เบนคิว ชี้โปรเจกเตอร์ไฮเอนด์ช่วยดันยอดขาย

เบนคิว เผยโปรเจกเตอร์ดันยอดขายรวมสิ้นปี 700 ล้านบาท แม้ภาวะเศรษฐกิจซบเซา เผยโครงการภาครัฐ และสถานศึกษาช่วยกระตุ้นยอด ชูกลยุทธ์ออกสินค้าไฮเอนด์ ล่าสุด เปิดตัวโฮมเธียเตอร์โปรเจกเตอร์ 4K ราคา 2 แสนกว่าบาท

นายพัทธกร พรศิริธิเวช ผู้จัดการใหญ่ประจำประเทศไทย บริษัท เบ็นคิว (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ปีนี้ตลาดมีความเคลื่อนไหวไม่มากนัก เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจส่งผลให้ผู้บริโภคจำกัดการใช้จ่าย ซึ่งเบนคิว ก็ได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อกระตุ้นตลาด เพิ่มตัวไฮเอนด์ที่มีคุณสมบัติพิเศษ และเฉพาะตัวในการใช้งาน ทำให้มีผลตอบรับที่ดีขึ้นตามลำดับ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์โปรเจกเตอร์ที่บริษัทเน้นเสนอโครงการผ่านภาครัฐ และการศึกษา ทำให้ยอดขายของบริษัทเพิ่มขึ้น ทำให้คาดว่า ภายในสิ้นปีนี้บริษัทจะมียอดขายรวมอยู่ที่ 700 ล้านบาท

“ผลิตภัณฑ์โปรเจกเตอร์ถือว่า ประสบความสำเร็จใน Segment Premium อาทิ BenQ 1080p หรือ โฮมโปรเจกเตอร์ และในไตรมาส 3 เบนคิวมีมาร์เกตแชร์สูงถึง 58% เป็นอันดับ 1 ในตลาดเมืองไทย ซึ่งเป็นการตอกย้ำความเป็นผู้นำ ทั้งยังเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ใช้ว่า การเลือกซื้อโฮมโปรเจกเตอร์ของเบนคิว จะได้รับทั้งเทคโนโลยีที่ใช้งานได้จริง และคุณภาพสูงอย่างแน่นอน ซึ่งในภาพรวมโปรเจกเตอร์มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ปีนี้ตลาดรวมอยู่ที่ 90,000 เครื่อง คาดว่าปีหน้าจะอยู่ที่ 95,000 เครื่อง ปัจจุบัน เรามีแชร์อยู่ที่ 10% ปีหน้า เราจะเพิ่มเป็น 12-15% ด้วยการใช้กลยุทธ์ด้านราคาเพื่อให้ได้โครงการมากขึ้น”

อย่างไรก็ตาม กลุ่มสินค้าของเบนคิว ที่มียอดขายอันดับ 1-3 ได้แก่ อันดับ 1 LCD Monitor กับ Gaming Gear มีสัดส่วน 55% หรือประมาณ 400 ล้านบาท อันดับ 2 โปรเจกเตอร์ มีสัดส่วน 35% หรือประมาณ 250 ล้านบาท และอันดับที่ 3 ผลิตภัณฑ์จอ Interactive Flat Panel & Digital Signage มีสัดส่วน 10% หรือประมาณ 70 ล้านบาท

ทั้งนี้ ในปี 2560 เบนคิวจะยังคงมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มีผลิตภัณฑ์โฮมโปรเจกเตอร์ใหม่ๆ ออกมาสู่ตลาดในทุกๆ เซ็กเมนต์ ระดับราคา 50,000-300,000 บาท และมีแผนจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่สามารถให้ภาพที่มีคุณภาพสูง และมีอายุการใช้งานที่นานขึ้น เพื่อให้เหมาะกับการดำเนินชีวิตในปัจจุบัน โดยวางกลยุทธ์การตลาดในปี 2560 เน้นไปที่ 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์ดังเดิม แต่จะดันกลุ่ม Interactive Flat Panel & Digital Signage ให้มีมูลค่ามากขึ้น เป็นสัดส่วน 20%

