจาะกลุ่มศูนย์การค้าระดับลักชัวรี่ และธุรกิจขนส่งมวลชน ตั้งเป้ามาร์เกตแชร์เพิ่มจาก 33% ในปีนี้เป็น 38% ในปีหน้า
นายวิญญู กล่อมเกล้า (คนซ้าย) ผู้จัดการกลุ่มผลิตภัณฑ์อินฟอร์เมชั่น ดิสเพลย์ บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ แอลจี กล่าวว่า ตลาดจอดิจิตอลเชิงพาณิชย์ (Digital Signage) ปี 2560 จะมีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 800-900 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตที่ 20% และแอลจี ยังคงครองอันดับ 1 ในตลาดที่สัดส่วน 33% ในปี 2559 และจะเพิ่มเป็น 38% ในปีหน้า เนื่องจากอุตสาหกรรมต่างๆ ต้องการยกระดับประสบการณ์การนำเสนอคอนเทนต์ให้กับลูกค้า ขณะที่แอลจีเองก็ออกผลิตภัณ์ให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ามากที่สุด
นอกจากนี้ แอลจียังมีพันธมิตร หรือ System Integrators (SI) ที่จะนำเสนอโซลูชั่นครบวงจรให้แก่ลูกค้า พร้อมบริการหลังการขายที่ดูแลอย่างทั่วถึงด้วยทำให้สามารถนำเสนอโซลูชั่นที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าได้ โดยปัจจุบัน แอลจีมีพันธมิตรดังกล่าวจำนวนกว่า 100 ราย และคาดว่าปีหน้าจะเพิ่มอีก 20% ซึ่งจะเพิ่มในสัดส่วนที่สอดคล้องกับการเติบโตของบริษัทในแต่ละปี โดยปีหน้าบริษัทมั่นใจว่า จะสามารถเติบโตได้ 20% ทั้งนี้ พันธมิตรของแอลจีจะต้องเป็นผู้มีทักษะ ความรู้ และประสบการณ์ในการสร้างโซลูชั่นให้เหมาะกับลูกค้าด้วย
ขณะเดียวกัน ในแง่ของผลิตภัณฑ์ นอกจากแอลจี มีการออกสินค้าที่หลากหลายแล้ว แอลจีจะเน้นการเปิดผลิตภัณฑ์สำหรับศูนย์การค้าระดับลักชัวรี่ ธุรกิจขนส่งมวลชน ซึ่งนับเป็นลูกค้าในสัดส่วนถึง 50% ที่ใช้ผลิตภัณ์ของแอลจี เช่น สนามบิน หรือสถานีรถไฟฟ้า รวมถึงสถานที่ต่างๆ ที่เป็นแลนด์มาร์กสำหรับนักท่องเที่ยวเพื่อเพิ่มความน่าสนใจให้กับคอนเทนต์ที่นำเสนอ โดยล่าสุด แอลจีเปิดตัวผลิตภัณฑ์ “LG OLED Digital Signage” 4 รุ่น ประกอบด้วย
1.รุ่น OPEN-FRAME ที่ได้รับการดีไซน์แบบไร้ขอบ สามารถดัดโค้งได้ตามต้องการ ให้ผู้ใช้ต่อยอดการใช้งานได้อย่างอิสระตามความคิดสร้างสรรค์ มอบประสบการณ์รับชมที่เสมือนจริง เปรียบได้กับงานศิลปะชั้นยอดที่นำมาจัดแสดงเป็นแลนด์มาร์กให้กับสถานที่แห่งนั้นได้อีกด้วย และยังสามารถนำหน้าจอมาต่อกัน เพื่อสร้างหน้าจอที่มีรูปร่างเหมาะกับการใช้งานในแต่ละสถานที่
2.รุ่น DUAL-VIEW CURVED มาพร้อมดีไซน์บางโฉบเฉี่ยว โค้งมน และความสามารถในการแสดงผลหน้าจอพร้อมกันทั้งสองด้านในคราวเดียว โดยยังสามารถนำหน้าจอมาต่อกัน เพื่อสร้างมุมมองการรับชมที่แปลกใหม่ และด้วยหน่วยความจำที่มากถึง 128 GB จึงไม่ต้องอาศัยเครื่องเล่นวิดีโอในการเล่นซ้ำ หรือการเชื่อมต่อจากอุปกรณ์เสริมอื่นๆ
3.รุ่น DUAL-VIEW FLAT หน้าจออัจฉริยะดีไซน์บางเฉียบ 2 จอ รวมกันเพียง 8 มิลลิเมตร สามารถแสดงผลภาพสีสันคมชัดไร้ที่ติ บนสองหน้าจอได้พร้อมกันทั้งสองด้าน ด้วยคอนเทนต์ที่แตกต่างกัน และยังเลือกจัดวางได้หลากหลายรูปแบบตามจุดประสงค์ของการใช้งาน ทั้งแนวตั้ง แนวนอน แขวนติดผนัง หรือแขวนบนเพดาน
4.รุ่น WALLPAPER กับนวัตกรรมอันเหนือชั้นที่มาพร้อมความบางเพียง 3.7 มิลลิเมตร ช่วยประหยัดพื้นที่ และเหมาะที่จะนำไปติดตั้งภายในร้านค้าต่างๆ โดยหน้าจอยังมีความยืดหยุ่น เปิดโอกาสให้ปรับการใช้งานได้หลากหลาย อาทิ ดัดแปลงเพื่อแนบหน้าจอรอบเสา เพื่อมอบมุมมองที่กว้างขึ้น
“การเปิดตัวหน้าจอดิจิตอลเชิงพาณิชย์ LG OLED Digital Signage ในครั้งนี้ ตอกย้ำความมุ่งมั่น และไม่หยุดนิ่งของแอลจี ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มาพร้อมนวัตกรรมใหม่ๆ ถือเป็นการปฏิวัติวงการผลิตภัณฑ์จอดิจิตอลเชิงพาณิชย์ในประเทศไทย ด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยที่ส่งเสริมประสิทธิภาพในการแสดงผลภาพที่คมชัดสมจริง เหนือกว่าจอดิจิตอลเชิงพาณิชย์ในปัจจุบัน รวมถึงการนำเสนอโมเดลที่หลากหลายเพื่อให้ผู้ประกอบการนำเสนอคอนเทนต์ และสื่อสารกับกลุ่มลูกค้าในวงกว้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ”