ไอเอ็มซี ชี้เทรนด์ไอทีไทยยังล้าหลังทั่วโลก

ไอเอ็มซี เผยเทรนด์ไอทีในไทยยังคงวนอยู่กับ 3 เทคโนโลยีเดิม คือ Cloud, Big Data Analytics, และ IoT ขณะที่ทั่วโลกพูดถึงการหลอมรวมเทคโนโลยีเพื่อสร้างบริการดิจิตอล แต่ไทยยังอยู่ในนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ด้วยการสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคม แต่ยังขาดบุคลากรที่มีทักษะด้านไอที และการหลอมรวมเทคโนโลยี

นายธนชาติ นุ่มนนท์ ผู้อำนวยการสถาบันไอเอ็มซี กล่าวว่า เทรนด์ของเทคโนโลยีปี 2560 ของไทย ยังคงเป็นเทคโนโลยีที่คุ้นหูทั้ง Cloud, Big Data Analytics, Internet of Things (IoT) แต่การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีกำลังทำให้ระบบไอทีบางอย่างต้องเปลี่ยนแปลงไปอีกมาก อาทิ ระบบ Artificial Inlelligence และ Machine Learning จะทำให้ต่อไประบบซอฟต์แวร์ และอุปกรณ์ส่วนใหญ่ต้องมีระบบอัจฉริยะฝังอยู่ ระบบไอทีหลังบ้านก็จะเปลี่ยนไปต้องการระบบเว็บที่มีความสามารถรองรับผู้ใช้จำนวนมากมาย (Webscale IT) หรือการทำ Software Defined Data Center ส่วนติดต่อผู้ใช้ก็จะเจอกับระบบเสมือนจริง Virtual Reality (VR) และ Augmented Reality (AR) หรือระบบ Conversation System รวมถึงการเข้ามาของเทคโนโลยี Blockchain ก็อาจเห็นการประยุกต์ใช้ในเรื่องใหม่ๆ ในประเทศไทยอีกมาก

ขณะที่เทรนด์เทคโนโลยีทั่วโลกที่การ์ทเนอร์ ระบุพบว่า ล้ำสมัยกว่าประเทศไทยมาก เพราะได้ระบุไปถึงการหลอมรวมโลกเสมือนในดิจิตอลกับโลกแท้จริงเข้าด้วยกัน ซึ่งเทคโนโลยีจะถูกฝังเข้ากับทุกสิ่งของโลกธุรกิจ ทำให้สามารถให้บริการด้านดิจิตอล

ขณะที่ประเทศไทยยังอยู่ที่การสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคม ซึ่งทำตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 จึงน่าเป็นห่วงว่า ไทยจะวิ่งไม่ทันเทรนด์เทคโนโลยีของโลกมากขึ้นๆ ซึ่งต้องยอมรับว่า โครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมของไทยไม่แพ้ใคร แต่ไทยยังมีปัญหาขาดแคลนบุคลากรที่มีทักษะด้านไอที รวมถึงยังไม่มีการหลอมรวมเทคโนโลยีเข้าด้วยกัน

นายธนชาติ กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม เทรนด์ของโลกที่ตรงกับเทรนด์ของอุตสาหกรรมไอทีไทยอย่างจัง คือ FinTech ซึ่งเป็นเทคโนโลยีด้านการเงินที่จะส่งผลกับทุกธุรกิจที่ต้องรับเงินค่าบริการจากลูกค้า ซึ่งเทรนด์เหล่านี้ส่งผลกระทบกับทุกคน โดยเฉพาะกลุ่มเอสเอ็มอี สถาบันไอเอ็มซี จึงจัดงานสัมมนา “IT Trends Strategic Planning 2017 : Towards Thailand 4.0” เพื่อให้องค์กรไทยเตรียมตัววางแผนธุรกิจให้สามารถเติบโตอยู่รอดในยุคเศรษฐกิจดิจิตอล “ประเทศไทย 4.0”

“การตระหนักรู้เพื่อเตรียมพร้อมยังสำคัญมากสำหรับการปรับตัวในวันที่รัฐบาลไทยเดินตามนโยบายเศรษฐกิจดิจิตอล ประเทศไทย 4.0 จุดนี้สถาบันไอเอ็มซี มองว่า องค์กรไทยควรรู้ว่า จะสามารถทำความฝัน Value Creation ซึ่งเป็นโมเดลหลักของนโยบายนี้ได้ก็ต่อเมื่อองค์กรมีความพร้อมด้านเทคโนโลยี นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้องค์กรต้องจับตามองเทรนด์ไอทีอย่างใกล้ชิด”

หลักสูตรในงานสัมมนานี้จะทำให้คนเข้าใจว่า นับจากนี้ตลาดจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ที่เคยทำนั้น อยู่ไม่ได้ อย่างกรณี FinTech ยกตัวอย่างเช่น ธนาคาร ตอนนี้กลุ่มธนาคารรู้ตัวแล้วว่า ที่เคยทำมานั้น อยู่ไม่ได้ เมื่ออยู่ไม่ได้ก็ต้องปิดสาขาบางส่วนไป นี่เพียงแค่กลุ่มธนาคารกลุ่มเดียว ยังมีเอสเอ็มอีทั้งประเทศที่จะต้องพร้อมรับกับวิธีการจ่ายเงินที่เปลี่ยนไป ทุกคนต้องถามตัวเองว่า พร้อมไหม เพราะงานบางอย่างมันไม่มีให้ทำแล้วในยุคนี้ ยิ่งเมื่อรัฐบาลทำโครงการ ไทยแลนด์ 4.0 ทุกอย่างมันล้อกันมา เทคโนโลยีมีความอัจฉริยะ ถ้าตามไม่ทัน ศักยภาพการแข่งขันก็จะตกลง การค้าขายก็จะตกลงตามไปด้วย

ด้านนายศุภชัย สัจไพบูลย์กิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออพติมุส (ประเทศไทย) ระบุว่าเทรนด์การใช้ระบบไอทีในองค์กรไทยช่วงปีหน้าจะเป็นการสร้างคุณค่า หรือ Value Creation ไม่ใช่ Value Added หรือการเพิ่มคุณค่า จุดนี้องค์กรธุรกิจที่มีโมเดล ประเทศไทย 4.0 เป็นเป้าหมาย จะต้องเข้าใจว่า ถ้าต้องการก้าวไปได้ จำเป็นต้องใช้เทคโนโลยี เพราะเทคโนโลยีทำให้ฝันเป็นจริง

แนวโน้มนี้ทำให้ผู้ขายสินค้าไอทีต้องเปลี่ยนวิธีเสนอสินค้า ด้วยการไม่เสนอขายเฉพาะตัวสินค้า แต่เสนอทั้งระบบโซลูชั่นที่จะทำให้ธุรกิจได้รับประโยชน์ทางธุรกิจได้โดยตรง ตัวอย่างเช่น ผู้ขายระบบไวไฟ จะเสนอระบบที่ทำให้ธุรกิจเห็นโอกาสทำยอดขายที่เพิ่มขึ้น แทนที่จะเสนอแต่ความสามารถของระบบไวไฟในองค์กรอย่างเดียว

“ไม่เพียงอีคอมเมิร์ซ แต่สิ่งที่มาคู่กัน คือ ระบบชำระเงินดิจิตอลทั้งหมดนี้จำเป็นต้องใช้ดาต้าเซ็นเตอร์ที่สมบูรณ์ พวกนี้ถ้าไม่เตรียมตัวไว้ก่อน ก็จะมีผลกระทบมหาศาล ยิ่งถ้าเรามองโมเดล ประเทศไทย 4.0 เป็นเป้าหมาย การเปลี่ยนผ่านก็คือ กระบวนการที่ธุรกิจต้องทำ และการจะทำได้นั้น ต้องใช้เทคโนโลยี ตรงนี้หลักสูตรที่ออพติมุส ร่วมมือกับสถาบัน IMC จะช่วยย่อยข่าวให้มีเนื้อหาฟังง่าย ในวันที่ผู้บริหารไอทีไทยบางส่วนยังปรับตัวไม่ทัน”

สำหรับงานสัมมนา IT Trends Strategic Planning 2017 : Towards Thailand 4.0 นั้น มีกำหนดจัดขึ้นที่โรงแรมเจ้าพระยาปาร์ค รัชดา วันที่ 14-15 ธันวาคมนี้ โดย กรณ์ จาติกวณิช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และประธาน FinTech Club จะร่วมแสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับ FinTech ในมุมมองทิศทางการเงินยุคใหม่ว่า จะยกระดับอุตสาหกรรมไทยอย่างไร