xs
xsm
sm
md
lg

อาร์บีทีฯ รุกตลาดโดรนเพิ่มหลังอุปกรณ์เสริมมือถืออิ่มตัว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


อาร์บีทีฯ เผยตลาดสมาร์ทโฟนอิ่มตัว ทำยอดอุปกรณ์ชาร์จ และเคสมือถือชะลอตัว หันรุกทำตลาดอุปกรณ์เสริมในการเชื่อมต่อเพิ่มขึ้น ชี้ภายใน 2 ปีจะสร้างรายได้ 90% เตรียมเปิดโดรนรุ่นใหม่รองรับความนิยมของตลาด จากเป้าหมายในการจำหน่ายปีละ 5,000 เครื่อง พร้อมเดินหน้าทุ่มงบ 20 ล้านบาท รุกตลาดครึ่งปีหลัง หวังขยายฐานลูกค้าเพิ่ม 20%

นายบรรพต วัฒนสมบัติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาร์ทีบี เทคโนโลยี จำกัด กล่าวว่า ปีนี้เป็นปีที่เหนื่อยอีกปีหนึ่ง เพราะตลาดสมาร์ทโฟนอิ่มตัวส่งผลให้อุปกรณ์เสริม เช่น สายชาร์จ พาวเวอร์แบงค์ เคสโทรศัพท์มือถือชะลอตัวตามไปด้วย ทำให้แผนการทำตลาดครึ่งปีหลังของบริษัทต้องเน้นนำสินค้าอุปกรณ์เชื่อมต่อ (Connected Device) เข้าสู่ตลาดให้ครอบคลุมหลายเซกเมนต์มากขึ้น

โดยคาดว่าภายใน 2 ปี สินค้าอุปกรณ์เชื่อมต่อจะสร้างรายได้หลัก 90% ให้กับบริษัท โดยในอนาคตอันใกล้บริษัทจะเปิดตัวโดรนหลายรุ่นในราคาระดับตั้งแต่ 1 หมื่นบาทขึ้นไป เพื่อเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคมากขึ้น ตอบรับความนิยมในตลาด ซึ่งลูกค้าที่ซื้อโดรนกับบริษัทจะได้รับคอร์สอบรมการใช้งานด้วย ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องการใช้งาน ซึ่งตนเองคาดว่าจะสามารถมียอดขายปีละ 5,000 เครื่อง

อย่างไรก็ตาม จนถึงสิ้นปีนี้มีแผนที่จะผนึกกำลังกับพันธมิตรที่มีความแข็งแกร่งในอุปกรณ์เสริมต่างๆ ที่เป็นเทรนด์กำลังมาแรงเข้ามาทำตลาดในเมืองไทยทั้งหมด 13 แบรนด์ ประกอบด้วย หูฟังไร้สายจาบร้า (Jabra) หูฟังออดิโอ เทคนิกา (Audio-Technica) โดรนซีโร่ (Xiro) กล้องติดรถยนต์ดีโอดี (DOD) สายชาร์จเอ็นเนอร์เจีย (Energea) เคสและกระเป๋ายูนีค (Uniq) กล้องไว-ไฟโมโตโรล่า (Motorola) หูฟังฟิลิปส์ (Philips) แบตเตอรี่โมฟี่ (Mophie) แท่นชาร์จเดอะคูปไอเดีย (The Coopidea) หูฟังแม็กเซ็ลล์ (Maxell) รวมถึงสินค้าสมาร์ทโฮมจากยาคอป เย็นเซ็น (Jacob Jensen) และสมานอส (Smanos)

“การแข่งขันในตลาดไลฟ์สไตล์แก็ดเจ็ตปีนี้ค่อนข้างรุนแรง เนื่องจากเป็นตลาดที่กำลังเติบโต ดังจะเห็นได้จากการที่มีแบรนด์ใหม่เข้ามาในตลาดมากมาย พร้อมมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่สู่ตลาดต่อเนื่อง แต่ในทางกลับกัน ช่วง 2-3 ปีนี้ สภาพเศรษฐกิจยังไม่ค่อยดีนัก ส่งผลให้เกิดการแข่งขันกันอย่างเข้มข้น และก็มีบางแบรนด์ หรือบางบริษัทต้องปิดตัวไปจากตลาดในเมืองไทย หรือตลาดโลกเช่นกัน”