ขณะที่กลุ่ม LCD จะมีสัดส่วนลดลงเหลือ 45% เนื่องจากความต้องการในตลาดลดลงตามเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป ส่วนโปรเจกเตอร์ยังคงสัดส่วนเท่าเดิม คือ 35%

สำหรับการทำตลาดยังคงเน้นการทำตลาดเฉพาะกลุ่ม (Focus Segment) เหมือนปีที่ผ่านมา อาทิ โปรเจกเตอร์ ก็ยังคงเน้นการทำตลาดกลุ่มโฮมโปรเจกเตอร์ เน้นการรีวิวสินค้า และทำดิจิตอล คอนเทนต์ เพื่อให้ผู้บริโภคได้มีข้อมูลในการอ้างอิงคุณภาพสินค้าจากผู้ใช้มืออาชีพ และเน้นการออกงาน AV HiFi ประจำปี เพื่อให้ผู้ใช้ได้ทดลองผลิตภัณฑ์พร้อมการทำเวิร์กช็อปกับผู้ใช้ นอกจากนั้น ยังเน้นการออกงาน โรดโชว์ ที่เกี่ยวกับการศึกษา เพื่อโปรโมตผลิตภัณฑ์โปรเจกเตอร์ให้กับกลุ่มโรงเรียน หรือมหาวิทยาลัย

ส่วน LCD ยังเน้นที่การทำตลาด Gaming Monitor จัดแข่ง BenQ Zowie eSport Tournament, การทำ XL Zone ในร้าน Gaming Cafe ทั่วประเทศ และการทำ Zowie Experience Zone ในร้าน Retail Gaming ทั่วประเทศ และอีกส่วนที่สำคัญ จะเน้นทำตลาดกลุ่ม B2B สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ Interactive Flat Panel, Digital Signage และกลุ่ม ProAV Projector อาทิ การจัดสัมมนา หรือเวิร์กช็อปในแต่ละไตรมาส เพื่อเพิ่มความรู้ผลิตภัณฑ์ให้กับตัวแทนจำหน่ายกับผู้ใช้กลุ่มนี้ โดยปี 2560 ตั้งยอดขายไว้ที่ 800 ล้านบาท และตั้งงบการตลาดไว้ที่ 5%

นายพัทธกร กล่าวต่อว่า ล่าสุด เบนคิวเปิดตัวโฮมโปรเจกเตอร์ “W11000” โฮมเธียเตอร์โปรเจกเตอร์ DLP ตัวแรกของโลกที่มาพร้อมกับความละเอียดของภาพในระดับ 4K UHD ความละเอียด 8.3 ล้านพิกเซล ซึ่งตรงตามข้อกำหนดของ CEA เกี่ยวกับภาพความละเอียดสูงระดับ UHD ผ่านการรับรอง THX® HD Display™ Certification ถือเป็นการการันตีประสิทธิภาพด้านการแสดงภาพอันโดดเด่นทัดเทียมโรงภาพยนตร์ระบบ DLP 4K DMD ซึ่งได้รับการออกแบบใหม่ร่วมกับเทคโนโลยี XPR และเลนส์ 4K ให้สีที่มีความแม่นยำระดับมาตรฐาน Rec 709 ตรงตามสีที่ผู้ผลิตภาพยนตร์ต้องการให้ผู้ชมได้เห็น นอกจากนี้ ยังรองรับโหมด 2.35:1 Anamorphic เหมาะสำหรับห้องที่ใช้ทำงานด้านภาพ และเสียง เลนส์สามารถขยายได้ถึง 1.5 เท่า

นอกจากนี้ ยังสามารถปรับตำแหน่งภาพได้ทั้งแนวตั้ง และแนวนอน ทำให้โปรเจกเตอร์รุ่น W11000 ให้ภาพที่มีคุณภาพดีบนฉากรับภาพ ติดตั้งได้ทั้งระยะใกล้ หรือไกล ให้ขนาดภาพตั้งแต่ขนาด 95-180 นิ้ว คุณภาพสมบูรณ์แบบด้วยราคา 249,000 บาท