xs
xsm
sm
md
lg

70 ชุด 70 ปี ดวงตราไปรษณียากรเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ธสถิตอยู่ในใจไทยทั้งปวงวลีที่ คนไทยคุ้นหูกันดีด้วยพระราชกรณียกิจ และพระปรีชาสามารถของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ตลอดระยะเวลา 70 ปีที่ทรงครองสิริราชสมบัติ เพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้แก่พสกนิกรทุกหมู่เหล่า ทรงทุ่มเททั้งพระวรกาย และพระปรีชาสามารถ เพื่อพัฒนาให้พสกนิกรของพระองค์ได้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ดังนั้น หลายหน่วยงานจึงได้มีการจัดทำผลงาน หรือสิ่งของที่ระลึก เพื่อร่วมสร้างการระลึกถึงพระมหากษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ของปวงชนชาวไทยอยู่เสมอ โดยที่ผ่านมา พระราชกรณียกิจ และพระปรีชาสามารถของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้รับการถ่ายทอดผ่านดวงตราไปรษณียากรจำนวนมาก เพื่อให้พสกนิกรได้ซาบซึ้งถึงพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้น

นายวิบูลย์ เสรีชัยพร ผู้จัดการฝ่ายตลาดไปรษณียากร บริษัท ไปรษณีย์ไทยจำกัด (ปณท) เล่าว่าไปรษณีย์ไทยได้จัดทำตราไปรษณียากรขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ตลอด 7 ทศวรรษที่ผ่านมา ของพระองค์มีจำนวนทั้งสิ้น 70 ชุด 349 แบบจำนวนพิมพ์กว่า 2 พันล้านดวง โดยสามารถจำแนกกลุ่มการจัดทำได้ ดังนี้

1.ตราไปรษณียากรพระบรมฉายาลักษณ์ 10 ชุด หรือการจัดทำแสตมป์ทั่วไป (definitive stamp) ซึ่งโดยปกติจะจัดทำเป็นพระบรมฉายาลักษณ์ในพระมหากษัตริย์ของประเทศ โดยจัดทำขึ้นชุดแรกเพื่อเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อปี 2490 ในชื่อชุดพระบรมฉายาลักษณ์ ร. 9 ชุด 1 (สยาม) และหลังจากนั้น มีการจัดทำขึ้นอย่างต่อเนื่องอีกจำนวน 9 ชุด ได้แก่ ชุดปี พ.ศ.2494 พ.ศ.2504 พ.ศ.2506 พ.ศ.2515 พ.ศ.2516 พ.ศ.2523 พ.ศ.2531 พ.ศ.2539 จนถึงชุดสุดท้ายในปี พ.ศ.2553 รวมทั้งสิ้น 10 ชุด ชุดที่ 10 คือ เมื่อปี พ.ศ.2553

2.ตราไปรษณียากรฉลองครบรอบพระชนมายุ จำนวน 24 ชุด เป็นการจัดทำตราไปรษณียากรขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองวันคล้ายวันพระราชสมภพ 5 ธันวาคม ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยเริ่มต้นจัดทำชุดแรกในวโรกาสที่ทรงสามารถใช้สิทธิตามกฎหมาย เมื่อทรงพระชนมายุ 20 พรรษา และจากนั้น มีการจัดทำทุก 1 รอบ (12 ปี) ในปี พ.ศ.2506 พ.ศ.2518 พ.ศ.2530 พ.ศ.2542 พ.ศ.2554 ซึ่งหลังจากชุดปี พ.ศ.2554 ก็จัดทำขึ้นเป็นประจำทุกปี และชุดสุดท้าย คือ ชุดที่ระลึกวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อพระชนมายุ 88 พรรษา ในปี พ.ศ. 2558

3.ตราไปรษณียากรพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติ 13 ชุดตราไปรษณียากรที่ระลึกเพื่อเฉลิมฉลองวโรกาสพระราชพิธี ฉลองสิริราชสมบัติในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยจัดทำขึ้นครั้งแรกในวโรกาสที่ระลึกพระราชพิธีบรมราชาภิเษกในปี พ.ศ.2493 และจากนั้น เป็นการจัดทำตราไปรษณียากรที่ระลึกในวโรกาสครองสิริราชสมบัติครบ 25 ปี ในชื่อชุด ที่ระลึกรัชดาภิเษก และชุดครบรอบ 28 ปี 50 ปี จนถึงชุดสุดท้ายครบรอบ 60 ปี ที่จัดทำขึ้นในปี พ.ศ.2553

4.ตราไปรษณียากรพระราชกรณียกิจ และพระอัจฉริยภาพ 5 ชุด เป็นการจัดทำตราไปรษณียากรขึ้น เพื่อให้ประชาชนได้ตระหนักถึงพระราชกรณียกิจที่ทรงทุ่มเทปฏิบัติด้วยพระอัจฉริยภาพ เพื่อให้เกิดประโยชน์อันสูงสุดแก่คนไทย และประเทศไทย โดยชุดแรกที่จัดทำ คือ ตราไปรษณียากรที่ระลึกโครงการที่ดำเนินการตามพระราชดำริ เพื่อเผยแพร่ให้ความรู้เกี่ยวกับโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และชุดอื่นๆ ได้แก่ ที่ระลึกพระราชอัจฉริยภาพด้านโทรคมนาคม ที่ระลึกการเกษตรทฤษฎีใหม่ ที่ระลึกพระบิดาแห่งมาตรฐานการช่างไทย และชุดสุดท้ายชื่อชุด ที่ระลึกพระผู้ทรงเป็นครูแห่งแผ่นดินเพื่อเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพระราชกรณียกิจด้านการศึกษา ที่จัดทำขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2555

