ทุกวันนี้ในแวดวงธุรกิจ และเทคโนโลยีไปทางไหนก็ได้ยินแต่คำว่า อินดัสตรี 4.0 (Industry 4.0)
อินดัสตรี 4.0 หรือในชื่อเต็ม คือ การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 คือ การใช้ผสมผสานเทคโนโลยีดิจิตอล และการสื่อสารเข้ามาปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิต เช่น เทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติ (3D Printing) โดยการพิมพ์ 3 มิตินั้น เอื้อให้เราสามารถสร้างชิ้นส่วนต่างๆ ได้เองในองค์กร โดยไม่ต้องรอสั่งมาจากที่อื่น และไม่ต้องเก็บสต๊อกชิ้นส่วน เทคโนโลยีนี้เอื้อให้เราผลิตชิ้นงานเมื่อต้องการจะใช้เท่านั้น ซึ่งเทคโนโลยีนี้ก็จะส่งผลกระทบต่อกระบวนการผลิต และการขนส่งที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 จะนำมาสู่บริการหลากหลายรูปแบบในอนาคต อันเอื้อให้ผู้ประกอบการไม่จำเป็นต้องมีระบบต่างๆ ครบถ้วน แต่สามารถเลือกเช่าใช้บริการได้อย่างเหมาะสม ตามสถานการณ์ รวมไปถึงบริการคลาวด์ (Cloud) ด้วยเช่นกัน
คลาวด์คอมพิวติ้ง (Cloud Computing) คือ การใช้คอมพิวเตอร์เพื่อแบ่งปันทรัพยากร ซอฟต์แวร์ และสารสนเทศระหว่างกันผ่านอินเทอร์เน็ตได้จากทุกที่ทุกเวลาให้มาทำงานร่วมกัน เพื่อช่วยขับเคลื่อนการบริการทางด้านไอทีที่เอื้อต่อการทำธุรกิจ เช่น การเก็บข้อมูลบริษัท-ข้อมูลลูกค้า การติดต่อสื่อสาร บริหารจัดการภายใน และระหว่างองค์กร การทำกิจกรรมทางการตลาด ฯลฯ โดยจุดเด่นของคลาวด์คอมพิวติ้งมีมากมาย เช่น เอื้อให้องค์กรสามารถนำไอทีไปประยุกต์ใช้ในเชิงธุรกิจทำได้ง่าย และประหยัดขึ้นกว่าในอดีต โดยองค์กรสามารถใช้บริการทางด้านไอทีได้ โดยไม่จำเป็นต้องลงทุนมากมายกับระบบหลังบ้าน โครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีของตน แต่สามารถเลือกเช่าใช้ได้ตามความต้องการ และสอดคล้องกับงบประมาณ เป็นต้น
AIS Enterprise Cloud เป็นหนึ่งในบริการคลาวด์ แพลตฟอร์ม (Cloud platform) สำหรับลูกค้าองค์กร ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ตั้งแต่องค์กรขนาดใหญ่จนถึงผู้ประกอบการ SME และ Startup ที่ช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถลดต้นทุนด้านไอที โดยเปลี่ยนจากการค่าใช้จ่ายในการลงทุนจัดซื้ออุปกรณ์ Hardware และ Software (CAPEX) รวมถึงการหาบุคลากรผู้ชำนาญการมาดูแล มาเป็นการเช่าใช้บริการ Cloud platform จากผู้ให้บริการที่มีความรู้ ความชำนาญ โดยลูกค้าสามารถเลือกใช้ทรัพยากรด้านไอทีตามความต้องการในการใช้งานจริง และชำระค่าบริการเป็นค่าบริการรายเดือน (OPEX) เพื่อให้ธุรกิจมีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ลูกค้าสามารถเช่าใช้เครื่องคอมพิวเตอร์เสมือน (Virtual Machine) ที่รวมตั้งแต่ CPU, RAM, Storage และ Firewall และคิดค่าบริการรูปแบบของค่าบริการรายเดือน และรายวัน ในกรณีที่ต้องการเพิ่มการใช้งานระยะเวลาสั้นๆ เพื่อรองรับกิจกรรมทางการตลาด โดยสามารถเลือกแพกเกจได้ตามความต้องการในการใช้งาน
นอกเหนือจากแพกเกจมาตรฐานที่สามารถเลือกการใช้งาน CPU, RAM และ Storage ได้ตามความต้องการแล้ว ลูกค้ายังสามารถเลือกบริการเสริมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของ Cloud service ได้อีกหลากหลายบริการและครบถ้วน ทั้งการติดตั้ง และ Configure ระบบความปลอดภัยบน Cloud ด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด จาก VMware NSX หรือบริการเพื่อเพิ่มความเสถียรภาพ และในกรณีที่องค์กรใดมีการใช้งาน Cloud infrastructure อยู่ที่อื่น ก็สามารถเลือกใช้บริการในการย้ายข้อมูลจากระบบ Server แบบเก่าขึ้นสู่ระบบ Cloud ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และไม่กระทบต่อการดำเนินูธุรกิจของลูกค้า โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญจากเอไอเอส
จุดเด่นของ AIS Enterprise Cloud
• One-stop Cloud Service Provider
AIS เป็นผู้ให้บริการ Cloud แบบ End-to-End ตั้งแต่ Cloud Infrastructure, Internet Connectivity และ Mobile Service จึงทำให้ประสิทธิภาพในการส่งมอบบริการให้กับลูกค้าสามารถเป็นไปได้อย่างไร้รอยต่อ
• Reliability : SLA 99.99%, Certified ISO 27001
AIS Enterprise Cloud ตั้งอยู่บน Carrier Grade Data Center ที่ได้รับมาตรฐานในการให้บริการ ISO 27001 พร้อมด้วยมาตรฐานในการให้บริการ Cloud ระดับ SLA 99.99% ซึ่งเป็นมาตรฐานการให้บริการ Cloud ที่ดีที่สุดในปัจจุบัน
• Security : VMware NSX technology
AIS เป็น Cloud Service Provider รายแรกในประเทศไทย ที่นำเอาเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด จาก VMware NSX ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยในเรื่องของ Cloud security service มาให้บริการกับลูกค้าองค์กร ซึ่งช่วยให้ IT ขององค์กรสามารถสร้าง และบริหารจัดการ Cloud ได้อย่างปลอดภัย และรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
• Cost Effectiveness : Total Business Solutions
ด้วยบริการที่หลากหลายจาก AIS Business Solutions ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นบริการทางด้านไอที บริการที่เพิ่มประสิทธิภาพในการสื่อสาร บริการที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านการตลาด และบริการที่ออกแบบมาเฉพาะธุรกิจ จึงช่วยให้องค์กรสามารถบริหารจัดการต้นทุนในการดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
จากจุดเด่นข้างต้น ประกอบกับโครงข่ายของเอไอเอส ซึ่งมีความพร้อมด้านโครงข่ายไร้สาย โดยเอไอเอส มีเครือข่าย ทั้ง 3G 4G และ 4.5G มากกว่า 58,000 สถานีฐาน ขณะเดียวกัน ยังมีโครงข่ายไฟเบอร์ รวมถึงโครงข่ายผสมผสานทั้งไร้สาย และมีสายสำหรับภาคธุรกิจโดยเฉพาะ นอกจากนี้ ยังมีแบนด์วิธในการเชื่อมต่อไปยังต่างประเทศมากถึง 280 Gbps ที่สำคัญ
เอไอเอส ได้สร้างศูนย์ดาต้า เซ็นเตอร์เอง โดยปัจจุบันมีอยู่ 6 แห่ง คือ ปทุมธานี บางปะกง สุวรรณภูมิ เชียงใหม่ หาดใหญ่ และขอนแก่น ทำให้เอไอเอส กลายเป็นผู้ให้บริการคลาวด์ได้แบบ End-to-End Single Service Provider อย่างครบวงจรหนึ่งเดียวในประเทศไทย
นอกจากนี้ เอไอเอส ยังจับมือกับพันธมิตรชั้นนำระดับโลก Microsoft, NetApp, Check Point ร่วมเปิดให้บริการ “คลาวด์เพื่อธุรกิจ (AIS Business Cloud)” อย่างเต็มรูปแบบ เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าทุกประเภทอุตสาหกรรม ตามมาตรฐานสากล ตั้งแต่ Cloud Infrastructure, Platform, Software, Network, Security ไปจนถึง Managed Services
รายละเอียดเพิ่มเติมคลิก >> http://business.ais.co.th/th/product/enterprise-cloud
อินดัสตรี 4.0 หรือในชื่อเต็ม คือ การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 คือ การใช้ผสมผสานเทคโนโลยีดิจิตอล และการสื่อสารเข้ามาปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิต เช่น เทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติ (3D Printing) โดยการพิมพ์ 3 มิตินั้น เอื้อให้เราสามารถสร้างชิ้นส่วนต่างๆ ได้เองในองค์กร โดยไม่ต้องรอสั่งมาจากที่อื่น และไม่ต้องเก็บสต๊อกชิ้นส่วน เทคโนโลยีนี้เอื้อให้เราผลิตชิ้นงานเมื่อต้องการจะใช้เท่านั้น ซึ่งเทคโนโลยีนี้ก็จะส่งผลกระทบต่อกระบวนการผลิต และการขนส่งที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 จะนำมาสู่บริการหลากหลายรูปแบบในอนาคต อันเอื้อให้ผู้ประกอบการไม่จำเป็นต้องมีระบบต่างๆ ครบถ้วน แต่สามารถเลือกเช่าใช้บริการได้อย่างเหมาะสม ตามสถานการณ์ รวมไปถึงบริการคลาวด์ (Cloud) ด้วยเช่นกัน
คลาวด์คอมพิวติ้ง (Cloud Computing) คือ การใช้คอมพิวเตอร์เพื่อแบ่งปันทรัพยากร ซอฟต์แวร์ และสารสนเทศระหว่างกันผ่านอินเทอร์เน็ตได้จากทุกที่ทุกเวลาให้มาทำงานร่วมกัน เพื่อช่วยขับเคลื่อนการบริการทางด้านไอทีที่เอื้อต่อการทำธุรกิจ เช่น การเก็บข้อมูลบริษัท-ข้อมูลลูกค้า การติดต่อสื่อสาร บริหารจัดการภายใน และระหว่างองค์กร การทำกิจกรรมทางการตลาด ฯลฯ โดยจุดเด่นของคลาวด์คอมพิวติ้งมีมากมาย เช่น เอื้อให้องค์กรสามารถนำไอทีไปประยุกต์ใช้ในเชิงธุรกิจทำได้ง่าย และประหยัดขึ้นกว่าในอดีต โดยองค์กรสามารถใช้บริการทางด้านไอทีได้ โดยไม่จำเป็นต้องลงทุนมากมายกับระบบหลังบ้าน โครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีของตน แต่สามารถเลือกเช่าใช้ได้ตามความต้องการ และสอดคล้องกับงบประมาณ เป็นต้น
AIS Enterprise Cloud เป็นหนึ่งในบริการคลาวด์ แพลตฟอร์ม (Cloud platform) สำหรับลูกค้าองค์กร ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ตั้งแต่องค์กรขนาดใหญ่จนถึงผู้ประกอบการ SME และ Startup ที่ช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถลดต้นทุนด้านไอที โดยเปลี่ยนจากการค่าใช้จ่ายในการลงทุนจัดซื้ออุปกรณ์ Hardware และ Software (CAPEX) รวมถึงการหาบุคลากรผู้ชำนาญการมาดูแล มาเป็นการเช่าใช้บริการ Cloud platform จากผู้ให้บริการที่มีความรู้ ความชำนาญ โดยลูกค้าสามารถเลือกใช้ทรัพยากรด้านไอทีตามความต้องการในการใช้งานจริง และชำระค่าบริการเป็นค่าบริการรายเดือน (OPEX) เพื่อให้ธุรกิจมีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ลูกค้าสามารถเช่าใช้เครื่องคอมพิวเตอร์เสมือน (Virtual Machine) ที่รวมตั้งแต่ CPU, RAM, Storage และ Firewall และคิดค่าบริการรูปแบบของค่าบริการรายเดือน และรายวัน ในกรณีที่ต้องการเพิ่มการใช้งานระยะเวลาสั้นๆ เพื่อรองรับกิจกรรมทางการตลาด โดยสามารถเลือกแพกเกจได้ตามความต้องการในการใช้งาน
นอกเหนือจากแพกเกจมาตรฐานที่สามารถเลือกการใช้งาน CPU, RAM และ Storage ได้ตามความต้องการแล้ว ลูกค้ายังสามารถเลือกบริการเสริมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของ Cloud service ได้อีกหลากหลายบริการและครบถ้วน ทั้งการติดตั้ง และ Configure ระบบความปลอดภัยบน Cloud ด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด จาก VMware NSX หรือบริการเพื่อเพิ่มความเสถียรภาพ และในกรณีที่องค์กรใดมีการใช้งาน Cloud infrastructure อยู่ที่อื่น ก็สามารถเลือกใช้บริการในการย้ายข้อมูลจากระบบ Server แบบเก่าขึ้นสู่ระบบ Cloud ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และไม่กระทบต่อการดำเนินูธุรกิจของลูกค้า โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญจากเอไอเอส
จุดเด่นของ AIS Enterprise Cloud
• One-stop Cloud Service Provider
AIS เป็นผู้ให้บริการ Cloud แบบ End-to-End ตั้งแต่ Cloud Infrastructure, Internet Connectivity และ Mobile Service จึงทำให้ประสิทธิภาพในการส่งมอบบริการให้กับลูกค้าสามารถเป็นไปได้อย่างไร้รอยต่อ
• Reliability : SLA 99.99%, Certified ISO 27001
AIS Enterprise Cloud ตั้งอยู่บน Carrier Grade Data Center ที่ได้รับมาตรฐานในการให้บริการ ISO 27001 พร้อมด้วยมาตรฐานในการให้บริการ Cloud ระดับ SLA 99.99% ซึ่งเป็นมาตรฐานการให้บริการ Cloud ที่ดีที่สุดในปัจจุบัน
• Security : VMware NSX technology
AIS เป็น Cloud Service Provider รายแรกในประเทศไทย ที่นำเอาเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด จาก VMware NSX ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยในเรื่องของ Cloud security service มาให้บริการกับลูกค้าองค์กร ซึ่งช่วยให้ IT ขององค์กรสามารถสร้าง และบริหารจัดการ Cloud ได้อย่างปลอดภัย และรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
• Cost Effectiveness : Total Business Solutions
ด้วยบริการที่หลากหลายจาก AIS Business Solutions ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นบริการทางด้านไอที บริการที่เพิ่มประสิทธิภาพในการสื่อสาร บริการที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านการตลาด และบริการที่ออกแบบมาเฉพาะธุรกิจ จึงช่วยให้องค์กรสามารถบริหารจัดการต้นทุนในการดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
จากจุดเด่นข้างต้น ประกอบกับโครงข่ายของเอไอเอส ซึ่งมีความพร้อมด้านโครงข่ายไร้สาย โดยเอไอเอส มีเครือข่าย ทั้ง 3G 4G และ 4.5G มากกว่า 58,000 สถานีฐาน ขณะเดียวกัน ยังมีโครงข่ายไฟเบอร์ รวมถึงโครงข่ายผสมผสานทั้งไร้สาย และมีสายสำหรับภาคธุรกิจโดยเฉพาะ นอกจากนี้ ยังมีแบนด์วิธในการเชื่อมต่อไปยังต่างประเทศมากถึง 280 Gbps ที่สำคัญ
เอไอเอส ได้สร้างศูนย์ดาต้า เซ็นเตอร์เอง โดยปัจจุบันมีอยู่ 6 แห่ง คือ ปทุมธานี บางปะกง สุวรรณภูมิ เชียงใหม่ หาดใหญ่ และขอนแก่น ทำให้เอไอเอส กลายเป็นผู้ให้บริการคลาวด์ได้แบบ End-to-End Single Service Provider อย่างครบวงจรหนึ่งเดียวในประเทศไทย
นอกจากนี้ เอไอเอส ยังจับมือกับพันธมิตรชั้นนำระดับโลก Microsoft, NetApp, Check Point ร่วมเปิดให้บริการ “คลาวด์เพื่อธุรกิจ (AIS Business Cloud)” อย่างเต็มรูปแบบ เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าทุกประเภทอุตสาหกรรม ตามมาตรฐานสากล ตั้งแต่ Cloud Infrastructure, Platform, Software, Network, Security ไปจนถึง Managed Services
รายละเอียดเพิ่มเติมคลิก >> http://business.ais.co.th/th/product/enterprise-cloud
(พื้นที่ประชาสัมพันธ์)