ส่วนปัจจัยหนุนสำคัญที่ทำให้ตลาดมีการเติบโตมาจากการขยายตัวของ Internet of Things (IoTs) จากการมีเครือข่าย 4G ทำให้ผู้บริโภคสามารถเชื่อมโยงทุกสิ่งทุกอย่างเข้าสู่โลกอินเทอร์เน็ตได้สะดวกขึ้น ประกอบกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ทำให้อุปกรณ์แก็ดเจ็ตต่างๆ ใช้งานง่ายขึ้น ส่งผลให้อุปกรณ์ต่างๆ ที่เคยใช้งานเฉพาะมืออาชีพ สามารถเข้ามาทำตลาดในกลุ่มผู้บริโภคทั่วไปได้ เช่น การถ่ายภาพด้วยโดรน การใช้หูฟังเพื่อการแต่งเพลง หรือแกะเพลง การติดตั้งระบบกันขโมยบ้านด้วยตัวเอง หรือแม้กระทั่งวิเคราะห์การออกกำลังกายของตัวเองจากข้อมูลการเต้นของหัวใจที่วัดได้จากหูฟัง ด้วยเหตุผลเหล่านี้ จึงทำตลาดไลฟ์สไตล์ แก็ดเจ็ต ได้รับความสนใจสูงขึ้นจากผู้บริโภคกลุ่มที่ใหญ่ขึ้น

นายบรรพต กล่าวต่อว่า สำหรับงบการตลาดช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทเตรียมไว้ที่ 20 ล้านบาท โดยจะเน้นสื่อสารการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ และในรูปแบบวิดีโอมากขึ้น เนื่องจากนวัตกรรมที่อาร์ทีบีฯ นำเข้ามาทำตลาดเริ่มจะมีความซับซ้อนมากขึ้น เพราะมีแอปพลิเคชัน หรือเซ็นเซอร์ในการเชื่อมต่อใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นนวัตกรรมการรักษาความปลอดภัยในบ้านอัจฉริยะ หรือสมาร์ทโฮม โดรน หรืออากาศยานไร้คนขับ

“อาร์ทีบี ต้องอาศัย Rich Media ที่สามารถสื่อสารเรื่องราว และคุณสมบัติผลิตภัณฑ์ได้รวดเร็วชัดเจน ควบคู่ไปกับการสร้างประสบการณ์ใช้งานให้ลูกค้า ผ่านการจัดกิจกรรมในรูปแบบต่างๆ กับตัวแทนจำหน่าย และผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย เพื่อให้ผู้บริโภคได้มีโอกาสสัมผัสกับคุณภาพของผลิตภัณฑ์ใหม่มากยิ่งขึ้น”

ขณะที่ช่องทางการจัดจำหน่าย จะมุ่งเสริมช่องทางการจัดจำหน่ายเดิมที่มีอยู่ทั่วประเทศผ่านตัวแทนจำหน่ายชั้นนำที่มีความแข็งแกร่ง จำนวนกว่า 300 รายทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางออนไลน์ ควบคู่กับการเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายใหม่ๆ ที่เน้นผ่านช่องทางจำหน่ายสินค้าเฉพาะทางมากขึ้น อย่างช่องทางทางด้านเฟอร์นิเจอร์ โดรน ร้านประดับยนต์ และเครื่องเสียง นอกจากนี้ ยังขยายเข้าสู่ประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งได้แก่ พม่า กัมพูชา และลาว ส่วนรายได้สิ้นปีนี้จะใกล้เคียงกับรายได้ปีที่แล้ว ซึ่งมีรายได้อยู่ที่ 400 ล้านบาท

Company Relate Link :
RTB
กำลังโหลดความคิดเห็น