5.ตราไปรษณียากรราชาภิเษกสมรส 4 ชุด ตราไปรษณียากรที่ระลึกเพื่อร่วมบันทึกความประทับใจ และร่วมเฉลิมฉลองวโรกาสราชาภิเษกสมรสระหว่างพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ โดยจัดทำชุดแรก คือ ตราไปรษณียากรที่ระลึกราชาภิเษกสมรส 15 ปี ในปี พ.ศ.2508 และครบรอบ 25 ปี 50 ปี และ 60 ปี โดยมีไฮไลต์เป็นชุดพิเศษ คือ ตราไปรษณียากรที่ระลึก 60 ปี ราชาภิเษกสมรส ซึ่งประดับด้วยคริสตัลแท้จากออสเตรีย เป็นภาพ 2 ชุด พระบรมสาทิสลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงฉายไว้เมื่อครั้งพระราชพิธีราชาภิเษกสมรส พื้นแบ็กกราวนด์สีชมพู และพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในพระชนมพรรษาปัจจุบัน พื้นแบ็กกราวนด์สีเหลือง ประดับด้วยวัสดุทางการพิมพ์เป็นภาพเพชรรูปหัวใจ จำนวน 6 เม็ด

6.ตราไปรษณียากรที่ระลึกอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง 17 ชุด เป็นตราไปรษณียากรที่จัดทำขึ้นเนื่องในวโรกาสต่างๆ โดยแต่ละชุดล้วนแสดงถึงพระปรีชาสามารถของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทั้งสิ้น และเป็นพระราชกรณียกิจ และพระราชอัจฉริยภาพที่มีความสำคัญต่อประชาชนชาวไทย และประเทศไทย อาทิ ตราไปรษณียากรที่ระลึกเอเชียนเกมส์ครั้งที่ 6 ตราไปรษณียากรที่ระลึกงานชุมนุมลูกเสือแห่งชาติครั้งที่ 9 พ.ศ.2520 ตราไปรษณียากรที่ระลึก งานสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี ตราไปรษณียากรที่ระลึก ครบรอบ 100 ปี ธนบัตรไทยตราไปรษณียากรที่ระลึก 100 ปี งานวิจัยข้าวไทย

ทั้งนี้ การจัดสร้างตราไปรษณียากรที่เกี่ยวข้องกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทุกชุดนั้น ไปรษณีย์ไทยใส่ใจทุกรายละเอียดในการออกแบบ รวมถึงยังประยุกต์ใช้เทคโนโลยีการพิมพ์ที่ทันสมัย เพื่อให้ตราไปรษณียากรที่ระลึกดังกล่าวให้มีความเหมาะสมกับการอัญเชิญพระบรมฉายาลักษณ์ หรือพระบรมสาทิสลักษณ์ เพื่อจัดทำตราไปรษณียากร โดยตัวอย่างของตราไปรษณียากรพิเศษ ได้แก่ ตราไปรษณียากรชุดที่ระลึกมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 รอบ จัดทำขึ้นโดยใช้เทคนิคการปั๊มทองคำแท้ดุนนูน ตราไปรษณียากรชุดที่ระลึก 60 ปี ราชาภิเษก ที่มีการใช้เทคนิคประดับวัสดุทางการพิมพ์เป็นภาพเพชรรูปหัวใจ จำนวน 6 เม็ด และยังมีเทคนิคพิเศษต่างๆ อีกมากมาย อาทิ การปั๊มดุนนูน เคลือบเงา ปั๊มฟอยล์ทอง เงิน นาก พิมพ์แบบสามมิติ ฮาโลแกรม รวมไปถึงการใช้วัสดุพิเศษเพิ่มเติมให้ตราไปรษณียากรมีคุณค่ามากขึ้น อาทิ คริสตัล ทองคำ เมล็ดข้าวเปลือก

อย่างไรก็ตาม ตราไปรษณียากรเฉลิมพระเกียรติชุดล่าสุด และถือเป็นชุดสุดท้ายที่จัดทำขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คือ ชุด 100 ปีงานวิจัยข้าวไทย กำหนดออกจำหน่ายเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2559 ซึ่งเป็นภาพพระบรมฉายาลักษณ์ ของพระพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินไปยังพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระสุริโยทัย ทุ่งมะขามหย่อง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อทรงเกี่ยวข้าวในนาที่ใช้น้ำจากอ่างเก็บน้ำในพื้นที่รอบพระราชานุสาวรีย์ฯ ตามโครงการส่งเสริมอาชีพปลูกข้าวนาปรัง เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2539 แสตมป์ชุดนี้เป็นชนิดราคา 3 บาท เต็มแผ่น 10 ดวง 30 บาทซองวันแรกจำหน่าย 11 บาท ส่วนจะมีการจัดทำตราไปรษณียากรที่ระลึกพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อีกหรือไม่นั้น ต้องพิจารณาตามวโรกาสที่เหมาะสมต่อไป














กำลังโหลดความคิดเห็น